ทัศนะของนักข่าวต่างชาติ ต่อนายกรัฐมนตรีทรราช ที่ชื่อ ".ประยุทธ์ จันทร์โอชา"
-
หลังจาก สนช. มีมติเลือก ทรราช ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย สื่อมวลชนจำนวนมากต่างก็ให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวและปูมประวัติของว่าที่ผู้นำคนใหม่
-
ไม่ใช่แค่สื่อไทยเท่านั้นที่ค้นคว้าเรื่องราวในแง่มุมต่างๆ ของ ทรราชประยุทธ์ กันให้จ้าละหวั่น แต่สื่อต่างชาติหลายสำนัก ต่างก็พยายามวิเคราะห์ถึงการขึ้นครองอำนาจของหัวหน้า คสช. รวมทั้งสิ่งที่ว่าที่นายกฯ อาจต้องเผชิญในอนาคต
-
นี่เป็นบางส่วนจากบทวิเคราะห์ของสื่อต่างชาติเหล่านั้น
-
โธมัส ฟุลเลอร์ ผู้สื่อข่าวนิวยอร์คไทม์ส แสดงทัศนะในบทวิเคราะห์ของเขาว่า การเข้าควบคุมอำนาจของกองทัพไทยในปีนี้ ดูเหมือนจะสวนกระแสประชาธิปไตยในภูมิภาคอาเซียน เช่น ในอินโดนีเซีย ซึ่งนักการเมืองท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมจากประชาชน เพิ่งชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี เหนืออดีตนายพลของกองทัพ ส่วนที่เมียนมาร์ ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่มีหลายพรรคการเมืองก็เริ่มลงหลักปักฐาน หลังจากที่ต้องปกครองด้วยระบอบเผด็จการทหารมาร่วมห้าทศวรรษ
-
ฟุลเลอร์ตั้งข้อสังเกตว่า ทรราช คสช. กล่าวว่าจะทำการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้กำหนดตารางเวลาที่แน่นอนสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ยังระบุด้วยว่า ระบอบประชาธิปไตยที่จะถูกฟื้นฟูขึ้นนั้น จะต้อง "มีความเหมาะสมกับบริบทของสังคมไทย" ซึ่งเป็นคุณสมบัติอันคลุมเครือ ที่ยังมิได้ถูกนิยามให้มีความหมายกระจ่างชัด
-
ผู้สื่อข่าวต่างประเทศรายนี้ อ้างอิงคำสัมภาษณ์ของ นายธงชัย วินิจจะกูล ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน ซึ่งชี้ว่า คสช. มีท่าทีรังเกียจนักการเมือง และปรารถนาถึงระบบเผด็จอำนาจที่มีคุณธรรม เช่นเดียวกับคนไทยบางพวก อย่างไรก็ดี นายธงชัยเตือนว่า การปกครองแบบพ่อขุนอุปถัมภ์นั้นจะไม่เหมาะสมกับสังคมไทยอีกต่อไป เพราะสภาพสังคมมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ผู้นำทหารที่มีความเข้มแข็งในยุคก่อน สามารถปกครองประเทศไทยที่เป็นสังคมเกษตรกรรมยากจนได้ ทว่า ประเทศไทยในปัจจุบันนั้น มีประชากรผู้มีความตื่นตัวทางการเมืองมากยิ่งขึ้น
-
ฟุลเลอร์ยังสัมภาษณ์ นายสุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญในประเด็นวิชาการเรื่องกองทัพไทย ซึ่งอธิบายระบอบอำนาจปัจจุบันว่าเป็น "ระบบเผด็จการแบบอ่อน" และเห็นว่า นายทหารระดับสูงกำลังพยายามแสวงหาตำแหน่งแห่งที่อันมั่นคงในอนาคตให้แก่ตนเอง
-
"สิ่งที่นายทหารระดับสูงต้องการคือ ระบอบประชาธิปไตยแบบชี้นำ ซึ่งกองทัพมีบทบาทในการบังคับควบคุม" นายสุรชาติ คาดการณ์
-
อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ วิเคราะห์ว่า การยอมรับที่สาธารณชนชาวไทยจะมีให้แก่รัฐบาลทหารนั้น ขึ้นอยู่กับว่านายทหารระดับสูงที่เข้ามาควบคุมอำนาจจะ "มือสะอาด" มากแค่ไหน และคำถามที่หลายคนอาจมีก็คือ นายทหารเหล่านี้จะหวนกลับไปมีพฤติกรรมคอร์รัปชั่นเหมือนผู้นำทหารในยุคก่อนๆ หรือไม่
-
ขณะเดียวกัน โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซี ก็ประเมินว่า การประสบความสำเร็จของ พล.อ.ประยุทธ์ จะขึ้นอยู่กับว่า ว่าที่นายกฯ ของไทย จะสามารถบริหารจัดการอำนาจที่ถือครองอยู่ได้ดีเพียงใด นักวิจารณ์บางคนเห็นว่า หัวหน้าททราช คสช. มีอารมณ์ค่อนข้างร้อนและมีความอดทนต่ำ รวมทั้งมีภาพลักษณ์เชิงอนุรักษนิยม
-
อย่างไรก็ดี ผู้สนับสนุนทรราช.ประยุทธ์ อย่าง สนช. กรธ. กะดอมาทอ และเหล่าสมุนรับใช้เผด็จการ กลับระบุว่า ทรราช ประยุทธ์ .ผู้นี้ เป็นคนเด็ดเดี่ยว กล้าได้กล้าเสีย แม้จะมีความโง่เป็นทุนเดิมติดตัวอยู่บ้าง แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะ ฮิลเลอร์ กัดดาฬี หรือแม้แต่ ซัดดัม แห่งอีรัก ก็มี ลักษณะกล้าพูดกล้าทำและนำประเทศ ให้ยิ่งใหญ่มาแล้วในอดีต แม้บางคราวจะมี ท่าทีไม่รับฟังผู้อื่นก็ตาม
นักข่าวนักต่างประเทศ ก็เคย ทำนายสถานการณ์ไว้ด้วยว่า แม้แรงต่อต้านทรราช คสช. ภายหลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม จะมีไม่มากนัก แต่สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไป หากรัฐบาลทหารทรราช คสช. ชุดนี้ต้องเผชิญหน้ากับปัญหายากๆ ที่ถั่งโถมเข้ามามากยิ่งขึ้น เหมือนปัจจุบัน และดูเสมือนว่า ประเทศไทย เดินเข้าสู่ทางตันแล้ว ณ. เวลานี้ ทั้งร่างรัฐธรรมนูญ และปัญหาปากม้องของประชาชน
-
ขอขอบคุณนักข่าวต่างประเทศและมติชน
-
เสรีชน
No comments:
Post a Comment