Friday, September 4, 2015

Fwd: Global Alumni Convention 2016

ขณะที่พี่ไทยกำลังทำลายตัวเอง ดึงประเทศถอยหลัง
ประเทศอย่างกัมพูชา เขาทำสิ่งสร้างสรรค์เพิ่มทุกวัน 

---------- Forwarded message ----------
From: Global Alumni Convention <gac@idp.com>
Date: Fri, Sep 4, 2015 at 9:10 PM
Subject: Global Alumni Convention 2016 



Boxbe This message is eligible for Automatic Cleanup! (gac@idp.com) Add cleanup rule | More info

Global Alumni Convention 2016
View this email in your browser

IDP Education is pleased to announce that the annual Global Alumni Convention 2016 is to be hosted on 29-30 January 2016 at the Intercontinental Hotel, Phnom Penh.  
 
The Global Alumni Convention (GAC) is organised by IDP Education to bring together graduates from Cambodia, Australia, the USA, Canada, the United Kingdom, New Zealand, France, Russia, Korea, Japan, China, Malaysia, Singapore and other countries and give them a forum to meet, share ideas and network with experts, decision makers and leaders from governments, the private sector, and civil society for education, trade and investment opportunities. IDP Education is the world's largest international student placement and education services provider.

The convention is designed around the themes of reconnecting with learning, knowledge-sharing, and being inspired to fulfill education, professional, and business potential.
 
The GAC is organised in two parts – the Business & Education Networking Reception on the evening of 29 January 2016 coupled with the Main Convention on 30 January 2016 concluding with the Convention Cocktail Reception. The Business & Education Networking Reception will be a networking dinner with leaders from the government, embassies, the private sector and civil society. The Main Convention will consist of a series of moderated panel discussions with topics being on Cambodia-related issues and will be given by leading figures from the business community, the public sector, relevant industry figures and alumni themselves.

The convention objectives are:

  • to recognise and celebrate the achievements and contributions of alumni in Cambodia
  • to share ideas between Cambodian-based alumni (Cambodians and non-Cambodians) and those from around the globe
  • to provide excellent networking opportunities with leaders in government, business, and civil society
  • to provide a platform for trade and investment opportunities
  • to inspire alumni to continue their educational journey and become tomorrow's leaders
  • to learn about the pathways and successes that alumni from these countries have achieved
  • to showcase world class education systems and opportunities 
  • to gain insights into Cambodia's position in the world
  • to enhance friendship and cooperation within Cambodia and internationals
The Global Alumni Convention is a high-profile event with attendees being:
  • Graduates from around the globe
  • Leaders from the Government and Embassies
  • Directors, CEOs and Senior Executives from business and civil society
  • Professionals, specialists, and experts from diverse industries
  • Cambodians and non-Cambodians
For more information, visit www.cambodiaGA.org
 






This email was sent to sthinsan@gmail.com
why did I get this?    unsubscribe from this list    update subscription preferences
C/o IDP Education (Cambodia) · #657, Kampuchea Krom Blvd · Khan Toul Kork · Phnom Penh PO BOX 860 · Cambodia



สองสารคดีที่จะทำให้เห็นพัฒนาการด้านเสี่ยงและพลังแฝงที่กำลังจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ของจีนและของโลก

China's Sexual Revolution Documentary https://www.youtube.com/embed/dmNJvOz7sDI

The Fall of China. There Will Be No Economic Recovery. https://www.youtube.com/embed/zPdHAleapI0

ประวัติเมืองปาตานีหรือรัฐปาตานี

ประวัติเมืองปาตานีหรือรัฐปาตานี

http://www.io-pr.org/index.php…

ประวัติเมืองปัตตานี
ตอนที่ 1

กำเนิด ดินแดนหลังกาสุกะจนถึงปัจจุบัน ประมาณ 2,000 ปี ซึ่งถิ่นกำเนิดดินแดนนี้ศูนย์กลางอยู่ที่หมู่บ้านยือรา (จือแร ประตูโพธิ์) เมืองยะรังในปัจจุบัน ตามคำบอกเล่าในหนังสือประวัติศาสตร์ของอินโดนีเซีย ก่อนที่จะมาเป็นปาตานีนั้นดินแดนลังกาสุกะถือว่าเป็นดินแดนที่มีความหลาก หลายของชาติพันธุ์ มีทั้งจีน ทั้งอินเดีย ความคิดความเชื่อก็มีลักษณะความเชื่อแบบจิตวิญญาณผิดๆ คือเชื่อในผีสาง ต่อมาก็เกิดความเชื่อแบบศาสนาฮินดูอย่างกว้างขวางอารยะธรรมก็เป็นแบบจีนและ อินเดีย ตลอดจนระบบการปกครองก็มีลักษณะเป็นแบบอิสระ คือปกครองตามแบบแผนของตนเอง(ปกครองโดยตนเอง) มีการไปมาหาสู่กันระหว่างจีน อินเดีย รวมไปถึงชาวอาหรับ ส่วนชาวซาไกที่อาศัยตามหุบเขาต่างๆ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนเหล่านั้นก็ถือว่าเป็นบรรพบุรุษของลังกาสุกะเช่นกันรวมไปถึงคนที่อยู่ตาม ชายทะเล (ภูเก็ต ระนอง พังงา สตูล กระบี่) ก็เป็นลูกหลานลังกาสุกะ เรียกรวมๆว่าอาณาจักรลังกาสุกะหรืออาณาจักรมลายูสมัยพราหมณ์-ฮินดู ต่อมาเป็นการแพร่ขยายเข้ามาของบูสาร์(ศาสนาพุทธ)นิกายมหายาน ส่วนภาษาพูดเป็นการพูดเหมือนกับคนปาตานีพูด ปัจจุบันมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่หลงเหลืออยู่ เช่น เมืองโบราณยะรัง ซึ่งคลุมพื้นที่ 3 พื้นที่ของเมืองยะรังประกอบด้วย ตำบลวัด ตำบลประจัน และตำบลยะรัง

ตอนที่ 2

พ.ศ. 2000 ลังกาสุกะเป็นชื่อที่ถูกเรียกมาก่อนของดินแดนแห่งนี้ ลังกาสุกะ (หมู่เกาะแห่งสงบสุข)เคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรมลายู โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่โกตามาหาลิไกย (ยะรังในปัจจุบัน) ซึ่งช่วงนั้นประสบกับปัญหาการคมนาคมเพราะต้องข้ามฝั่งไปมาซึ่งยากลำบากทำให้ เจ้าเมืองพญาอินทิรา พยายามหาพื้นที่เพื่อเปลี่ยนที่ตั้งเมืองแห่งใหม่ เจ้าเมืองพญาอินทิราเป็นบุคคลที่รักการล่าสัตว์เป็นงานอดิเรก จึงได้จัดช้างเผือกเข้าไปล่าสัตว์บริเวณริมทะเลพร้อมตั้งแคมป์เป็นที่พัก ต่อมาได้มีสุนัขตัวหนึ่งเห่าอยู่ใกล้ๆที่ตั้งแคมป์เจ้าเมืองพญาอินทิราจึง ได้ออกสำรวจดู พบว่ามีกระจงขาววิ่งหนีหายไปในระหว่างหาดทรายริมชายทะเล จึงออกไล่ตามและได้พบกับผู้เฒ่านามว่าโต๊ะตานี เลยถามว่าเห็นกระจงผ่านมาที่หาดนี้ไหม เจ้าเมืองพญาอินทิราเมื่อได้เห็นชายหาดแห่งนี้จึงเกิดความรู้สึกชอบ เพราะชายหาดแห่งนี้สะอาด(บรือเซะ) หรือกรือเซะ จึงเป็นเหตุให้พระองค์ย้ายเมืองหลวงจากโกตามาหาลิไกยมาตั้งที่กรือเซะ โดยได้ก่อตั้งเมืองกรือเซะขึ้นมาก่อนใช้เวลาก่อตั้ง ประมาณ 3 เดือนเศษเพื่อเป็นที่ตั้งเมืองใหม่และต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นชื่อเมืองปาตานี `ในช่วงนั้นเจ้าเมืองพญาอินทิรานับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน โดยในสมัยนั้นคนในพื้นที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนักประวัติศาสตร์ยุโรปได้ กล่าวว่า ยุคนั้นผู้คนนับถือหรือเข้าอิสลามประมาณ 300 ปีก่อนพญาอินทิราจะเข้ารับอิสลาม หากเราสังเกตแผนที่แล้วในพื้นที่แห่งนี้ถือว่าเป็นพื้นที่แหลมหรือเรียกว่า แหลมทองนับจากกระบุรี จังหวัดระนองลงมา โดยการตั้งชื่อนี้นักกรีกโบราณได้มีการตั้งชื่อไว้ในช่วงศตวรรษที่ 3 ซึ่งในพื้นที่แหลมทองนี้เป็นถิ่นที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางด้านพืชผลหลากหลาย ชนิด ตลอดจนในช่วงนั้นการทำเนื้อกระจงตากแห้งเป็นที่นิยมของคนอาหรับ จึงได้ส่งไปยังต่างประเทศและเป็นสินค้าที่นิยมมาก ชาวอาหรับก็ได้เดินทางลงมายังแผ่นดินแหลมทองแห่งนี้มาพร้อมกับการเผยแพร่ ศาสนาและทำการค้าควบคู่กัน

ตอนที่ 3

ยุค ของการเผยแพร่ศาสนาอิสลามเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เจ้าเมืองพญาอินทิรายังดื้อรันไม่ยอมเข้ารับอิสลามและไม่มีใครที่กล้าเข้าไป ในวังเพื่อเผยแพร่ศาสนาให้กับเจ้าเมืองพญาอินทิรา การเผยแพร่ศาสนามีความเข้มข้นมากตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นอาณาจักรลังกาสุกะมา จนถึงช่วงต้นของการสร้างเมืองปัตตานี แต่ประชาชนชาวโกตามาหาลิไกยส่วนใหญ่ยังนับถือศาสนาพุทธผสมกับพราหมณ์ – ฮินดู จนมาถึงสมัยของเจ้าเมืองพญาอินทิรา เกิดการเปลี่ยนแปลงทางศาสนาจากศาสนาพุทธเป็นอิสลาม การเปลี่ยนศาสนาของเจ้าเมืองพญาอินทิรามีตำนานเล่ากันว่า เจ้าเมืองพญาอินทิราได้ทรงเกิดพระโรคบางอย่างกำเริบขึ้นบนร่างกายของ พระองค์ แพทย์หลวงในราชสำนักรักษาเท่าไรก็ไม่มีทีท่าว่าจะหายขาด พระองค์จึงให้เสนาบดีป่าวประกาศไปทั่วเมืองว่า หากหมอผู้ใดสามารถรักษาพระโรคให้หายขาดได้จะทรงพระราชทานรางวัลให้อย่างงด งาม มีแขกปาชายผู้หนึ่งเดินทางมาจากเกาะสุมาตราชื่อ"เซ็กซาฟียิดติน" อาสาเข้าทำการรักษาพระโรคของเจ้าเมืองพญาอินทิรา โดยขอคำมั่นสัญญาจากพระองค์ว่าเมื่อตนสามารถรักษาอาการป่วยหายแล้ว พระองค์ต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามแทนศาสนาพุทธซึ่งเจ้าเมืองพญาอินทิรา ก็ทรงรับปากแต่โดยดี เซ็กซาฟียิดตินได้ทำการรักษาพระโรคของเจ้าเมืองพญาอินทิราจนหายขาด แต่พระองค์กลับคำไม่รักษาสัญญา ต่อมาไม่นานโรคร้ายจึงกำเริบขึ้นมาอีกครั้งร้อนถึงหมอแขกชื่อดังต้องกลับมา รักษาให้หายอีก แต่คราวนี้เจ้าเมืองพญาอินทิราก็ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเสียที เจ้าเมืองพญาอินทิราได้ผิดคำสัญญาถึง ๓ ครั้ง หมอแขกก็ตามรักษาอยู่ทุกครั้ง จนมาถึงครั้งที่ ๔ เจ้าเมืองพญาอินทิราจึงยอมเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามตามสัญญา และโรคร้ายก็หายไปไม่มากล้ำกรายอีกเลย จึงแต่งตั้งเซ็กซาฟียิดตินขึ้นเป็น ดาโต๊ะ สารีรายา ฟาเกะฮ์ (คือผู้รู้ยอดเยี่ยมของ ศาสนาอิสลาม) เป็นเหตุให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ ขุนนาง และชาวเมืองเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามกันหมด พลเมืองชาวปาตานีเมื่อเห็นกษัตริย์ของตนเปลี่ยนศาสนาจึงพากันเข้ารีตนับถือ ศาสนาอิสลามกันทั้งหมด ต่อมาจึงได้ทำลายพระพุทธรูป เทวรูป โบราณสถานทางพุทธศาสนาพุทธในเมืองลังกาสุกะจนเสียหายหมดสิ้น จากนั้นชื่อเมืองลังกาสุกะก็หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์นับตั้งแต่บัดนั้น

ตอนที่ 4

การ เข้ามาของเซ็กซาฟียิดตินในปาตานี เพื่อรักษาอาการป่วยของพญาอินทิราจนพระองค์เข้ามารับนับถือศาสนาอิสลามแล้ว เปลี่ยนพระนามเป็น สุลต่านอิสมาแอลชาห์ซิลลุลลอฮ์ฟิลอาลาม ได้มีการขอพรให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ปาตานีดารุสาลาม การเรียกชื่อเมืองปาตานีเป็นปาตานีดารุสาลาม ได้มีการสืบทอดการปกครองอาณาจักรปาตานีดารุสสาลามจนสิ้นสุดราชวงศ์ศรีมหาวัง สา ซึ่งนับจากอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ราวประมาณ 500 ปี มาแล้ว และเซ็กซาฟียิดตินเองก็ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญในการเข้ามามีบทบาทของ การเปลี่ยนแปลงเมืองปาตานีให้ดียิ่งขึ้น เปลี่ยนแปลงการนับถือศาสนาให้กระจ่างยิ่งขึ้น และได้ขยายพื้นที่ คอลอมือเกาะห์ (สะพานปลาในปัจจุบันนี้) ถึงบานา ตันหยงลูโละ ปาเระ และเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในอาคเนย์ มีช่วงหนึ่งที่เครื่องบินรบของจีนได้เข้ามาในปาตานี มาส่งมอบกระสุนปืนใหญ่ให้กับกษัตริย์ปาตานีน้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม กษัตริย์ปาตานีถามกลับว่าไหนปืนล่ะ จึงเกิดที่มาในการสั่งการให้สร้างปืนใหญ่ขึ้นมา ที่รู้จักกันในช่วงนั้นคือปืนใหญ่มาเรียมโดยมีช่างใหญ่เป็นชาวอิหร่าน หลังจากนั้นกษัตริย์ปาตานีประกาศต่อชาวปาตานีว่าห้ามใครขายทองแดงเด็ดขาด เนื่องจากปาตานีมีความประสงค์ที่จะผลิตเป็นปืนใหญ่ เราสามารถดูปืนใหญ่นี้ได้ที่หน้ากระทรวงกลาโหม 1 กระบอกมีนามว่าศรีปาตานีส่วนที่เหลือได้จมลงทะเลในสมัยนั้น ชาวปาตานีในสมัยก่อนได้ผลิตปืนใหญ่ส่งไปยังต่างประเทศแล้ว เราในสมัยนี้ล่ะจะผลิตเข็มตราปาตานีส่งขายไป ยังต่างประเทศได้หรือไม่ลองคิดดู ในสมัยนั้นมีหลายประเทศที่เข้ามาสั่งซื้อปืนใหญ่จากปาตานีเช่น ญี่ปุ่น หากมองภาพรวมแล้วปาตานีก็ถือว่าไม่ใช่กระจอกในช่วง 500 ปีก่อน

ตอนที่ 5
ต่อ มาเป็นยุคการต่อสู้ของรายาอูมูม (รายาบีรู) ที่ได้นำกองทัพไปตีสยามในพื้นที่พัทลุง จนสยาม พ่ายแพ้ โดยใช้เวลาในการต่อสู้นานถึง 4 ปี ซึ่งในช่วงนั้นเป็นช่วงที่รายาอูมูม (รายาบีรู) ที่มีบทบาทในการสร้างสถาบันปอเนาะ และยุคนั้นเองได้สร้างมัสยิดตะโละมาเนาะ (มัสยิด 300 ปี) โดยวาเดลฮูเส็นเป็นผู้ สร้างและเปิดให้มีปอเนาะ รวมทั้งมีการเขียนอัลกุรอานด้วยมือเป็นเล่มๆ ซึ่งมัสยิดถือได้ว่าเป็นโรงพิมพ์ใน ช่วงนั้นก็ว่าได้ ต่อมาลูกๆหลานๆ ของวาเดลฮูเส็นที่ชื่อ อับดุลเลาะ ได้ขยายพื้นที่เปิดปอเนาะไปยังเขต กรือเซะ ต่อมาเมื่อปี 2329 ได้เกิดสงครามเก้าทัพ ปาตานีนำทัพโดยเชะดาโอะ ซึ่งมีอายุเพียง 17 ปี หลังจากการทำสงคราม เชะดาโอะ ก็ได้เดินทางไปยังรัฐตรังกานู (ประเทศมาเลเซีย) และไปยังอาเจะห์ (ประเทศอินโดนีเซีย) เพื่อไปเรียนต่อประมาณ 3 ปี แล้วเดินทางต่อไปยังนครมะดีนะห์ (ประเทศซาอุดิอาระเบีย) ซึ่ง การทำสงครามกับสยามที่ปาตานีช่วงนั้นได้พ่ายต่อชาวสยาม
ตอนที่ 6
ช่วง สงครามเก้าทัพนั้นมัสยิดกรือเซะถูกเผา และปืนใหญ่ศรีปาตานีทั้ง 2 กระบอกถูกยึดไปรวมถึงบ้านเรือน วัง ก็ถูกเผาทั้งหมด คนที่สามารถหลบหนีได้ก็หนีไปยังพื้นที่อื่นๆ ส่วนคนที่หนีไม่ทันก็ถูกนำตัวไปยังบางกอก ชาวปาตานีถูกนำไปครั้งนั้นเพื่อเป็นเชลยขุดคลอง (คลองแสนแสบ) ต่อมาเชะดาโอะได้กลับมาทำสงครามอีก ครั้งกับสยามโดยได้ขยายพื้นที่ไปยังเขตจะนะและสะกอม
ปาตานีคือ ชื่อรัฐๆ หนึ่งอยู่บนแผ่นดินด้ามขวานที่เรียกว่าแหลมมลายู แซะห์ อาหะหมัด บินวัน มูฮัมหมัดเซ็น อัลฟาตอนี ได้กล่าวไว้ว่า "ปาตานี คือรัฐหนึ่งในหลายๆ รัฐของชาวมลายู ได้เป็นสถานที่ก่อกำเนิดบุรุษที่ดี เฉลียวฉลาด รักสงบและเก่งกล้า เป็นรัฐที่มีเอกราช และอยู่ภายใต้ปกครองของบุคคลเหล่านั้นมาแต่อดีต"
การเผยแพร่ศาสนาในช่วง นั้นมีการยึดถือมุสฮับสาฟีอีน(ความเชื่อ ความศรัทธา) และเจริญขึ้นในฐานะอิสลามอย่างเต็มรูปแบบในปาตานี เพราะฉะนั้นเราต้องให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ปาตานี
ตอนที่ 7
ต่อ มาเป็นยุคของรายากูนิงเป็นยุคที่มีการแย่งชิงอำนาจทางการปกครอง เนื่องจากกษัตรีย์ปาตานี ได้สิ้นพระชนม์และได้มีการแต่งตั้งขึ้นมาใหม่ ก่อนการสิ้นพระชนม์ของรายากูนิงแทบจะเรียกได้ว่าในระหว่างการปกครองของ กษัตริย์ที่เป็นหญิงในปาตานีนั้นได้สร้างความเจริญรุ่งเรือง การแต่งตั้งเจ้าเมืองขึ้นมาใหม่ ซึ่งมาจากสามัญชนทั่วไปชื่อต่วนกูอะห์หมัดมาเป็นกษัตริย์แทน ช่วงนั้นมีชาวพุทธคนหนึ่งมีชื่อว่านายจันทอง มีพื้นเพมาจากนครศรีธรรมราชก็ได้เข้ารับอิสลามและได้เข้าไปเป็นทหาร จากนั้นได้นำทัพลงน่านน้ำปาตานีและนำปืนใหญ่ไปด้วยเพื่อทำการรบกับสยาม แต่ในความเป็นจริงแล้วนายจันทองนั้นเรียกได้ว่าเป็นนกสองหัว เนื่องจากสยามยิงปืนใส่ชาวปาตานี แต่นายจันทองกลับยิงปืนใส่ชาวปาตานีด้วยกันเองทำให้ต่วนกูอะห์หมัดสิ้นชีวิต ลงในระหว่างการลงรบ หลังจากนั้นปาตานีจึงได้เปลี่ยนผู้ปกครองอีกหลายต่อหลายท่าน
สุลต่าน อะห์หมัดเป็นสุลต่านจนถึง พ.ศ.2329 ปาตานีก็ถึงกาลอวสาน เนื่องจากการเข้าโจมตีของกองทัพสยามทั้งทางบกและทางเรือ ซึ่งสุลต่านอะห์หมัดได้สิ้นชีพในการต่อสู้กับศัตรูในครั้งนั้น และส่งผลให้ บ้านเมืองถูกเผาทำลาย ชาวมลายูปาตานีถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก ที่สามารถหลบหนีได้ก็แยกย้ายกันไปอาศัยเมืองข้างเคียง ส่วนหนึ่งก็ถูกจับตัวไปเป็นเชลยพร้อมปืนใหญ่ศรีปาตานีที่ถูกยึดไปบางกอก ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่หน้ากระทรวงกลาโหม
เมื่อประมาณ 500 ปีก่อน ปาตานีถือเป็นที่ผลิตปืนใหญ่ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยทางญี่ปุ่นก็ได้มีการสั่งซื้อไปยังประเทศด้วย การทำสงครามครั้งนี้ถือเป็นการทำสงครามครั้งที่หกและเป็นครั้งแรกที่ปาตานี ต้องสูญเสียอำนาจแก่สยาม กระทั่ง พ.ศ.2329 สยามได้ยึดปาตานีอย่างเป็นทางการในสมัยของรัชกาลที่ ๑ ศูนย์กลางของสยามในสมัยนั้นคือธนบุรีก่อนที่จะมาเป็นกรุงเทพ
ตอนที่ 8
มี คนถามว่ามันเกี่ยวข้องอย่างไรกับเกดาห์ (กือเดาะห์) ผู้บรรยายอธิบายต่อว่า เนื่องจากช่วงนั้นมีการกล่าวกันว่าพญาวังศาได้เข้าไปในเกดาห์ พญาวังศามีลูกสาวจึงได้ขึ้นช้างพามุ่งหน้าไปยังทิศเหนือไปถึงห้วยเงาะ โคกโพธิ์ แล้วหยุดเนื่องจากช้างร้องไห้ ซึ่งปัจจุบันบริเวณนั้น เป็นที่ตั้งของวัดช้างไห้แต่ข้อมูลยังไม่แน่ชัดเท่าไร สำหรับข้อมูลในส่วนของปาตานีที่มีความสัมพันธ์กับเกดาห์นั้น มีความเกี่ยวข้องกันในส่วนของการตั้งเป็นศูนย์กลางทางด้านการค้าในสมัยลังกา สุกะและเป็นรัฐญาติมิตรระหว

สหรัฐรายงาน พบเรือรบจีน 5ลำในน่านน้ำสากลแถบอล้าสก้า ช่วงที่โอบาม่ามาที่นี่

สหรัฐรายงาน พบเรือรบจีน 5ลำในน่านน้ำสากลแถบอล้าสก้า ช่วงที่โอบาม่ามาที่นี่ https://www.facebook.com/BBCThai/posts/1693132284241138:0

ประกาศหาคนหาย ::: ถวิล เปลี่ยนศรี สมช.

ประกาศหาคนหาย ไอ้ถวิลหายไปไหน? พอมันเริ่มได้ผลประโยชน์กองโต ปิดปากตัวกันเงียบฉี่ ก่อนล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์นี่ไม่ได้เลย แลดูอุดมการณ์สุดกู่เลยนะ หวินรักสมช.สุดชีวิต แต่พอเกษียณไปเลียตีนอนุพงษ์ ได้ขอฝ่ายทหารเป็นประธานบอร์ดไฟฟ้านครหลวงสำเร็จ ไม่รัก สมช.แมร่งมันแล้ว ตอนนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติแต่งตั้ง "พล.อ.ทวีป เนตรนิยม" เป็นเลขาฯ สมช. คนใหม่  ไม่เห็นไอ้ถวิลออกมาตำหนิ ติเตียนนายกประยุทธ์เหมือนกับตอนปากสั่นชี้หน้าด่านายกยิ่งลักษณ์ไปแต่งตั้งพลโทภราดรขึ้นเป็นเลขาฯสมช.ทำไม ย้ายมันผิดมาก มันเป็นลูกหม้อสมช.ไอ้หวินวิ่งไปขึ้นเวที กปปส.ถล่มด่าเรื่องนี้ใส่นายกยิ่งลักษณ์ทุกวัน ประกาศลั่นมาสู้เพื่อ สมช.เพื่อคนเป็นเลขาฯต้องคนใน สมช.เท่านั้น ยอมทอดกายถวายร่างอุทิศทำกรรม เพื่อการล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์เท่านั้น จากวันนั้นถึงวันนี้ไอ้หวินเปลี่ยนไปมาก ไอ้อนุสิษฐ์ก็ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอะไรชักใบเรือเสีย ทำให้ดับฝันป้าปุ้ย กนกทิพย์ รัชตะนันท์เมียของพลเอกวิทวัสทหารบูรพาพยัคฆ์ที่วิ่งดันเมียตัวเองขึ้น เลขา สมช.หญิงคนแรกเสียสนิทเลย เพราะแกตั้งใจจะเห็นไอ้หวินเข็นแกคนในขึ้นไปนั่งตำแหน่งเลขาฯสมช.ได้ แต่ไอ้หวิน ไอ้อนุสิษฐ์ไม่เหลียวแล มองหาแต่ผลประโยชน์ของมันมากกว่าจะมาช่วยดันคนในอย่างป้าปุ้ย ตามที่มันเคยตอแหลบนเวทีม้อบชัชดาวน์แบงคอกวันก่อน นั่นคือมันการแสดงนะป้าปุ้ยนะ ทำใจให้ด้ายกับไอ้พวกลิงหลอกประชาชน!!

Thursday, September 3, 2015

ระบอบการปกครองสำหรับอนาคตไทย ควรเปลี่ยนอะไรบ้าง?????

มิตรสหายร่วมอุดมการณ์ท่านหนึ่ง เขียนฝากมา
ลองพิจารณาดูนะครับ ... น่าคิดและน่าสนใจครับ

แนวคิดทางด้านการเมืองการปกครอง
1. การปรับปรุงอำนาจกษัตริย์ให้ปลอดพ้นจากการเมือง
ขึ้นอยู่กับประชาชนส่วนใหญ่ จะเห็นสมควร ว่าจะยังคงมีกษัตริย์ดำรงอยู่หรือไม่
ถ้าประชาชนยังเห็นว่าควรมีกษัตริย์คู่บ้านเมืองอยู่ ต้องทำให้ไม่มีระบอบที่กษัตริย์เข้ามามีส่วนทางการเมืองโดยเด็ดขาด
ตลอดจนเรื่องการจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์และราชวงค์ ต้องไม่มีการทำธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม
องคมนตรีและกองกำลังรักษาพระองค์ขึ้นอยู่กับรัฐสภา เป็นผู้กำหนด
2. การป้องกันการปฏิวัติยึดอำนาจ ตลอดจนการสืบทอดอำนาจโดยทหาร
ให้ตำแหน่ง ผบ สูงสุด ผบ เหล่าทัพ ทุกเหล่าทัพ มาจากคณะกรรมการสรรหา เป็นผู้ส่งรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติสมควรได้รับการคัดเลือกให้กับสภา และผู้ที่มีคุณสมบัติตามรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาส่งมาต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อรัฐสภา เพื่อให้รัฐสภาลงมติเลือกผู้ดำรงตำแหน่ง ตำแหน่งเหล่านี้มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี 
คณะกรรมการสรรหามาจาก ตัวแทนเหล่าทัพต่างๆ 3 คน ตัวแทนกรมการปกครอง 2 คน รัฐสภา 5 คน 
ย้ายค่ายกรมกองทหารออกจากเมืองหลวง ป้องกันการเคลื่อนย้ายกำลังพลและอาวุธเข้าเมืองหลวงโดยพลการ
แก้กฏหมายเกี่ยวกับประกาศกฎอัยการศึก ให้ไม่สามารถประกาศได้โดยกองทัพ แต่ให้ประกาศได้โดยนายกรัฐมนตรี หรือรัฐสภา
3. การควบคุม องค์กรตำรวจ ให้เป็นองค์กรที่รับใช้และดูแลประชาชน ลดการซื้อขายตำแหน่ง ขูดรีดประชาชน
แบ่งตำรวจเป็น ส่วนๆ เช่น ตำรวจเมืองหลวง ตำรวจภาคต่างๆ 4-5 ภาค
ให้ตำแหน่ง หัวหน้าตำรวจเมืองหลวง และตำรวจภาคต่างๆ มาจากคณะกรรมการสรรหา เป็นผู้ส่งรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติสมควรได้รับการคัดเลือกให้กับสภา และผู้ที่มีคุณสมบัติตามรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาส่งมาต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อรัฐสภา เพื่อให้รัฐสภาลงมติเลือกผู้ดำรงตำแหน่ง ตำแหน่งเหล่านี้มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี 
คณะกรรมการสรรหามาจาก ตัวแทนตำรวจภาคต่างๆ ภาคละ 1 คน ตัวแทนกรมการปกครอง 2 คน รัฐสภา 5 คน 
4. การควบคุมพรรคการเมืองและนักการเมือง 
ป้องกัน นายทุนหรือกลุ่มทุนครอบงำพรรคการเมือง โดยบริจาคเงินเข้าพรรคได้ในนามบุคคล กลุ่มบคคล นิติบุคคล หรือในนามใดๆ ได้ ไม่เกิน 2 ล้านบาท ต่อปี และบุคคลผู้บริจาคต่างๆ ต้องไม่มีชื่อซ้ำซ้อนกันกับในกลุ่มอื่น
มีวาระการดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรค ไม่เกิน 2 สมัย เพื่อป้องกัน สส มาเฟีย ครอบงำพรรค และการคัดเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค ต้องเป็นการคัดเลือกจากสมาชิกพรรคโดยทั่วไปอย่างทั่วถึง ไม่ใช่เลือกกันเฉพาะในกลุ่มผู้มีอำนาจในพรรคเท่านั้น
การดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ ของนักการเมือง ตลอดจนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ต้องไม่เกิน 2 สมัย
5. การมีส่วนร่วมของประชาชน ในการดูแลใช้อำนาจรัฐ ของรัฐบาล
การออกกฏหมายและการออกนโยบายสาธารณะใดๆ หรือนโยบายต่างๆที่ต้องใช้เงินที่มีมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านบาท ที่มีผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม หรือต่อสังคม หรือต่อประเทศชาติ หลังจากผ่านการลงมติในสภาแล้วรัฐต้องจัดให้มีการทำประชามติก่อนออกเป็นนโยบายหรือออกเป็นกฏหมาย เช่น กฏหมายนิรโทษกรรมคดีการเมือง นโยบายการจัดการน้ำทั้งระบบ นโยบายด้านการคมนาคมรถไฟความเร็วสูง นโยบายการรับจำนำข้าว เป็นต้น
การลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รัฐต้องให้ประชาชนลงประชามติด้วย ถ้าไม่ผ่านประชามติรัฐต้องคืนอำนาจให้ประชาชน เพราะถือว่ารัฐไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
6. การดูแลป้องกันการผูกขาดทางการค้า ผูกขาดทางด้านทุนนิยม นายทุนการเงิน นายทุนอุตสาหกรรม ผูกขาดทางด้านการครอบครองทรัพยากรของชาติ
รัฐต้องจัดให้มีการแข่งขันอย่างเสรี และเป็นธรรม ไม่ปล่อยให้มีกลุ่มทุนผูกขาดเอาเปรียบเพราะอำนาจเงิน เช่น ปล่อยให้ 7 eleven ขายสินค้าทุกชนิดได้ 24 ชั่วโมง เปิดตรงทำเลไหนก็ได้ เป็นการทำลาย ร้านค้ารายย่อย โดยรัฐไม่มีนโยบายใดๆ หรือออกกฏหมายใดๆ ที่จะทำให้ร้านค้ารายย่อยเหล่านั้นสามารถพัฒนาแข็งขันกับ กลุ่มทุน 7 eleven ได้ เป็นต้น ยังมีอีกหลายอย่างที่ไม่ได้ยกตัวอย่างมา 
รัฐต้องมีกฏหมายจำกัดการถือครองที่ดิน การใช้ประโยชน์ในที่ดิน ไม่ให้ตกไปอยู่กับบุคคล คณะบุคคล นายทุน หรือกลุ่มทุน หรือกลุ่มทุนบริษัทข้ามชาติต่างๆ ต้องจัดสรรที่ดินทำกิน ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้กับประชาชน 
7. กระบวนการยุติธรรม
ที่มาของตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง องค์กรอิสระ ต้องมีคณะกรรมการคัดเลือกที่มาจากประชาชนมีส่วนร่วมในการคัดเลือกอยู่ด้วย เมื่อคัดเลือกแล้วต้องแสดงวิสัยน์ทัศน์ให้สภาลงมติคัดเลือกอีกครั้ง
การทำคดีเกี่ยวกับการ ทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมือง หรือข้าราชการระดับสูง คดีการเมือง หรือคดีที่มีผลเสียหายถึงระดับที่กำหนดเป็นเกณฑ์ไว้ ต้องมีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน ปล่อยหมดอายุความผู้รับผิดชอบคดีต้องมีความผิด
รัฐต้องจัดให้มีทนายหรือตัวแทนคุ้มครองสิทธิมนุยชนประจำอยู่ทุกสถานีตำรวจ เพื่อเป็นหลักประกันและป้องกันการละเมิดต่อบุคคลที่ถูกจับกุมกล่าวหา หรือถูกกระทำรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ


อีกเรื่องหนึ่ง คุณชูวิทย์โพสต์ไว้ที่เฟสบุ๊ค
นักการเมือง (อีแอบ)

อาทิตย์ที่จะถึงนี้ สปช. จะโหวตร่างรัฐธรรมนูญ เดินหน้าตามโร้ดแม็พไปสู่การลงประชามติ

ฝั่งหนึ่งเห็นว่าดีว่างาม เสมือนเป็นดวงดาวเจิดจรัสเปิดทางปฏิรูปประเทศไทย

อีกฝั่งหนึ่งมองเป็นโคลนตม ไร้ราคา พาประเทศชาติถอยหลังลงคลอง

ทุกครั้งที่มีการรัฐประหาร ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ นักการเมืองมักตกเป็นจำเลย ของอย่างนี้ว่ากันไม่ได้ เพราะบรรดานักการเมืองทำตัวเอง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ทุกคนล้วนเสนอตัวอาสามาทำงานผ่านการเลือกตั้งของประชาชนและกฎเกณฑ์สารพัด

แต่มีอีกจำพวกหนึ่ง เป็นนักการเมืองอีแอบ ไม่ต้องอาศัยกฎเกณฑ์ ได้ดิบได้ดีทุกครั้งที่มีการรัฐประหาร โดยการเข้าหาขั้วอำนาจ ณ ขณะนั้น เชียร์ตะบี้ตะบัน เลียทุกเรื่อง ยกยอน้ำลายสอ ปั้นน้ำเป็นตัว เพื่อให้ตัวเองดำรงอยู่ในวงจรอำนาจ

ตอนนี้มีพวกใหม่ผุดขึ้นมาอีก เป็นจำพวกที่สองของอีแอบ เคยเป็นนักการเมือง แต่แสร้งทำว่าไม่เล่นการเมืองแล้ว ทั้งที่ในอดีตมีคุณสมบัติเป็นนักการเมืองชั้นเลว 101% แต่ทำเป็นลาออกชุบตัวในน้ำทะเล แล้วเป็นแกนนำ "เครื่องมือการเมือง" (Political Tools) ให้แก่พรรคการเมือง หรือศูนย์อำนาจการเมือง

เสมือนหนึ่งเป็นกองโจร รบแบบไร้รูปแบบ ทำงานได้อิสระ ปล้นดะ ไร้วินัย

ทั้งสองจำพวกนี้ไม่ได้ดีไปกว่านักการเมืองเลย หากนักการเมืองเลว ยังเลวในระบบ มีกฏเกณฑ์ที่ต้องระมัดระวัง แต่พวกเลวนอกระบบ สันดานอยากทำอะไรก็ทำ ได้คืบจะเอาวา เป็นสัมภเวสีเร่ร่อนเหมือนเจ้าไม่มีศาล ฉกฉวยหยิบกินของเซ่นไหว้ ไม่เคยเห็นหน้าตอนเลือกตั้ง แต่ไม่เคยห่างหายจากการเมือง

รัฐธรรมนูญยังไม่ได้จำกัดห้ามคนจำพวกนี้เอาไว้ อย่างนี้น่ากลัวกว่ากันแยะ

ประชาชนโปรดระวังเอาไว้เถิด

"อำนาจนิยม"ในโรงเรียน.ทำลายอนาคตชาติ

"อำนาจนิยม"ในโรงเรียน.ทำลายอนาคตชาติ


19,237
39 views
Published on Sep 3, 2015

น.ส.ณัฐ นันท์ นรินทรเวช นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณี อดีตรองผู้อำนวยโรงเรียนเสิงสาง นครราชสีมา ใช้อารมณ์แสดงอาการดูถูก เหยียดหยาม และทำร้ายนักเรียนด้วยการตบหัว โดยอ้างว่าทำไปเพราะความรัก ความหวังดีที่ครูมีต่อนักเรียนว่า ผู้บริหารโรงเรียน หรือ ครู อาจารย์ จะต้องแยกให้ออกว่าระหว่าง จิตวิญญาณความเป็นครู กับ การทำร้ายร่างกาย หรือการดูถูก เหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นคน การทำร้ายร่างกายเท่ากับผิดกฎหมายดังนั้นก­ารจะอ้างว่า ทำไปเพราะวิญญาณของความเป็นครู จึงไม่อาจจะอ้างได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะในโรงเรียน และระบบการศึกษาของไทย ยังคงใช้ ความเป็นอำนาจนิยม สั่งสอนนักเรียน แต่ควรจะต้องมีระบบที่จะถ่วงดุลย์อำนาจระห­ว่างนักเรียน และครู หรือผู้บริหารโรงเรียน การลงโทษนักเรียน ทำได้แต่ต้องผ่านกระบวนการสอบสวนโดยคณะบุค­คล ไม่ใช่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของครูเพียงคนเ­ดียว ดังนั้นอย่าสั่งสอนเด็กด้วยความกลัว หรือ สร้างระบบอำนาจนิยมขึ้นมาในโรงเรียน เพราะจะทำให้เด็กไทยไม่มีวุุฒิภาวะ ไม่มีจิตนาการ ขาดความคิดสร้างสรรค์ กรณีที่เกิดขึ้นที่ ร.ร.เสิงสาง ควรจะเป็นบทเรียนสำคัญในระบบการศึกษาไทยที­่จะต้องนำมาถกเถียงพูดคุยและหาทางแก้ปัญหา­ระยะยาว แทนที่จะแก้ปัญหาเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของคร­ู และโรงเรียน

ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์ 3 กันยายน 2558 ตอน ความหลากหลายของขบวนปฏิว้ติ คือสิ่งจำเป็น

ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์ 3 กันยายน  2558  ตอน ความหลากหลายของขบวนปฏิว้ติ คือสิ่งจำเป็น



ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน...?? ทำยังไง?

ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินก็คือต้องกำจัดทั้งระบอบกษัตริย์ ระบอบอำมาตย์ให้ซิ้นซาก จึงจะถือเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน เพราะพวกท่านทั้งหลายทำลายแผ่นดินนี้มาโดยตลอด เข้าใจปะ
'พล.อ.เปรม'ติงร่างรธน. ไม่บัญญัติ'ตอบแทนคุณแผ่นดิน'
"พล.อ.เปรม" ปธ.องคมนตรี ปลุกเยาวชน4ชจต. รู้หน้าที่นึกถึงชาติบ้านเมือง ติงร่างรธน.ไม่บัญญัติเรื่อง "ตอบแทนคุณแผ่นดิน"

ข่าวลับจากวงในกองทัพ กรณีอุยกูร์ ลึก...งามหน้าอีก ทหารร่วมค้าอุยกูร์

เบื้องหลังขนอุกูร์เข้าไทย อดีตร.อ.เอี่ยวเคลื่อนอุยกูร์ โยงมูลนิธิย่านมีนบุรี ส่งลงใต้ ทหาร+คน ปชป.ค้ามนุษย์อุยกูร์อีกแล้ว.    %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%      สื่อตามติดความเคลื่อนไหวของกลุ่มอุยกูร์ซึ่ง ซึ่งตอนแรกนั้นพวกกุยอูร์เป็นแค่พวกหลบเข้ามาไทยเพื่อจะลี้ภัยสู่โลกที่ 3 ต่อมารัฐบาลประยุทธ์ได้ส่งกลับกุยอูร์ไปให้จีนเป็นการท้าทายมุสลิมหัวรุนแรงนอกประเทศ พวกมีแนวคิดรุนแรง กลุ่มไอสิสได้เคลื่อนไหวเข้ามุ่งหน้ามาประเทศไทยแล้ว.                                       ร้อนไปถึงกลุ่มนายหน้า ทหารขาใหญ่ที่เรียกเก็บหัวคิวค่าผ่านแดนมาไทยขนพวกกลุ่มอุยกูร์เหล่านี้ จ่ายผ่านทหารตามแนวชายแดนเป็นจุดๆ ต่อมามีคนทางสายใต้มาลักลอบเข้ามาไปส่งประเทศมาเลย์เซีย. เร่ิมต้นจากเดินทางจากมณฑลซินเจียง หลบหนีการทารุณของรัฐบาลจีน เข้าไทยผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ ผ่านด่านจ่ายทหาร อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ ด่านทหารคุมอีกที่ด้านคลองลึก อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทหารรู้เห็นให้คนกลุ่มนี้พักในไทยเพียงระยะสั้นๆ เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซียและเดินทางไปยังประเทศเป้าหมาย คือ ตุรกี ส่วนหนึ่งจะเลือกใช้บริการบริษัททัวร์ ชื่อ "บ." (นอมินีของเมียทหารคนหนึ่งใกล้ชิดพลเอกประวิทย์)ที่รับจะนำพาชาวอุยกูร์ เดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ จากนั้นจะนำพาไปยังประเทศผ่านต่อๆไปประเทศตุรกี 

ข่าวสายทหารกล่าวต่อว่า ชาวอุยกูร์ส่วนใหญ่เป็นพวกมีฐานะที่เดินทางผ่านทางประเทศกัมพูชา จะเข้าทาง จ.สระแก้ว และใช้บริการนำพาเข้าเมือง ผ่านขบวนการนำพาชาวอุยกูร์ ที่มีอดีตทหาร ยศ "ร.อ."(มีนายเป็นพลเอกคนใกล้ชิด ผบ.ทบ)เป็นหัวหน้า นำไปพักใน กทม. โดยอาศัยมูลนิธิแห่งหนึ่งย่านมีนบุรีคอยช่วยเหลือ ก่อนนำส่งเครือข่ายนำพา ในอ.สะเดา จ.สงขลา โดยมี โก ท. และ นาย ป.เป็นลูกน้องคนคนสำคัญของนักการเมืองภาคใต้นำพาชาวอุยกูร์ในพื้นที่ ไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อลอบไปยังประเทศเพื่อนบ้าน 

ผ่านทางประเทศลาว หรือพม่า จะผ่านอดีตนายทหารใหญ่ พลเอก ว.(คนสนิทพลเอกอดีตนายกรัฐมนตรีพูดคนฟังไม่รู้เรื่อง)เคลียร์ทางอาศัยมูลนิธิทางศาสนาแห่งหนึ่ง ในจ.เชียงราย ช่วยนำพา และนำเข้ากรุงเทพฯพักกับมูลนิธิย่านมีนบุรีโดยกระจายพักตามมัสยิดต่างๆ เช่นมัสยิด ย่านดินแดง เป็นต้น  แล้วส่งไปยังกลุ่มของ "โก ท." ที่อ.สะเดา เพื่อข้ามไปประเทศมาเลเซียแล้วเดินทางต่อไปยังประเทศตุรกี โดยในขบวนการนี้มีกระบวนการทำหนังสือเดินทางปลอมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่คนอพยพพวกนี้ไม่ใช่กลุ่มก่อการร้าย กลุ่มก่อความรุนแรงเพิ่งมาการวางระเบิดร้ายแรงบึ้มราชประสงค์เข้ามาหลังรัฐบาลไทยส่งกลับกุยอูร์ 109 คนให้กลับไปรับโทษที่จีน ทางฝ่ายวิเคราะห์ความมั่งคงสำนักข่าวบีบีซี คาดว่ากลุ่มหัวรุนแรงจากภายนอกประเทศจะกลับมาก่อนความรุนแรงในไทยอีก ถ้าทหารยังกวาดล้างกลุ่มมุสลิมผู้บริสุทธ์ในไทย ด้วยการสุ่มจับแล้วยัดข้อหาบุคคลที่ต้องการอพยพไปตุรกี เป็นการแก้ปัญญาที่นำก่อการร้ายมาสู่ประเทศไทย
[9/3/15, 1:23:35 AM] Mana-song: รัฐบาลประยุทธ์ใกล้ชักนำประเทศสู่สงครามเต็มรูปแบบ ทั้งก่อการร้ายและใส่ร้ายคนชาติตุรกี หลังใช้วิธีตามจับอุยกูร์ ยัดข้อหาก่อการร้ายเพื่อเอาใจจีน
                                      ความสัมพันธ์ระหว่างต่างประเทศเดือดประเทศตุรกีร้องขอข้อมูลจากไทยเรื่องออกหมายจับชายตุรกีมั่ว
                                    สำนักข่าวเอพี รายงานอ้างคำพูดของโฆษกกระทรวงต่างประเทศของตุรกีเกี่ยวกับกรณีตำรวจไทยออกหมายจับชายชาวตุรกีที่เป็นสามีของผู้ต้องสงสัยหญิงชาวไทยในเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม ว่า ควรมีการแบ่งปันข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนที่สุดจากทางการไทย และสถานทูตตุรกีในไทยกำลังติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ไทย และสถานทูตไทยในกรุงอังการาก็ประสานงานกับกระทรวงต่างประเทศตุรกีด้วยเช่นกัน นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศตุรกียังได้ร้องขอข้อมูลจากตำรวจสากลด้วย แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ 

นอกจากนี้หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า สถานทูตตุรกีในกรุงเทพฯเปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ได้ติดต่อขอข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศของไทยเกี่ยวกับชายที่ถูกจับกุมเมื่อวันเสาร์ และการพบหนังสือเดินทางตุรกีจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นของปลอมในอพาร์ตเมนต์ของเขา และขณะนี้กำลังรอคำตอบอย่างเป็นทางการจากไทย 

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวว่า กระทรวงฯกำลังติดตามรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ และได้ติดต่อประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางการไทย โดยรัฐบาลจีนจะจับตาดูการสอบสวนคดีนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป และจีนเชื่อว่าใครก็ตามที่ก่ออาชญากรรมโหดร้ายครั้งนี้จะต้องได้รับการลงโทษอย่างหนักตามกฎหมาย 

ส่วนโฆษกของสภาอุยกูร์โลก ที่เป็นกลุ่มชาวอุยกูร์พลัดถิ่น บอกว่า เหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ใจสลายและสมควรถูกประณาม พร้อมกับร้องขอให้ตำรวจไทยแสดงหลักฐานการสอบสวนคดีนี้อย่างชัดเจนและโปร่งใสเป็นที่ยอมรับของชาวโลก
[9/3/15, 1:23:54 AM] Mana-song: เผยประวิตรบินจีน หลังผูกปมจับแพะชาวมุสลิม ขอให้จีนช่วยรับรองพิสูจน์สัญชาติมือบึ้มว่าเป็นคนสัญชาติจีน มาจากซินเกียง เนื่องจากหาสัญชาติผู้ต้องสงสัยไม่ได้ แหล่งข่าวเผยก่อการร้ายเข้าไทยเป็นพวกมุสลิมหัวรุนแรงสังกัดอิสระ อาจโยงกลุ่มไอซิส
 3 ก.ย.2558  จากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  เดินทางไปให้จีนช่วย เนื่องจากตำรวจสมุนของพลเอกประวิตรก่อเรื่องจับแพะชาวมุสลิมไว้สองคน ขอให้จีนออกใบการพิสูจน์สัญชาติของผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมในคดีเหตุระเบิดราชประสงค์ โดนได้ออกข่าวว่าพบว่ามีหนังสือเดินทางระบุสัญชาติจีน ทั้งที่ระบุเป็นตุรกี แต่ทางทหารกลัวการเมืองจะบานปลายหลังทางรัฐบาลตุรกีขอหลักฐานการจับกุมทั้งหมด พร้อมพาสปอร์ตตุรกีปลอมที่ตำรวจยัดใส่ห้องผู้ต้องหา 200 กว่าเล่ม ซึ่งกระทบต่อความมั่งคงตุรกี เรื่องดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องของสองประเทศที่มีปัญหากันเสียแล้ว เมื่อสื่อทั้งโลกรุมจับผิดการทำงานของตำรวจไทย ที่กลายเป็นตัวตลก

พลเอกประยุทธ์เกิดวิตกการเมืองภายนอกประเทศ จึงสั่งให้พลเอกประวิตรบินไปขอให้พี่ใหญ่จีน ช่วยออกโรงปกป้องความผิดที่รัฐบาลไทยทกับอุยกูร์ กลัวว่าทั้งโลกจะมารุมประณามประเทศไทย  จนรัฐบาลทหารเอาไม่อยู่

ไพ่ใบสุดท้ายของจีน...สงครามโลก...ทางการเงิน จริงหรือ?

ไพ่ใบสุดท้าย
ไพ่น๊อคดอลล่าร์ของจีนได้แบออกมาให้ทุกคนเห็นแล้ว ไพ่ใบนี้คือAsia Infrastructure Investment Bank หรือAIIBที่จะเปิดดำเนินการในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ด้วยเงินทุนประเดิม$100,000ล้าน
ขงเบ้งทิ้งไพ่AIIBลงเมื่อไหร่ ดอลล่าร์จะหงายเก๋ง
ที่ร้ายไปกว่านั้น ไพ่AIIBจะฆ่าทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารโลก และธนาคารกลางของสหรัฐหรือยูเอสเฟดเดอรัลรีเสิร์ฟแบงค์ไปพร้อมๆกัน
เหมือนกับเป็นการกินโต๊ะจีนที่ห้อยเทียนเหลา
AIIBจะกินเรียบเพราะว่าจีนวางโครงสร้างการเงินโลกใหม่ที่อิงความมีส่วนเกี่ยวข้องของนานาประเทศที่เข้ามาร่วมแล้วจะได้ประโยชน์กันทุกประเทศ ผิดกับระบบดอลล่าร์ที่ผูกขาด กันความมีส่วนร่วมหรือแบ่งผลประโยชน์ให้ประเทศอื่นออกไป พูดง่ายๆ คนอื่นยิ่งฉิบหายมาก สหรัฐยิ่งได้กำไรเจ้าเดียว
AIIBมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง57ประเทศ มีจีนเป็นเจ้ามือ และมีประเทศในเอเซียและยุโรปเป็นลูกมือ ไทยแลนด์เป็นลูกมือที่มีระดับพอสมควรเพราะว่าจะลงขันถึง$1,500ล้าน
ที่ล้ำลึกคือAIIVจะปล่อยกู้โครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศกำลังพัฒนาด้วยเงินหยวน และเงินสกุลของประเทศที่เป็นสมาชิก สร้างความแตกต่างด้วยการแข่งกับธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเซีย หรือสถาบันการเงินระหว่างประเทศอื่นๆที่ปล่อยกู้เป็นดอลล่าร์ผูกขาดอย่างเดียวให้ทุกประเทศเป็นทาสหรือเป็นหนี้ดอลล่าร์
สมมุติว่ารัฐบาลลาวต้องการลงทุนสร้างพัฒนาเครือข่ายเทเลคอมมีมูลค่า$200ล้าน ลาวสามารถกู้เงินจากAIIBได้เป็นเงินหยวน เงินบาท เงินวอนของเกาหลี หรือเงินสกุลอื่นของประเทศสมาชิกของAIIBได้ สมมุติต่อไปอีกว่าลาวขอกู้หยวน บาทและวอนเป็นจำนวนเทียบเท่า$200ล้าน ทั้งจีน ไทยและเกาหลีก็ทำsyndication loan หรือปล่อยกู้ร่วมกันให้กับรัฐบาลลาวไป
ในกรณีนี้ เงินหยวนของจีน เงินบาทของไทย เงินวอนของเกาหลีที่ลงในAIIBจะมีบทบาทมากขึ้นในการค้าขายระหว่างประเทศ เงินลงขันของไทยในAIIBจะงอกเงยขึ้นมา
เป็นการได้ประโยชน์ของประเทศสมาชิกร่วมกัน โดยที่หยวนไม่จำเป็นต้องผูกขาด เหมือนกับที่ระบบการเงินโลกปัจจุบันออกแบบมาให้ดอลล่าร์ผูกขาดแต่เจ้าเดียว
จะเห็นได้ว่าจีนได้ทำข้อตกลงสว๊อปค่าเงินกับประเทศคู่ค้าแล้ว เพื่อต่อไปค้าขายกันเป็นหยวน/บาท หยวน/ริงกิต หยวน/วอน หยวน/เยน หยวนรูเบิ้ล หยวน/รูปี
วิธีการนี้จะช่วย 1. ล้มการผูกขาดดอลล่าร์ 2. ลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนกับดอลล่าร์ 3. ลดค่าธรรมเนียมดอลล่าร์ 4. ลดความไม่สะดวกที่มาจากการต้องใช้ดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักเดียว
วิกฤติการเงินโลกที่ผ่านมาเป็นวิกฤติดอลล่าร์ และทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นต้มยำกุ้ง1997 (กู้ดอลล่าร์มากไป) วิกฤติดอทคอมปี 2001 วิกฤติตลาดบ้านซับไพรม์ปี2007 วิกฤติWall Street 2008 ยกเว้นวิกฤติยูโรที่เกิดตั้งตั้งแต่2010เป็นต้นมา ตอนนี้ฝรั่งพยายามบอกว่าเป็นวิกฤติหยวน ทั้งๆที่หยวนยังแกร่ง แม้ว่าตลาดหุ้นจะมีปัญหา แต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์จีนในการเอาคืนกองทุนฝรั่งในสงครามการเงิน
AIIBเป็นทางเลือก หรือทางออกจากกับดักพิษดอลล่าร์กระดาษที่สร้างวิกฤติทั้วโลก แต่ละรอบของวิกฤติ พวกนายแบงค์เมการวยขึ้นๆ
เมื่อAIIBปล่อยกู้เพิ่มมากขึ้นเป็นเงินของประเทศสมาชิก ความต้องการหรือดีมานด์ของดอลล่าร์จะน้อยลงตามลำดับ ถึงจุดๆหนึ่งเมื่อไม่มีใครต้องการดอลล่าร์ ดอลล่าร์จะไหลกลับสหรัฐก่อนใหเกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรง
ผลก็คือ 1. เฟดต้องพิมพ์เงินมหาศาล ทำQE4,QE5, QE6, QE7...จนเจ๊งไปเอง
2.กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารโลกที่ปล่อยกู้เป็นดอลล่าร์ หาลูกค้าไม่เจอ นั่งตบยุงกันเป็นแถว
3. ดอลล่าร์กลายเป็นกระดาษกงเต๊ก
จีนแย้มไพ่ออกมาให้เห็นแล้ว แต่เป็นไพ่นกกระจอก ฝรั่งเล่นไม่เป็น เพราะว่าคนละตำรา
thanong
2/9/2015

ยกเลิกหนังสือเดินทางของคุณ จาตุรนต์ ฉายแสง นี่คือการใช้อำนาจโดยมิชอบ เพื่อประโยชน์ตน (ความสะใจของผู้สั่งการ)

ว่า ด้วยเรื่อง การไปถอดถอน หรือ ยกเลิกหนังสือเดินทางของคุณ จาตุรนต์ ฉายแสง นี่คือการใช้อำนาจโดยมิชอบ เพื่อประโยชน์ตน (ความสะใจของผู้สั่งการ) ถามว่า ประเทศไทย และคุณประยุทธฯ "ท่านผู้นำ" อยากตกเป็นจำเลยในศาลนานาชาติใช่หรือไม่?

คำตอบ ที่ผมจะมอบให้คณะคสช. "ท่านผู้นำ" และครม.ประยุทธฯ 3 ก็คือ คำตอบสั้นๆดังต่อไปนี้:

๑. ในกรณีนี้นอกจาก จะเป็นการกระทำ ที่เรียกว่า "Abused of Powers for Private Gains" อันเป็นการกระทำที่เรียกว่า "Corruption" ตาม (สนธิสัญญาขจัดหรือปราบปรามการคอร์รัปชั่น ปีค.ศ.๒๐๐๓) หรือ Convention against Corruption,2003 ตามความหมายอย่างกว้างของสนธิสัญญาฉบับนี้แล้ว

๒.ผมว่า ประเทศไทย กำลังเดินเข้าสู่โหมด ของความหายนะแน่นอน อยู่ดีไม่ว่าดี ไปถอดถอนหนังสือเดินทางของ นักการเมือง แบบคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ต้อง

๓. ถามตรงนี้ว่า เคยอ่านเรื่อง ที่ผมนำคำพิพากษาของศาล Supreme Court ของสหรัฐฯ ที่ผมนำมาลงไว้ในเรื่องคุณปวิณ ชัชชวาลย์พงศ์พันธุ์ และ เรื่อง การถอนหนังสือเดินทางของ ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ฯพณฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้วไม่ใช่หรือ? ในชุมชนแห่งเสรีภาพ (the Land of Liberty


๔. คำตอบในเรื่องนี้ อยู่ที่บทความเหล่านั้น ถามตรงนี้ว่า กฏหมายอันมี ที่มาจากสนธิสัญญา คือ พันธกรณี ย่อมอยู่เหนือกฏหมายทุกฉบับของ ประเทศไทย รวมทั้งคำสั่งของ คสช.ใช่หรือไม่? ไปหาคำตอบด้วยตัวพวกท่านเอง

๕. เมื่อใดที่ผู้เสียหาย ได้รับผลร้ายเพราะการกระทำ ที่ว่านี้ เขาย่อมเกิดสิทธิในการฟ้องคดีในศาลนานาชาติ โดย อัตโนมัติ หรือ จะเรียกอีกอย่างว่า เขาได้รับสิทธิในการฟ้องคดี แบบ Automatic Exhaustion ในศาลนานาชาติทันที ตรงนี้ผมต้องขอถามอีกครั้งว่า กระทรวงจับฉ่าย ต้องตกเป็นจำเลยด้วยในเรื่องนี้ อยากเสี่ยงไหม? ถ้าอยากเสี่ยง ก็ต้องลองดู สักตั้ง


๖. เดี๋ยวผมจะเอาเรื่องราว และ คดีในกรณีนี้มาลงให้ดู โดยสังเขป และทุกคำพิพากษาของศาล Supreme Court ของสหรัฐอเมริกา ที่นำมาลงให้อ่านกัน วันนี้ องค์การสหประชาชาติ นำเอามาใช้เป็นหลัก ในการดำเนินวิเทโศบายขององค์การ "ท่านผู้นำ" อย่าหลงเชื่อ แต่กระทรวงจับฉ่าย เดี๋ยวจะเดือดร้อน ไม่สิ้นสุด.

เมื่อเห็นว่าจำเป็น ก็ต้องเตือนกันไว้ ก่อนจะเดินพลัดตกเหวลึก.

Wednesday, September 2, 2015

ดร.เพียงดิน รักไทย 2015-09-03 ตอน ความเสี่ยงและอันตราย ของการปฏิวัติแบบปชช.​ไม่ร่วมสะเด็ดน้ำ

ดร.เพียงดิน รักไทย 2015-09-03 ตอน ความเสี่ยงและอันตราย ของการปฏิวัติแบบปชช.​ไม่ร่วมสะเด็ดน้ำ




สี่พรรคใหญ่ผนึกกำลัง"คว่ำ"ร่างรัฐธรรมนูญ จันทร์ 7 กันยานี้ ก่อนดึง ปชป.ร่วม (จอม เพชรประดับ)

Published on Sep 2, 2015

นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตนักการเมืองหลายสมัย และอดีตประธาน นปช. ให้สัมภาษณ์ Thaivoiecmedia ว่า วันจันทร์ที่ 7 กันยายนนี้ แกนนำพรรคการเมือง 4 พรรค ประกอบด้วย เพื่อไทย ภูมิใจไทย ชาติพัฒนา และชาติไทยพัฒนา จะหารือกันเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ชอบธรรม และเป็นเผด็จการ ก่อนที่จะชวนให้ พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมด้วย เพราะเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ นักการเมืองซึ่งถูกประนามมาโดยตลอดในระยะ 1ปีกว่าที่่ผ่านมาว่าเป็นคนเลว จะต้องออกมาพิสูจน์ความตั้งใจที่จะให้การเ­มืองไทยเป็นประชาธิปไตย และเชื่อว่า ประชาธิปัตย์ กับ พรรคเพื่อไทย น่าจะร่วมมือกันได้เพื่ออนาคตของประเทศ เพราะต่างก็เห็นร่วมกันว่า หากปล่อยให้ ร่างรัฐธรรมนูญบังคับใช้ ประเทศจะเต็มไปด้วยความขัดแย้งและปัญหา ส่วน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้นได้ลาออกจากพรรคไปแล้ว ถึงตอนนี้คงต้องพิสูจน์กันละว่า พลังอำนาจของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับ เลขาธิการมูลนิธิ กปปส.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ใครจะมีมากกว่ากัน

"วีระกานต์"แจง วาทกรรมเท็จ คสช."นักการเมืองเลว-ประชานิยมทำลายชาติ” (จอม เพชรประดับ)

Published on Sep 2, 2015

https://youtu.be/j-5hcqtuO2I


นาย วีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตนักการเมืองหลายสมัย และอดีตประธาน นปช.ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณี รัฐบาล คสช. องคมนตรี และกลุ่มชนชั้นสูง กล่าวหานักการเมืองทุจริตคอรัปชั่น โดยเฉพาะอาศัยโครงการประชานิยมเพื่อตักตวง­ผลประโยชน์และอำนาจว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ และหากเป็นอย่างนั้นจริง คงไม่มีประเทศไทยเหลืออยู่บนแผนที่โลกแล้ว เพราะกว่า 80 ปีที่ผ่านมา ถูกพิสูจน์แล้วว่า นักการเมืองเข้ามาบริหารการเมือง ให้ประเทศสามารถดำรงอยู่ได้จนถึงปัจจุบันน­ี้ อย่ามองว่า นักการเมืองเป็นคนเลวเสียทั้งหมด ทุกกลุ่มคน มีทั้งคนดีและไม่ดี คนในกองทัพ ที่เป็นคนเลว ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่ามีอยู่ไม่น้อยเหมื­อนกัน ส่วนเรื่องประชานิยมของนักการเมืองนั้น ขออธิบายว่าเมื่อประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ นักการเมืองมีหน้าที่ทำให้ประชาชนพอใจหรือ­ให้ มีความสุขในการดำเนินชีวิต "ถามหน่อยเถอะว่า แล้วที่รัฐบาลทหารทำอยู่เวลานี้ ไม่เรียกว่าประชานิยมหรอกหรือ คือถ้าคิดจะไม่ให้มีนักการเมืองเข้ามาบริห­ารการเมือง จะให้ทหารปกครองบ้านเมืองแทน ถ้าทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข มีสิทธิเสรีภาพ ก็เห็นด้วยที่จะไม่ต้องมีนักการเมืองเข้าม­า บริหารบ้านเมือง" นายวีระกานต์กล่าวและว่า หนทางแก้ปัญหาความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง ต้องให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ไม่ใช่พูดเอาดีใส่ตัวอยู่เพียงฝ่ายเดียว

เรื่องทหารเกษียณแล้วทำไมไม่ออกจากบ้านพัก


เรื่องทหารเกษียณแล้วทำไมไม่ออกจากบ้านพัก

เรื่องบ้านพักนี่ ไม่รู้เริ่มกันปีไหน
คือเริ่มสร้างบ้านพักหลังใหญ่ให้ผู้นำกองทัพ

ก็สร้างในค่ายทหารนั่นแหละ
สร้างให้อยู่ เกษียณแล้วก็ไม่ยอมออก ยึดเลย

ที่ดินหลวง บ้านหลวง คนใช้หลวง รถหลวง น้ำหลวง ไฟหลวง

บ้านสวย ภูมิทัศน์สวย ราคานับสิบล้าน
ว่ากันว่า ด้านหลังบ้านติดสนามกอล์ฟในค่ายทหารนั่นแหละ

อย่างบิ๊กบัง วันนี้ก็ยังอยู่ใน ร.11 รอ. (ราบ 11)

ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังอยู่บ้านใน ร.1 รอ.

อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็ยังอยู่บ้านใน ร.11 รอ.

ประยุทธ จันทร์โอชา ก็อยู่ใน ร.1 รอ.

บ้านประยุทธอยู่นี่ สร้างเสร็จเมื่อปี 55 นี่เอง
หลังใหญ่ บนเนื้อที่สองไร่

เรียกว่าขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ปั๊บ ก็สร้างบ้านให้
เกษียณแล้วก็ไม่ออก ใครจะทำไม

และอีกหลายคน
ที่เกษียณแล้ว ยังอยู่บ้านพักในค่ายทหาร

ยังใช้ทหารเกณฑ์เป็นคนรับใช้
ยังใช้รถหลวง น้ำมันหลวง น้ำหลวง ไฟหลวง

คงได้แบบอย่างมาจากคนดีศรีแผ่นดิน
ที่ชื่อเปรม ติณสูลานนท์

ก็เปรมน่ะ ยึดบ้านสี่เสา
ซึ่งเป็นบ้านพักประจำตำแหน่ง ผบ.ทบ.
มาตั้งแต่ปี 2521 โน่น

เกษียณในปี 2524 ก็ไม่ยอมไปไหน
ถึงวันนี้ไม่รู้กี่สิบปีแล้ว

คนรุ่นใหม่ไม่รู้เรื่อง
ยังเข้าใจว่าบ้านสี่เสาน่ะ พ่อไอ้เปรมสร้างไว้ให้มัน

ฮา...

คนพวกนี้ ไม่มีสำนึก
คิดเข้าข้างพวกตัวแต่ว่า ทำดี เสียสละเพื่อบ้านเมือง

ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย

ทั้งชีวิตไม่เคยรบ มีแต่เสวยสุข
รับประทานงบลับ งบซื้ออาวุธ เล่นการเมือง อ้างสถาบัน

แล้วก็ใหญ่คับเมือง ถือว่ามีกองกำลัง มีอาวุธ

ไม่สำนึกสักนิดว่า
ตัวเอง ครอบครัว เสพสุข ใหญ่อยู่ได้นั้น

ล้วนมีคนต้องจ่าย

ใครล่ะจ่าย

ก็เงินภาษีของประชาชนทั้งนั้น

นอกจากไม่สำนึก
ยังทำตัวเป็นนายประชาชน

ทำตัวเป็นนายประชาชนยังไม่พอ
ตอนนี้ ยังนึกว่าพวกตัวเองเป็นเจ้าของประเทศไปแล้ว

เฮียกันจริง ๆ

คดี ธ. กรุงไทย กับความพยายามป้ายสีและกำจัด ชินวัตร ให้สิ้นซาก

ขอชี้แจงเรื่องหนี้10,000ล้านของธ.กรุงไทย 
( ทักษิณโดนโจม
ตีเยอะเลยอยากจะเล่าให้ฟังเพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจเลิกโจมเขากันได้แล้ว )

ขอเล่าเรื่องเงินกู้กรุงไทยที่เป็นข่าวครึกโครมขณะนี้

1.สมัยนายชวนเป็นนายกได้อนุมัติให้สร้างสนามบินสุวรรภูมิ.กลุ่มกฤษฎามหานครได้กู้เงินธ.กรุงเทพจก.8,000ล้านบาทำธุรกิจ

2.กลุ่มกฤษฎาได้รวบรวมซื้อที่ดินประมาณ4,000ไร่รอบๆสนามบินสุวรรณภูมิราคาเฉลี่ยไร่ละ200,000 บาท

3.(ผู้ซื้อรายหนึ่ง)เคยซื้อ
ที่ดินarea สุวรรณภูมิ 1
แปลง40ไร่(หุ้นกับเพื่อน)
ราคาไร่ละ 80,000 บาท
แล้วขายให้กลุ่มกฤษดาในราคาไร่ละ 200,000  บาท

4.สมัยทักษิณเป็นนายก
มีการเสนอยกที่ดินรอบสุ
วรรณภูมิ 400ไร่สร้างรัฐ
สภาแห่งใหม่  แต่ทักษิณ
ปฏิเสธ

5.กลุ่มกฤษดากู้เงินธ.กรุงเทพนานแล้วก่อนทักษิณเป็นนายกกฤษดามีหนี้NPLที่ธ.กรุงเทพจำกัดจำนวน8,000 ล้านบาท

6.และพูดกันว่ามีอำนาจสีเทาที่ยิ่งใหญ่บีบให้กฤษฎากู้เงินจากธ.กรุงไทย10,000ล้านบาทเพื่อนำเงินไปชำระหนี้NPLที่ธ.กรุงเทพ(ไม่ใช่ทักษิณ)แต่เขาลากทักษิณเข้ามาเอี่ยว 

....การปล่อยกู้สมัยทักษิณเป็นนายกเป็นการกู้ธ.กรุงไทย 2,000 ล้าน  (แต่หนี้ทั้งหมดของกรุงไทยมีจำนวน10,000ล้านบาท )

......ในตอนถึงวาระเลือกกรรมการบริหารกรุงไทย ต่อจาก นาย วิโรจน์ นวลแข ลิ้ม
พยายามล๊อบบี้มาทางทักษิณอยู่ในสมัยเป็นนายกฯ 

แต่ทักษิณไม่เอาด้วยเป็นเหตุให้ลิ้มโกรธทักษิณสาเหตุหนึ่งตอนนั้เป็นหนี้กับกรุงไทยเป็นพันล้านแต่ใช้หนี้ด้วยการธ.กรุงไทยด้วยการส่งนสพ.ผู้จัดการให้กับธนาคารเป็นการใช้หนี้ 

......ขยายความเรื่องธ.กรุงไทยต่อกลุ่มกฤษฏารวบรวมซื้อที่ดินรอบๆสุวรรณภูมิประมาณ  4,000ไร่
ในราคาประมาณ800-1,000ล้านบาทแต่นำไปจำนองธ.กรุงเทพกู้เงินมาได้ตั้ง8,000ล้านเป็นหนี้เสียอยู่พักหนี่งจึงย้ายหลักทรัพย์มากู้ธ.กรุงไทย10,000  ล้านบาท

....ถามว่าการเป็นหนี้อยู่ สามารถย้ายหลักทรัพย์ได้ด้วยหรอ...ตอบว่าได้ นัดทั้งธ.กรุงเทพเจ้าหนี้เก่ากับธ.กรุงไทยเจ้าหนี้ใหม่ไปทำเรื่องกันที่สำนักงานที่ดินเลย

......ตอนนี้เราก็จะรู้ได้ว่าสลิ่มหรือแม้แต่ปปช.หรือคตส.เขาจะโยงใส่ร้ายทักษิณให้คนที่ไม่รู้เรื่องเข้าใจว่าทักษิณโกงทั้งๆที่หนี้8,000ล้านเป็นหนี้เสียที่ธ.กรุงเทพ นานแล้ว
คตส.จะไม่เอ่ยถึงหนี้เดิม
ธ.กรุงเทพเลย  จะเอ่ยถึง
เฉพาะหนี้ใหม่ธ.กรุงไทย
สมัยทักษิณ  จะได้
ให้คนที่ไม่รู้เรื่องมะโนว่า
ทักษิณไม่ดี..มีเอี่ยวในการอนุมัติเงินกู้กรุงไทย
10,000 ล้าน

•เรื่องนี้ปปช.ชงเรื่องเองฟ้องเองในตอนแรกอัยการไม่ฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอแล้วมาทำคดีให้โยงไปถึงทักษิณ

เมื่อนักจด ได้รับรางวัล พระมารดาแห่งการคิด

เฮ๊ย.... องค์การระดับโลก ก็บ้าจี้ไปด้วย




Tuesday, September 1, 2015

ร่างรัฐธรรมนูญโจร คือการตบหัวแล้วถ่มขากน้ำลายใส่หัวประชาชน หรือไม่?

มีพี่น้องผู้อ่านทางบ้านได้อ่านเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญของไทย ที่ผมวิเคราะห์ไว้ในตอนที่ ๓ แล้วบอกว่ายาวไปอ่านไม่ไหว

ผม จึงต้องขอกราบ ขออภัยด้วย และขอกราบเรียนว่า ผม จะเขียนให้มันสั้นไม่ได้เพราะผม มีเหตุผลของผมดังนี้:

๑. ที่ลงสั้นๆไม่ได้ เพราะผมต้องการให้คนไทย ได้อ่าน ได้เห็นหลักการร่างรัฐธรรมนูญ ในระบบกฏหมาย ที่เขาใช้ในระบบกฏหมายลายลักษณ์อักษร


๒. แล้วเปรียบเทียบ กับ ร่างรัฐธรรมนูญของเรา เมื่อนายบวรศาก นักกฏหมายหญ่าย ร่างเสร็จ แล้วนำเสนอเข้าไปในสภาปฏิรูปฯ

๓. แล้วมีการขอให้ทำประชามติโดยปวงชน ตรงนี้ผม ต้องขอถาม ด้วยคำถามว่าว่า มีข้อเรียกร้องติดมา กับ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ของไทย ใช่หรือไม่?

๔. คำตอบ ก็คือ มี นี่คือข้อเรียกร้อง ที่ติดมาด้วยกับ ร่างรัฐธรรมนูญ

๕. เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ร่างรัฐธรรมนูญ ที่นำเสนอมา ย่อมต้องตกเป็นโมฆะไปในทันที ตามกฏเกณฑ์ของ กฏหมาย ที่ผมนำมาลงให้ดูนี้


๖. ยิ่งไปแก้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เพื่อให้ไปรองรับ การทำประชามติ ตามมาด้วย มันเป็นเรื่อง ที่เลอะเทอะไปกันใหญ่ และ

๗. คนไทยส่วนใหญ่ ก็ไม่รู้ว่านี่ คือ การก้าวล่วงเข้าไปทำผิด กฏเกณฑ์สำคัญ ในการร่างรัฐธรรมนูญ ในระบบกฏหมายลายลักษณ์อักษร และ

๘. ยิ่งทำให้เกิดความ เป็นโมฆะไปกันใหญ่ ขอให้พี่น้องชาวไทย ทั้งหลาย โปรดพิจารณากันด้วย ตรงจุดสำคัญนี้

๙. เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ ตกเป็นโมฆะแล้ว คุณ ว่ามีความจำเป็นหรือไม่? และเพียงใด? ต่อการนำร่างรัฐธรรมนูญ ที่เป็นโมฆะ ไปให้ประชาชน คนไทย ลงประชามติ

๑๐. คุณคิดว่า:


๑๐.๑. เขา ดูถูก ความเฉลียวฉลาด และ ความเป็นคนไทย หรือไม่?


๑๐.๒. เขา กำลังดูถูก ดูหมิ่นคนไทยทั้งหลายว่า โง่เง่า เตาตุ่นหรือไม่?

๑๐.๓. เขา ดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ของเรา ที่ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ปีค.ศ.1948 ที่ได้บัญญัติรับรองว่า คนไทย ก็มีเหมือนพี่น้องร่วมโลกใบนี้ ในประเทศอื่นๆ หรือไม่?

๑๑.ผมต้องขอให้พี่น้องคนไทย ที่ได้อ่านข้อเขียนี้ ช่วยกันพิจารณา โดยถ่องแท้ด้วย.

ด่วน ! "สมยศ" ลงนามเซ็นถอดยศทักษิณแล้ว !

ด่วน ! "สมยศ" ลงนามเซ็นถอดยศทักษิณแล้ว ! เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนที่ประจำทำเนียบรัฐบาลว่า ได้รับรายงานเอกสารเรื่องเสนอถอดยศพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ลงนามเซ็นเอกสารในการเสนอถอดยศพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ก่อนที่เอกสารดังกล่าวจะมาถึงผม และวันนี้ก็ได้รับเอกสารเรื่องถอดยศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะลงนามเซ็นด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องเข้า ครม.ให้พิจารณาเสียเวลา ซึ่งจะทูลเกล้าฯ ถอดยศเลย ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน ผมก็ต้องเซ็นอยู่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าว. ที่มา : ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล และ คุณวาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร   แค่แผ่นสังกะสี ต่อนี้ไปเราจะเรียกท่านว่า ดร ทักษิณ

บ้าไปแล้ว!! สาวเชียงใหม่โดนศาลตัดสินคดี 112 56 ปี ลดครึ่ง เหลือ 28

บ้าไปแล้ว!!  สาวเชียงใหม่โดนศาลตัดสินคดี 112  56 ปี ลดครึ่ง เหลือ 28  http://freedom.ilaw.or.th/case/681



บริษัท อัคราไมนี่ ของภูมิพลและเครือข่าย

บริษัท อัคราไมนี่ ของภูมิพลและเครือข่าย



Monday, August 31, 2015

ข้าราชการไม่ดูแล ปล่อยให้มีการเผาขยะ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก!!!

ข้าราชการไม่ทำงานปล่อยให้มีการเผาขยะไม่หยุดทุกวัน
ชาวบ้านไม่ได้นอนตั้งแต่สองทุ่ม บ่นเหนื่อยมากๆ แถวนั้น มีทั้งเด็กเล็ก และคนแก่ แจ้งข้าราชการไปแล้วก็ไม่ทำงาน นี่เป็นมาร่วมๆจะสิบปีแล้ว

ใครมีอำนาจแถวนั้น รับเรื่องไปจัดการด่วน!!! 

https://www.youtube.com/watch?v=x9g8elSgZqY


ข้าราชการไม่ดูแล ปล่อยให้มีการเผาขยะ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก!!!

อนันต์ ประพงษ์ ถาม.จริงๆรธน.ประเทศไหนแก้ปัญหาได้.?

อนันต์ ประพงษ์ ถาม.จริงๆรธน.ประเทศไหนแก้ปัญหาได้.?

ในนานาประเทศในการแก้ไขปัญหานั้นเขาใช้"หลักการ"ทางการเมืองไปสู่นโยบาย.ยุทธศาสตร์และยุทธวิธี.ซึ่งไม่ใช่กฏหมายรัฐธรรมนูญ.นะครับ
หลัก การนี้หมายถึง.หลักการประชาธิปไตย.เท่านั้น.ถึงจะแก้ไขปัญหาได้..เช่นเดียว กับหลักการในการแก้ไขปัญหาเศรษฐ.ก็ต้องใช้หลักการ.,ทางเศรษฐกิจ.ซึ่งไม่ใช่ กฏหมาย.เช่น.นโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลท่านประยุทธ์.เป็นตัน
ในหลักการ.ปชต.นี้้เหมือนกันทุกประ
้ เทศ.คือ.หลักการอำนาจอธิปไตยของปวงชน.หลักการเสรีภาพของบุุคคลบริบูรณ์.หลัก การความเสมอภาค.หลักดารนิติธรรม.และการปกครองจากการเลือกตั้ง
ทั้ง ห้าหลักการประชาธิปไตย.ถ้าเป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว.ไม่ต้องเขียนเพราะมัน เป็นอยู่แล้ว.แต่ถ้าไม่เป็น.ปชต.จะไปเขียนกฏหมายให้เป็นอย่างไรก็ไม่ เป็น.แล้วกฏหมาย.รธน.ฉบับนั้นก็จะถูกฉีกทิ้ง.เพราะหลักการจริงๆไม่ใช่.ปชต. แต่จะเขียนให้เป็น.ปชต.มันก็ไม่เป็นมันเกิดความขัดแย้งกันขึ้น

เพราะ ฉะนั้น.จึงไม่มีประเทศประชาธิปไตยที่ไหนในโลกจะเขียนรธน.ขึ้นมาก่อนการ สร้าง.ปชต.เสร็จ.เช่น.ในประเทศคอมมิวนิสต์เขาสร้างการปกครองแบบคอมมิวนืสต์ เสร็จก่อนจากนั้้นค่อยไปเขียรธน.,ในอเมริกาปฏิวัติประชาติและปฏิวัติ ปชต.เสร็จในปี.ค.ศ.1776หลังจากนั้น15ปีถึงมีกฏหมาย.รธน.ขึ้นในปี.1789.และ ใช้มาจนถึงทุกวันนี้
เพราะฉะนั้น.การแก้ไขปัญหาอะไรก็ตามจะต้องทำตามหลักการใดหลักการหนึ่ง เช่น.คำสอนของศาสนาต่างๆซึ่งเป็น

หลัก การคำสอนที่มีอยู่แล้วถ้าทำตามหลักการก็จะสามารถเข้าถึงหรือบรรลุธรรม ได้.โดยไม่ต้องไปเขียนเป็นกฏหมายขึ้นใหม่เหนือนที่ประเทศไทยไปเขียนกฏหมาย ขึ้้นใหม่.มันจึงฉีกแล้วฉีกอีก
ก็เพราะไม่รู้จักหลักการ.ปชต.จึงเกิดปัญหาขึ้นในทางการเมือง
ทีนี้ พอมาถึงอีกจุดในปัจจุบัน.ในการจะเขียน.รธน.ประชาชนมีกลุ่มผลประโยชน์มากมาย กว่าแต่ก่อนมากจึงเข้าใจหลักการ.ปชต.มากขึ้น.เมื่อคนเขียนรธน.มันขัดกับ นโยบายจึงทำให้.ปชช.เกิดการต่อต้านขึ้นมาแม้จะเป็นคนพวก
เดียวกันแม้แต่พรรคทีาสนับสนุนรัฐบาลก็มีทีท่าไม่รับ.รธน.ฉบับ.คสช.
ดัง นั้น.ความสัมพันธ์ระหว่างหลักการกับกับกฏหมาย.นั้น.กฏหมายต้องมาทีหลังหลัก การ.ปชต..หรือถ้าเป็นแล้วบางประเทศก็ไม่จำเป็นต้องเขียนไว้ .เพราะ.ปชช.เข้าใจหลักการ.ปชต.เป็นอย่างดีในเส้นเลือดและเข้าสู่การปฏิบัติ จนเป็นประเพณีหรือ.ลัทธิคอมมิวนิสต์ในจีน.,ในลาวเขายึดเอาลัทธิและทฤฏีเป็น หลักการยึดเหนี่ยว.ไม่ใช่ยึด.รธน.เป็นหลัก.
หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง.การยุติสงคราม

กลาง เมืองของประเทศไทยในคำสั่ง66/2523.นั้น.ถัามัวแต่ไปก้มหน้าก้มตาแก้ไข.รธน. ก็ไม่มีวันจะยุติสงครามกลางเมืองได้.แต่ทีสามารถยุติสงครามลงได้ เพราะ"นโยบาย".ซึ่งเป็น"นโยบายประชาธิปไตย"และปฏิบัติทางการด้วยมาตรการขยาย เสรีภาพของบุคคลตามหลักการ.ปชต.ในหลักการที่สอง.
ซึ่งไม่ได้แก้ไข.รธน.เลย.เนื่องจาก.รธน.ที่ใช้อยู่เป็น.รธน.ของระบอบเผด็จการ.
ในความสัมพันธ์ระหว่างกฏหมายกับหลักการทางการเมืองเป็นเช่นนี้.

ดร.เพียงดิน 2015-08-31 ตอน ตัดเยื่อใยยิ่งลักษณ์-และข้อคิดเรื่องการล้มรัฐธรรมนูญและอำนาจโจรกบฏ

ดร.เพียงดิน 2015-08-31 ตอน ตัดเยื่อใยยิ่งลักษณ์-และข้อคิดเรื่องการล้มรัฐธรรมนูญและอำนาจโจรกบฏ

อดีต ปัจจะบัน และอนาคต ของประยุทธ์​ (มุมมองจากเฟสบุ๊ค)

..อย่าปล่อยให้ไร้บุบผาฝืนหักกิ่ง..

"ภูเขาสูงมิขวางกั้นเมฆขาว
ป่าไผ่ไม่เป็นอุปสรรคธารน้ำใส"

หลังรปห.ใหม่ๆทุกพรรคการเมืองถูก
บีบคอและจำรับปากทุกเงื่อนไข
ถือเป็นธรรมดา ต้นมค.58ทุกพรรค
การเมืองปชต.เริ่มถ่วงเวลา(กั๊ก)
23มค.ยิ่งรักถูกแขวนติดตามด้วย
ส่งอัยการทันที24usเข้ามาจึงเป๊ก/
ตามด้วยสมศักดิปริศนา(ชาติไทย)
โดนมั่ง สถานการณ์รัฐทหารทรุด
เสื่อมถอยลงตลอด จำต้องรีบปล่อย
รธน.ตามสูจน์ก้าวตรงไม่ได้บางครั้ง
จึงก้าวเฉียง พร้อมพงศ์จึงโดนเชือด
ในยกสองนี้ คือก่อนเลือกตั้งต้อง
ทำลายพรรคที่ไม่คล้อยตามให้สิ้น
"ช่วงเวลาของยามนี้"
หากพรรคการเมืองฝ่ายปชต.ไม่
ฉวยโอกาศออกมาวิพากษ์รธน.
ตามหน้าที่ที่อาสามารับใช้ปชช.
ผลจะพรรคการนั้นจะสูญหายจาก
หัวใจปชช.ที่เคยหนุน พรรคชาติ
ไทยถิ่นข้าวเสียหายมาก และโกหาร
คือผู้อาวุโสทางเมืองในวันนี้...
จะกล้าคิดสั้นหยวนๆต่อทหารอีกไม๊
ไม่กี่วันที่ผ่านมายิ่งรักได้ไปวันเกิด
บรรหารคงมองตาก็รู้ใจบรรหารได้
ชูไฟฉายเปิดแสงก่อนมอบให้
"ไว้ส่องทาง" การชุมนุมฝ่ายการเมือง
ปชต.ครั้งนี้สื่อนัย? วันนี้วันเกิดสมชาย?
ไม่ว่ากระทำการใดหากไม่ฉวยคว้า
ในช่วงที่เหมาะสมอาจจะสายเกินแก้
มิใช่ไปโทษมึงโทยกูหลังปชช.ทิ้งขว้าง
ในช่วงบุบผาเริ่มผลิต้องรีบคว้าหาก
บุบผาร่วงแล้วคุณจะเสียโอกาศน่ะ
นักเลือกตั้งทั้งหลาย...

หนังสือเศรษฐกิจมิเคฮิชิมบุนวิจารณ์
สมคิด"ใช้นโยบายทักซิโนเต็มตัว
แต่ไม่ได้ผลเพราะในยุคนั้นมีทีมงาน
เป็นดรีมทีม แต่ยุคนี้ไม่มีตัว ทีมงาน
อาศัยแต่ข้าราชการ และนานาชาติ
ไม่คุยด้วยเนื่องจากรัฐบาลมาโดยไม่
ถูกต้อง" อีกนัยหนึ่งต้องการพูดดักคอ
รัฐบาลญี่ปุ่นเองด้วยกลัวใจอ่อน
ญี่ปุ่นลงทุนในไทยเป็นล้านล้าน..
คนปชต.ในญี่ปุ่นต้องการบีบสั่งสอน
เผด็จการทหารไทยกรณีนักข่าวตน
โดนยิงซึ่งๆหน้าและไม่ได้รับความ
ยุติธรรม...
พม่าได้จับฝ่ายต่อต้านขังคุก5-6,000
คนที่โดนฆ่าและหนีไม่มีตัวเลข..
เผด็จการทหารไทยชอบโมเดลพม่า
ขอถามว่าจะกล้าจับเสื้อขาวติดคุกไม๊
และกล้าจับขยายวงให้มากไม๊
กล้าๆหน่อยอย่าเอาแต่เห่าในท่าม
กระแสต้านทหารนับวันยิ่งร้อนแรง
คนพม่าถูกแช่แข็ง3-40ปีแต่ไทย
ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะตลอด.
จึงไม่เหมือนกันแน่...
เกาหลีเหนือคนหนีออกตลอดกลัว
เหลือแต่ปืน จึงล้อมรั้วด้วยทหาร
ตลอดชายแดนและออกกฎครอบ
ครัวไหนมีคนหนีออกไปจะจับที่เหลือ
ขังคุก แต่ดาบตัดทุกสิ่งได้เว้นตัดใจ
ทุกวันนี้คนยังหนีออกตลอด ลุกลาม
ถึงทหารยามหนีด้วย ..
กรณีเอราวัณ ทหารคงหาทางลงยาก
อาจแถลงจบดื้อๆแล้วลืมมันซ่ะ
ไม่มีหลักฐานจากราชสงศ์มาโยง
เพราะมันรีบทำลายหลักฐานหมด
สิ่งนี้จึงขัดแย้งกันเองกับเมื่อวาน
ซึ่งพยายามสร้างหลักฐานใหม่
ขอข้ามเรื่องนี้มันเอาพวกพูดถึง
แรง(กลัวความจริงหากสังคมรู้
ว่าพวกกูทำเอง จะยิ่งทรุดหนัก
ทางสังคม)
ธีระชัยเป็นผบ.ออกรูปนี้ไอ้โง่ขาลอย
สองพี่น้องถูกประวิทย์ยึดปืนคืนแล้ว
ผลคงไม่กี่เดือนไอ้โง่ถูกเปลี่ยนตัว
นี่คือแพะตัวที่๑แห่งความผิดพลาด
นำหายนะต่อปทท.สามวันนี้ยุดทำ
เหี้ยมขู่นักปชต.แรงแข็งกร้าวหวัง
กู้หน้าอยู่ยาวแต่ไอ้โง่ก็โง่วันยังค่ำ
ว่าที่มันเสื่อมเพราะนิสัยนี้แหละ
ครั้งกปปส.ที่มันโผล่มาขู่ยิ่งรัก
เป็นระยะนั้นไม่เหมือนกับ15เดือนนี้
มันได้แก้ผ้าตัวเองทุกวันโชว์โง่+
อันตพาลไม่สมตำแหน่งนายกปทท.
และหัวหน้ากองทัพ ได้ดีเพราะประจบ
กระล่อนตามหลังต่อยิ่งรัก_ส้ม_
วันที่22พค.57
ต่อประวิทย(ข้ามหัว)ต่อปรเมศ
ยกมือไหว้แต่ดัดหลังตั้งทหารฝ่าย
ตนข้ามฝ่ายปรเมศ๑กย.ปี57
ดังนั้น เราจะเห็นยุดจะ
เป็นหมาหัวเน่าในไม่ช้าคนอสัตย์
กระล่อน เมื่อหมดปืน ใครก็ทิ้ง
ใครก็ปลีกห่าง จุดตายหากศาลun
เรียกตัวยุดและคณะ5คนไปให้ปากคำ
ที่ศาลun จากคำฟ้องของตุรกี
"ขึ้นต้นด้วยอุยกรูย์ลงท้ายด้วยอุยกรูย์
น่ะ"ไอ้โง่
"มาจากแห่งหนใด
คืนสู่ถิ่นสถานไหน
ยามฝันมิใช่ไม่มี
เวลาตื่นมิใช่ได้ครอบครอง"
หมดยก
วันนี้ปาล์มราคา2.50฿
หากปาล์มราคา5.00฿นอนหลับ
สบายหากราคา4.00฿พออยู่ได้
3.00฿ลมหายใจรวยริน
2.50฿หลับไม่ตื่นฟื้นไม่มี
=รัฐทหารมอบของขวัญด้วย
ไม้จันแด่ชาวใต้เพื่อนแท้มิตรอัน
ประเสริฐ.
อามิตรพุทธ

ข้อเสนอ "ทวงคืนและรื้อฟื้นวันชาติก่อนจะสิ้นชาติ"

เรียน ดร.เพียงดินที่นับถือ
ขอเวลาผมสักนิด เข้าใจว่าท่านคงมีเวลาจำกัดมาก
ด้วยวัยของผม 67 ย่าง 68 ปี งานที่ท่านมอบคงต้องใช้เวลาครับ

แต่ที่เขียนมาวันนี้เพราะอยากเสนอให้พิจารณาในประเด็นที่สำคัญ
ยึดเป็นหลักและปักธงไว้ และท่านคิดว่าดีเป็นประโยชน์กับองค์กร ก็นำไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ท่านอื่นๆ
ที่จะไปร่วมประชุมที่ลาสเวกัส 
        ประเด็นที่เสนอคือ "ทวงคืนและรื้อฟื้นวันชาติก่อนจะสิ้นชาติ"
ทำให้คนในชาติได้รู้ว่า เรามีวันชาติและหายไปเพราะอะไร  และความสำคัญของชาติ
ก็ต้องถือว่าสำคัญที่สุดเหนือสถาบันอื่นใด ก็ขอรบกวนเวลาท่านเท่านี้ก่อนครับ

ขอแสดงความนับถือและศรัทธา
XXXX

"ไม่รับ"ร่างรัฐธรรมนูญขั้นประชามติ บทพิสูจน์พลังประชาธิปไตย (จอม เพชรประดับ)

"ไม่รับ"ร่างรัฐธรรมนูญขั้นประชามติ บทพิสูจน์พลังประชาธิปไตย

123 views
Published on Aug 31, 2015

ศาสตราจารย์ พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia เกี่ยวกับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ของ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ว่าจะรับ หรือไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญก่อนที่จะนำไปสู่การทำประชา­มติหรือไม่ว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย และไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะที่มีที่ไม่ชอบธรรมและไม่เป็นประชาธิ­ปไตย และเชื่อว่า สนช.จะคว่่ำ หรือ รับ คงกำลังประเมินว่าอย่างไหนจะได้เปรียบกว่า­กัน ถ้า รับ ก็ต้องมั่นใจว่า จะผ่านขั้นการทำประชามติ แต่หาก ไม่รับ นั่นแสดงว่าประเมินแล้วว่าจะไม่ผ่านในขั้น­ประชามติ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า สนช.จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คสช.และทหาร ก็จะยังคงคุมอำนาจ คุมประเทศต่อไปอย่างน้อย 2-3 ปี และหากทุกอย่างผ่านไปได้ทั้งหมด ไปสู่การเลือกตั้ง อำนาจทหารก็ยังคงอยู่กับการเมืองไทยต่อไปไ­ม่น้อยกว่า 5 ปี ดังนั้น ทางเดียวที่ฝ่ายประชาธิปไตยทำได้คือ การไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ในขั้นการทำประชามติ แม้ว่าจะยังทำให้ คสช. สนช.ยังอยู่ในอำนาจต่อไป แต่จะส่งผลกระเทือนอย่างรุนแรงต่อ กองทัพ และ คสช.

ดร.เพียงดิน 2015-08-31 ตอน ตัดเยื่อใยยิ่งลักษณ์-และข้อคิดเรื่องการล้มรัฐธรรมนูญโจร

ดร.เพียงดิน 2015-08-31 ตอน ตัดเยื่อใยยิ่งลักษณ์-และข้อคิดเรื่องการล้มรัฐธรรมนูญโจร

ดาวน์โหลดเพื่อการเผยแพร่



ข่าวลับกรองแล้ว จากสายลับในกองทัพไทย 31 สิงหาคม 2558

ด่วน..เป็นบุญตาที่ได้เห็นโฆษกทบ. ข่มขู่สื่อที่เผยแพร่ยุทธภัณฑ์ออกภาพทีวีพูล ทั้งที่เป็นรายการแถลงข่าวของ รัฐบาล คสช.เองแท้ๆ ส่วนไอ้โฆษก ทอ.ตัวเบื๊อกนั่งรากงอกจนเป็นพลเอก ยังไม่มีความคิดดีๆออกมาสู่สังคม บอกจะฟ้องทหารอากาศด้วยกันที่ส่งข้อมูลให้ชาวเนตถล่มกลุ่มทหารอากาศเด็กนายขับเครื่อง C 130 พาพวกและครอบครัวไปเที่ยวช้อปปิ้งที่ซานซานฟิสโก จนถูกคนร้ายปล้น ถูกแทงบาดเจ็บ เรื่องถึงได้แดง

                                                  **** พบอีกตัวแล้ว โฆษกทหารโง่หายากในรั้วสีเทาเขต ทอ. เบ่งกล้ามใหญ่คับฟ้า คนวิจารณ์พวกมันถลุงงบของประชาชนเป็นไม่ได้ โชว์กร่างข่มขู่จะฟ้องคนโพสต์ กลุ่มนายทหารอากาศขับ C130 บินไปเที่ยวที่อเมริกา แต่ไอ้โคสกโสโครกมณฑลมันบอกไม่จริงนะ ก็ไหนทางสหรัฐประกาศบอกโต้งๆจะไม่ร่วมทำกิจการอะไรทางการทหารไทย นอกจากกิจกรรมทางด้านสิทธิมนุษยชน แล้วจะมาบอกขนเอาเครื่องไปฝึกบิน หรือฝึกเที่ยวได้ใช่ใหมล่ะ ไม่ผิดกฏสำหรับเด็กนาย บินขนครอบครัวนายพาไปเที่ยวก็ทำกันอยู่เรื่อย มาโกรธชาวบ้านหาหอกอะไร คนส่งข่าวก็เป็นทหารอากาศเหมือนมัน รู้ใส้กันดีเลยไอ้มณฑล คนเขาเชื่อในความล้มเหลวของ ทอ.ที่เอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตนกันดีนัก หลังเกิดเหตุทหารอากาศถูกโจรกระชากกล้อง แต่วิ่งไล่ตามจนถูกยิงบาดเจ็บ ปิดข่าวทำไมถ้าไปฝึกRed Flag จริง คนเขาห่วงใยแท้ๆ แต่มาระเบิดอารมณ์เหมือนโดนจับผิดได้ ออกเตือนพวกส่งต่อข่าวนี้ จะโดนด้วย กลัวจังเลย.

พลอากาศเอกมณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศไทย และกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการฝึก Red Flag ร่วมกัน ที่ฐานทัพอากาศ Travis 
,SanFrancisco

การฝึกครั้งนี้ กองทัพอากาศได้จัดส่งเครื่องบินลำเลียง C130 พร้อมกำลังพลไปเข้าร่วมการฝึก

แต่ในช่วงวันหยุด  คือเมื่อ วันที่25สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น  เป็นกำหนดพักการฝึกนักบินที่เข้าร่วมฝึก  กำลังพลจึงใช้วันหยุดช่วงฝึกไปที่ซานฟรานซิสโก  แต่เกิดเหตุถูกคนร้าย 2คน กระชากกล้องถ่ายรูป  จึงได้วิ่งไล่ตาม แต่ถูกคนร้ายยิง จนได้รับบาดเจ็บที่แขน นั้น

ขณะนี้ ทางกองทัพอากาศ ได้ส่งตัวเดินทางกลับเมืองไทยแล้ว ส่วนคนร้ายได้ถูกจับได้ในเวลาต่อมา

แต่ข่าวที่ปรากฏในสังคมออนไลน์ นั้นแจ้งว่า กองทัพอากาศจัดเที่ยวบินไปเที่ยว   ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ก็เอารายละเอียดเที่ยวบินและผู้โดยสารมาเปิดด้วย มีพลเรือนเกาะล้อไปฝึกพ่องอะไรเยอะเต็มไปหมด เผลอๆคนโดนแทงเป็นพลเรือนครอบครัวทหารอากาศเอง บอกว่าเป็นการไปฝึกร่วมกับสหรัฐอเมริกา แต่หน้าตาผู้โดยสารเหมือนไปฝึกช้อปปิ้ง

มณฑลไม่ต้องขู่ มีหลายวิธีที่จะรู้ว่า ทหารโฆษกตอแหล มันกลายเป็นโรครักษากองทัพไว้ยาก "ถ้ายังคิดว่ามันใหญ่ เรื่องของกองทัพอากาศตรวจสอบไม่ได้ ไม่จริงเสมอไป กองทัพอากาศมีคนดีมากมาย ไม่ใช่แต่พวกเห็บเกาะอำนาจเถื่อนแบบพวกทำลายกองทัพอากาศกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งเท่านนั้น
//ขอถามสหรัฐด้วยเลยไหนบอกไม่ร่วมกิจกรรมทางการทหารไทยแล้วเชิญคนพวกนี้ไปฝึกร่วมทำไม ดูไอ้โฆษกทอ.ซิมันกร่างแค่ไหน ในเมื่อประชาชนเขาเชื่อว่าสหรัฐไม่น่าจะเชิญ  คนสงสัยมันไม่ได้เลยหรือไงครับ?

Sunday, August 30, 2015

"อยากขอให้ศาลตัดสินประหารชีวิตเลยจะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์ทนลำบาก"ปัทมา มูลนิล ... คุณยังจำผู้หญิงคนนี้ได้หรือไม?

"อยากขอให้ศาลตัดสินประหารชีวิตเลยจะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์ทนลำบาก"ปัทมา มูลนิล ... คุณยังจำผู้หญิงคนนี้ได้หรือไม?

ปัทมามูลนิลซึ่งถูกจับในขณะอายุเพียง 23 ปี เธอเป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัวแม่ค้าขายอาหารตามสั่งและกำลังเรียนกศน.ในระดับมัธยมต้น
ปัทมาเคยร่วมอุดมการณ์กับกลุ่ม'คนเสื้อเหลือง' และติดตามข่าวสารผ่านช่องเอเอสทีวีมาโดยตลอดจนกระทั่งมีการยุบพรรคและเลือกตั้งใหม่เธอเริ่มตั้งคำถามจากนั้นเธอจึงติดจานดาวเทียมที่มี 'ช่องเสื้อแดง'ก่อนที่ความคิดจะค่อยๆ เปลี่ยนไป
ก่อนถูกจับแม่ของเธอได้โทรไปบอกว่ามีหมายจับมาให้ไปมอบตัวเธอบอกกับแม่ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเธอไม่ได้เผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เธอเข้าไปอย่างเดียวไม่ได้ทำอะไรแม่ก็บอกว่า"ถ้าไม่ได้ทำอะไรลูกก็กลับมามอบตัวสู้คดีซะลูกให้โทรมาบอกอาให้อาพาไปมอบตัว"

แต่ในที่สุดเธอก็ถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 24พฤษภาคม2553ที่สถานีขนส่งจ.สุรินทร์โดยเธอถูกล็อกตัวใส่กุญแจมือโดยถูกจับกดคอลงกับพื้นท่ามกลางสาธารณชนพร้อมทั้งมีปืนจ่อหัวและจับคอเสื้อลากขึ้นรถไปยังสภ.เมืองสุรินทร์เพื่อนที่ไปด้วยก็ร้องไห้และถูกบังคับให้เธอรับสารภาพเสีย จะได้ปล่อยเพื่อนไป และขู่จะยัดยาบ้าให้อีกหลายเม็ดและให้เซ็นรับสารภาพแต่โดยดีว่าเผาศาลากลางเซ็นแล้วก็จะปล่อยตัวเพื่อนไปสุดท้ายเธอจึงยอมเซ็นตำรวจนำตัวเธอกลับมาถึงอุบลราชธานีตอนเที่ยงคืนและได้เอารูปภาพประมาณ 400 ภาพในวันเกิดเหตุมาให้ดูและถามว่ารู้จักใครบ้างให้รีบบอกมาเธอบอกว่า ไม่รู้จักตำรวจก็ตบหัวเธอทุกครั้งที่ถามจนเกือบตี 3กว่าก็พาเธอลงมาขังไว้ใต้ถุนสถานีตำรวจโดยตั้งข้อหาหนักให้เธอ คือ 
1)ร่วมกันวางเพลิงเผาศาลากลาง
2)ร่วมกันประทุษร้ายทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธ ไม้, อิฐ, หิน, หนังสะติ๊ก 
3) ชุมนุมกันเกิน 10 คน เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

ตำรวจบอกว่าให้รับไปเถอะแล้วไปแก้ข้อกล่าวหาเอาที่ศาลจากนั้นก็ส่งตัวเธอไปแถลงข่าวโดยตำรวจบอกว่าให้นั่งก้มหน้าลงอย่าพูดอะไรเป็นอันขาดและมีตำรวจพูดแทนว่าได้ทำการจับกุมคนเผาศาลากลางจังหวัดได้อีกแล้ว1คนคือนางสาวปัทมา มูลนิล คนนี้
ทั้งๆที่เธอบอกว่าหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ใช้คือภาพถ่ายของเธอในที่เกิดเหตุ ซึ่งหากเธอทำจริงเธอคงไม่เปิดเผยใบหน้าและไปยืนอยู่นานสองนานให้ถ่ายรูปแต่ในที่สุดเธอถูกคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตและลดโทษให้เหลือจำคุก33ปี4เดือน

ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของบันทึกการให้ถ้อยคำของเธอต่อกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ"อยากกลับบ้านแค่มาเรียกร้องประชาธิปไตยทำไมต้องทำกับเราขนาดนี้ด้วยแล้วทำไมตำรวจต้องเอาเด็กผู้หญิงอายุแค่16ปีมาข่มขู่เราด้วยทำถึงขนาดตบหน้าเขาเพียงเพราะอยากได้ตัวเราอยากให้เรารับสารภาพถึงขนาดจะยัดข้อหาเขาตำรวจหัวใจเขาทำด้วยอะไรยังเป็นคนอยู่เหรอแล้วทำไมจะต้องบอกเพื่อนเราพี่น้องเราด้วยว่าเราซัดทอดคนอื่นต้องการอะไรอยากได้อะไรเอาเราไปแถลงข่าวเราแค่มาเรียกร้องประชาธิปไตยทำไมต้องทำเหมือนเราเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตายขายยาบ้าระดับชาติด้วย

พอเข้ามาอยู่ในเรือนจำทุกคนที่นี่เกือบทั้งหมดก็เป็นมิตรดีแต่จะมีบางคนที่คอยหาเรื่องสงสารคนที่บ้านพ่อแม่พี่ทุกคนก็ลำบากอยู่ข้างนอกเราก็หาเช้ากินค่ำกันแต่เรามาอยู่ในนี้ทุกคนก็พลอยลำบากไปด้วย เงินก็ไม่มี..
[8/30/15, 5:50:12 PM] jeedjobjoy: ในขณะที่ชนชั้นปกครองกำลังเสวยสุขจากการ "เกี้ยเซี้ยะ" บนความทุกข์ของเหยื่อของความขัดแย้งและกำลังถกกันอย่างเอาเป็นเอาตายหลังจากที่ "ติดกับ" กับคำว่า "การปรองดอง" ที่หาคำนิยามที่ชัดเจนไม่ได้จนบานปลายเป็นความขัดแย้งใหม่แต่ปัทมาต้องตกนรกทั้งเป็นในสถานะ"เชลยศึก"ที่ถูกลืมจากคู่สงครามผมไม่รู้ว่าหัวจิตหัวใจของผู้มีอำนาจไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองทั้งสองขั้วหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกระดับในกระบวนการยุติธรรมทำด้วยอะไร อย่าลืมนะครับว่าถ้าคนตัวเล็กตัวน้อยเช่นปัทมาอยู่ไม่ได้แล้วก็อย่าหวังว่าคนตัวใหญ่ๆทั้งหลายจะอยู่เย็นเป็นสุขเลยครับ ที่มา http://www.prachatai.com/journal/2012/04/40109

คดีก่อการร้ายราชประงค์ จากมุมมองนักกฎหมายต่างประเทศ

ขณะนี้ประเทศไทยของเรา กำลังเผชิญกับ "สงครามการก่อการร้าย" ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจาก "อวิชา" หรือ Ignorance ที่ครอบคลุมจิตใจ กลุ่มคนที่ใช้อำนาจการปกครองประเทศนี้ โดยมิชอบ แล้วทรนงตนคิดว่า "กูรู้แล้ว" "กูฉลาดที่สุดในประเทศนี้" ผลเป็นไง? ครับ นี่แค่บททดสอบนะ ครับ

ผมขอให้พี่น้องประชาชน ช่วยกันศึกษา กรณีตัวอย่างจาก "คดีระเบิดราชประสงค์" ให้ดีๆ อย่างลึกซึ้ง ผมมีความเห็นในกรณีนี้ ดังต่อไปนี้:


๑. ผมเอาคดี Abu Eain v. Wilkes มาลงแค่คดีเดียว สร้างผลกว้างไกล ลบล้างความคิดเดิมๆ หมดเลยหรือ? ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

๒.แต่ไม่อยากจะบอกว่า การจับกุมคนร้ายนั้น ต้องมีพยานหลักฐาน ที่แม่นมั่น ไม่ใช่ใช้ "มโน 70%" และ พยายามสร้างพยานหลักฐานอีก 30%" เพื่อเชื่อมโยง นะครับ


๓. ถ้าเป็นคนร้าย ที่ทำระเบิดจริง ต้องรู้สัญชาติ ที่แท้จริงของเขาให้ได้ ส่วนใหญ่ จะมาจาก West Bank และ ต้องสังกัดองค์กร อัลฟาต้า (Al Fatha) ส่วนหนึ่งของ PLO เดิม และ


๔. คนพวกนี้ หากประกอบระเบิด และ ตั้งเวลาเอาไว้แล้ว แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระเบิด จากสหรัฐอเมริกา หรือ ประเทศต่างๆในยุโรป ก็ไม่สามารถแก้ไขเวลา ไม่ให้เกิดการระเบิด

๕. คนพวกนี้ส่วนใหญ่มาจาก Jordan มีความชำนาญอยู่ในสายเลือด หรือ จะพูดได้ว่า มี Gift from God ในเรื่องระเบิดเวลา


๖. ต้องถามคณะ คสช. เป็นคำถามปฐมฤกษ์ว่า รู้จักกับคำว่า "Muslim หรือ Islam เพียงใด?"

๗. คำๆเดียวนี้ รัฐ Israel หรือ ชาว Israeli ต้องใช้เวลาศึกษา Ideology ของถ้อยคำนี้ ร่วมสิบปี ในขณะเกิดสงครามระหว่างยิว รบ อาหรับ

๘. ไม่ว่าในสงครามหกวัน หรือสงครามโยมคลิปปอร์

๙. อีกหนึ่งคำ ที่คนไทยต้องเรียนรู้ ให้ลึกซึ้ง ตีความให้ออก คือ คำว่า "Brotherhood"

๑๐. ถ้า clue สองคำ ที่ให้ไปนี้ ศึกษากันเพียงผิวเผิน ผมว่า ประเทศไทย จะโดน อีกหลายสิบลูก เลย ผมขอชี้ และคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า.