Saturday, March 26, 2016

ข้อคิดจากลุงไม้สี่ อย่ากลัวจนลืมความกล้า (edited)

พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยครับ.
ตลอดเวลาที่ผ่านมาในสถานการณที่ประเทศไทย โดนพวกทหารกบฎมันปล้นอำนาจอธิปไตยจากปวงชนชาวไทยไป มีประชาชนชาวไทยหลายคนยื่นข้อเรียกร้องวิงวรขอให้ประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา, อังกฤษ, ฝรั่งเศษ, หรือ สหภาพยุโรป  ช่วยกันคว่ำบาติทางเศรษฐกิจต่อรัฐบาลเถื่อนของประเทศไทย

ในความเห็นของผมลุงไม้สี่คิดว่าเป็นเรื่อง..ที่เกาไม่ถูกที่คันครับ..เพราะถึง..ประเทศมหาอำนาจต่างๆจะ..บีบทางเศรษฐกิจอย่างไรก็เชื่อว่ารัฐบาลเถื่อนประยุทธ์จะไม่สนใจแน่นอน สาเหตุ?  ก็เพราะว่าที่สถาบันกษัตริย์ของไทยสั่งให้ "ประยุทธ์ จันทโอชา" ยึดอำนาจจากรัฐบาลของท่านนายกยิ่งลักษณ์  ในครั้งนี้มันมีความสำคัญหลายอย่างที่สำคัญมากสำหรับ สถาบันกษัตริย์ไทยคือ:-

1.เพื่อการเปลี่ยนผ่านจาก "รัชกาลที่9" ของวงศ์จักรีสู่ "รัชกาลที่10" ของวงศ์จักรี เพราะรัชกาลที่9 ที่ครองราชอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้นานแล้ว  เนื่องจากป่วยหนักมีอาการครึ่งผีครึ่งคนมานานหลายปี เพียงแค่หมอชักสายให้อ๊อกซิเย็นออกก็จะมีสภาพเป็นผีร้อย%เมื่อเป็นเช่นนี้พวก.

องคมนตรี.ทั้งหลายจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตั้งผู้จะมาเป็นกษัตริย์คนใหม่ แต่ปัญหาคือจะเอาใครระหว่าง "อีถั่วปากอ้า" หรือ "เสี่ยโอจอมโหด" ที่ใช้เมียเปลืองเหมือนแปรงสีฟัน..กับ "สิรินธร หรือ นางขาถ่าง" ของราชวงศ์จักรีนี้คือ ปัญหาสำคัญสาเหตุของความยุ่งยากคือถ้าเอา "เสี่ยโอจอโหด" ขึ้นครองราชคนไทยทั่วไปต่างก็รู้ว่า "เสี่ยจอมโหด"เป็นศัตรูกับ "กะเทยเฒ่าแห่งบ้านสี่เสา" ชนิดที่ว่าถ้าใครเผลอเป็นตาย แต่ถ้ากะเทยเฒ่าในฐานะเป็นประธานองคมนตรีจะเสนอชื่อสิรินธรขาถ่างขึ้นแทน ก็จะมีปัญหาเพราะต้องได้การยอมรับจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อนถึงจะสามารถขึ้นเป็น "กษัตริย์รัชกาลที่10" ได้ตามกฎหมายที่เขียนบ่งชี้ไว้  เพราะฉะนั้นพวกโจรทหารกบฎมันจึงให้เขียนรัฐธรรมณูญไม่ให้ผ่านประชามติ. เพราะถ้าผ่านประชามติจากประชาชนไปก็ต้องมีการเลือกตั้ง

เมื่อมีการเลือกตั้งก็ต้องมีสภาผู้แทนถ้า "เปรมกะเทยเฒ่า" ส่งชื่อ "สิรินธร" ให้สภาผู้แทนเลือแต่ถ้าสภาผู้แทนเลือกก็ผิดกฎหมายเพราะ "เสี่ยโอจอมโหด" คือ "รัชทายาทตามกฎหมาย"  นี้คือปัญหาที่กลืนไม่ได้คายไม่ออกครับ  เพราะจะเอา "เสี่ยโอจอมโหด" ขึ้น "กะเทยเฒ่าบ้านสี่เสาและพวกองคมนตรี" ก็...กลัวตายและจะตายแน่นอนถ้าเสี่ยโอขึ้นครองราช... สู้ปล่อยให้มันคาราคาซัง อย่างนี้ไปก่อนจนกว่า "เสี่ยโอจอมโหด" จะตายหรือ "กะเทยเฒ่าบ้านสี่เสา" จะตายกันไปข้างหนึ่ง


2.ถ้าให้มีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรขึ้นมา ก็เชื่อได้ว่า "พรรคเพื่อไทย" ที่มีมวลชนอยู่เป็นจำนวนมากเกินครึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศไทยจะชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน... เมื่อเป็นเช่นนี้พวกทหารกบฎมันจึงกลัว "พรรคเพื่อไทย" จะได้เป็นรัฐบาล เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลขึ้นมาวันใหน "ทหารกบฎ" กลุ่มนี้กลัวถูกเอาคืนแม้ว่า "พรรคเพื่อไทย" ไม่ทำแต่คนเสื้อแดงซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศที่โดน "ทหารโจรกบฎ" กลุ่มนี้ตามจองล้างจองผลาญคงไม่ใจดีปล่อยไว้อย่างเด็ดขาด  นี้คือปัญหาที่ทหารกบฎรัฐบาลเถื่อนมันกลัว พี่น้องประชาชนคนไทยครับเวลานี้สภาพการณ์ของคนไทยส่วนใหญ่เหมือนไฟกำลังไหม้บ้านแล้วท่านทั้งหลายจะคอยให้คนมาดับไฟมันให้  แต่ตัว "เจ้าของบ้านคือคนไทย" ไม่ช่วยกันดับไฟมีแต่ยืนโวยวายร้องเรียกให้คนอื่นมาดับให้แล้วใครเขาจะมาช่วยท่านดับละครับ?  ผมลุงไม้4 เชื่อว่าท่านหลายคนคงเคยได้ยินสุภาษิตที่ว่า "อัตตาหิอัตโนนาโถ" ที่แปลว่า "ตนแลเป็นที่พึ่งของตน" ครับ เราคนไทยต้องช่วยกันดับ..ไฟคือ..อำนาจเถื่อน.ที่ทหารกบฎมันเอามากด หัวเหยียบใหล่ของคนไทยอยู่ในเวลานี้


3. ถ้าคนไทยช่วยกันเต็มที่แล้วนั้นละชาวต่างประเทศเขาถึงจะเข้ามาช่วยได้.........
ครับขอบคุณ


ลุงไม้สี่

ยอมกันต่อไป คนไทยเอ๊ย.... “งบซื้ออาวุธเพิ่ม…” / “ปชต.ครึ่งใบเกิดใหม่?”

"งบซื้ออาวุธเพิ่ม…" / "ปชต.ครึ่งใบเกิดใหม่?" Matichon Weekend 26-27 มี.ค.นี้ http://www.matichon.co.th/news/83791

เรื่องจริงอันแสนเศร้า ชาวนา ทำนา ปลูกข้าว ส่งลูกสาวจบปริญญาโท ... แต่ดันไปสนับสนุน กปปส. ล้มรัฐบาลที่ช่วยชาวนา

พ่อแม่ เป็นชาวนา ในภาคกลาง ทำนาปี นาปรัง สองปี ห้ารอบ เอาข้าวเปลือก เข้าโครงการจำนำข้าว ได้เงินมา ส่งช่วยลูกสาว ที่ทำงานและเรียน ปริญญาโทไปด้วย ข้าวของเครื่องใช้ เกือบทุกอย่าง ที่พ่อแม่ซื้อให้ มาจากเงินจำนำข้าว

ในช่วงเหตุการณ์ ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ลูกสาวที่เป็นผู้มีการศึกษา เป็นชนชั้นกลางในเมือง แต่ยังขอเงินพ่อแม่ใช้ ไปร่วมม็อบ กปปส. ไปเป่านกหวีดไล่ยิ่งลักษณ์ อัพรูปลงเฟสบุ๊ค ซื้อของที่ระลึก บริจาคเงิน ให้ลุงกำนัน เพื่อเอาไปช่วยชาวนา ภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติ ดีใจที่ทหารออกมา ทำรัฐประหาร จะได้ปฏิรูป ก่อนเลือกตั้ง

เวลาผ่านไป เกือบสองปี หลังรัฐประหาร ลูกสาวตกงาน เพราะบริษัทที่ทำงานอยู่ ย้ายฐานการผลิต ไปต่างประเทศ
 พ่อแม่ทำนาได้ เพียงนาปี เพราะถูกห้ามทำนาปรังมา จะสองปีแล้ว ข้าวเปลือก ก็ราคาตกต่ำ แถมยังต้องซื้อข้าวสารกิน ในราคาเดิม   มาปีนี้ เจอภัยแล้ง โหมกระหน่ำ เงินเก็บ ที่พ่อแม่พอมีอยู่บ้าง ก็ต้องส่งให้ลูกสาว ที่ไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน ยังหางานทำที่กรุงเทพ

พ่อแม่ คิดถึง จำนำข้าว อยากเลือกตั้ง ให้บ้านเมือง กลับสู่ภาวะปกติ ที่เคยเป็น
  แต่ลูกสาวยังบอกว่า ที่บ้านเมืองเลวร้าย อยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะ ระบอบทักษิณ

ท่านอ่านเรื่องนี้แล้ว รู้สึกอย่างไร 
  นี่คือเรื่องจริง ที่เกิดอยู่ในบ้านเมืองนี้
 พ่อแม่ เป็นชาวนา ป.4 แต่ลูกสาว จบปริญญาโท
 การศึกษา ของประเทศนี้ มันสร้างคนได้จริงหรือ หรือมันอยู่ที่คน

หรือมันเป็นอย่างที่ว่า ขายข้าว ขายนา ขายวัว ส่งควายเรียน

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 34 เรื่องวุ่น ๆ ของวังอลเวง และการอุ้มเปรมไว้คู่บัลลังก์

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 34 เรื่องวุ่น ของวังอลเวง และการอุ้มเปรมไว้คู่บัลลังก์

https://youtu.be/77xWpIT4PaM

หรือ

https://youtu.be/roSr8Xvw4iw

หรือ

https://youtu.be/uGuAOfxJ4pk

 

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หรือส่งรายละเอียดและรายงานผลการปฏิบัติงานได้ทางอีเมล์

4everche@gmail.com

 

******************

เย็นลมป่า-อาคม ซิดนี่ย์ เมื่อน้องเล็กหักดิบพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ "บิ๊กป้อมจะสู้หรือถอย

รายการเสรีชนค้นหาความจริงประจำวันที่ 26 มีนาคม 2559 โดยเย็นลมป่า-อาคม ซิดนี่ย์
เมื่อน้องเล็กหักดิบพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ "บิ๊กป้อมจะสู้หรือถอย"

Friday, March 25, 2016

ดร. เพียงดิน รักไทย 26 มีนาคม 2559: เมื่อ "โจรกบฏ" แบ่งทรัพย์ลงตัว ปวงชนไทยเจองานหนักแน่!!

ดร. เพียงดิน รักไทย 26 มีนาคม  2559: เมื่อ "โจรกบฏ" แบ่งทรัพย์ลงตัว ปวงชนไทยเจองานหนักแน่!!

https://youtu.be/lI8Mrj-Noe8

หรือ

https://youtu.be/UomCpw7MdkA

หรือ

https://youtu.be/wxP6tbIcxSA

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หรือส่งรายละเอียดและรายงานผลการปฏิบัติงานได้ทางอีเมล์

4everche@gmail.com

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

“ผมเกือบเชื่อ เรื่องทักษิณ......"

ผ่านมาทางไลน์

ผมเกือบเชื่อเรื่องคุณทักษิณอยากเป็นประธานาธิบดีแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคนที่เผยแพร่ปฏิญญาฟินแลนด์ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปีฐานหมิ่นประมาทคุณทักษิณ

ผมเกือบเชื่อเรื่องการทำบุญวัดพระแก้วของคุณทักษิณเป็นการหมิ่นเบื้องสูงแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งอัยการสั่งไม่ฟ้องโดยอ้างรองราชเลขาฯเป็นพยานยืนยันไม่ขัดต่อระเบียบหรือขั้นตอนแต่อย่างไร

ผมเกือบเชื่อเรื่อง กกต.ยุคคุณวาสนา เป็นจำเลยฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลฏีกายกฟ้อง

ผมเกือบเชื่อเรื่อง คุณนพดลลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเป็นการขายชาติแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลฎีกาฯมีมติยกฟ้อง ชี้เป็นการตัดสินใจตามสถานการณ์ ไม่ทำให้ไทยเสียดินแดน

ผมเกือบเชื่อเรื่องกองทุนหมู่บ้าน เป็นนโยบายให้ชาวบ้านซื้อมือถือกับมอเตอร์ไซด์แล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณสมคิดนำนโยบายกองทุนหมู่บ้านมาปัดฝุ่นใช้ใหม่

ผมเกือบเชื่อเรื่องการยุบพรรคไทยรักไทย เพราะกรรมการบริหารพรรคจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้งแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งมีศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ชี้พยานหลักฐานไม่ชัด

ผมเกือบเชื่อเรื่องการรับจำนำข้าวราคาสูงกว่าตลาด ทำให้ชาติขาดทุนแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งมีการรับซื้อยางในราคาสูงกว่าตลาดเช่นกัน

ผมเกือบเชื่อเรื่องการสร้างรถไฟความเร็วสูง ควรรอให้ถนนดินลูกรังเสร็จทั้งประเทศก่อนแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งมีแผนทำรถไฟแม้จะเป็นแค่รถไฟความเร็วปานกลางก็เถอะ

ผมเกือบเชื่อเรื่องสองนปช.เผาเซ็นทรัลเวิร์ลด์แล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง โดยชี้พยานหลักฐานไม่พอ

ผมเกือบเชื่อเรื่องสามนปช.ยิงฮ.ทหารแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ส่วนศาลฎีกาให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ

ผมเกือบเชื่อเรื่องคุณสุเทพบอกให้ทหารใช้กระสุนปลอมระหว่างขอคืนพื้นที่แล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณอภิสิทธ์ให้สัมภาษณ์สื่อนอกเป็นคนอนุญาตให้ใช้กระสุนจริง

ผมเกือบเชื่อเรื่องการตายของคนเสื้อแดงเกิดจากการฆ่ากันเองแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลวินิจฉัยอย่างน้อยสิบกว่าศพตายจากกระสุนที่มาจากฝ่ายเจ้าหน้าที่

ผมเกือบเชื่อเรื่องผังล้มเจ้าเป็นเรื่องจริงแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณสรรเสริญสารภาพกลางศาลว่าผังลัมเจ้านั้นเป็นแค่ความเชื่อของศอฉ.ในขณะนั้นเอง

ผมเกือบเชื่อเรื่องมีแต่นักการเมืองที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งเห็นเหล่านักลากตั้งทั้งหลายก็ล้วนแต่เอื้อประโยชน์ให้ญาติสนิทมิตรสหายไม่ต่างกัน

ผมเกือบเชื่อเรื่องมีแต่นักการเมืองเท่านั้นที่โกงประเทศชาติแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งเห็นส่วนต่างของราคาจากการจัดซื้อจัดจ้างของพวกที่ไม่ใช่นักการเมือง

ผมเกือบเชื่อเรื่องพรรคใหญ่พามวลชนสู่ท้องถนน เพราะต้องการปฏิรูปประเทศแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งเห็นพลพรรคออกมาคัดค้าน ต่อต้าน แนะนำ เมื่อเห็นรัฐธรรมนูญไม่ได้เอื้อตัวเองดังใจ

ผมเกือบเชื่อเรื่องคนดีต้องการให้แสดงจริยธรรมก่อนกฎหมายลงโทษแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งผมเห็น กกต.ยุติสอบคุณสมบัติของคุณอภิสิทธิ์ โดยอ้างคดียังไม่ถึงที่สุด

และสุดท้ายผมเกือบเชื่อเรื่องรัฐธรรมนูญของคุณมีชัยมีไว้ปราบโกงแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณมีชัยออกมาพูดเรื่องการใช้เอกสารปลอม ไม่ว่าจะต้องการหนีทหารหรือรับเงินเดือนจากการใช้เอกสารเท็จ ไม่ใช่การทุจริต จึงไม่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญของคุณมีชัย

Thursday, March 24, 2016

"จะต้มคนไทยไปทำไม” โดย วัฒนา เมืองสุข

"จะต้มคนไทยไปทำไม"

คนที่ติดตามผลการพิจารณาบทเฉพาะกาลของ กรธ. คงคิดเหมือนผมว่า กรธ. จะมาต้มคนไทยไปเพื่ออะไร ถ้า กรธ. แถลงอย่างลูกผู้ชายว่า กรธ. ต้องทำตามข้อเสนอของ คสช. เพราะเป็นคนตั้งพวกเค้ามา ผมก็คงจะให้อภัยเพราะเผด็จการตั้งท่านท่านก็ย่อมรับใช้เผด็จการ แต่การที่ กรธ. มาแถลงโดยอ้างเหตุผลที่ต้องทำเพื่อ "ป้องกันไม่ให้ระบอบประชาธิปไตยและความมั่นคงของชาติล้มครืนลง" นั้น เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ โดยเฉพาะคำว่า "ประชาธิปไตย" แปลว่าประชาชนเป็นใหญ่หรืออำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน จึงไม่คู่ควรที่ กรธ. จะเอ่ยอ้างคำนี้ให้แปดเปื้อน

คสช. เสนอขอปรับปรุงบทเฉพาะกาลมา 3 เรื่อง เลยกรอบระยะเวลาที่ กรธ. กำหนดถึงเกือบหนึ่งเดือน แต่ กรธ. กลับรับไว้ดำเนินการให้ทั้งที่ผิดเงื่อนไข ส่วนผลการพิจารณาผมมีความเห็นดังนี้

(1) การที่ กรธ. ยืนยันวิธีการเลือก ส.ส. ให้เป็นไปตามเดิม ไม่ได้เป็นการคุ้มครองสิทธิประชาชนเพราะรูปแบบการเลือกตั้งที่ กรธ. กำหนดไว้แต่แรกนั้นก็คือการจำกัดสิทธิประชาชนอยู่แล้ว
(2) การให้มี ส.ว. จากการสรรหาจำนวน 250 คน คือการทำตามข้อเสนอทั้งหมด ส่วนที่อ้างว่า 50 คนขอให้มาจากสาขาวิชาชีพที่ กรธ. กำหนดก็ไม่ได้ทำให้มีผลเปลี่ยนแปลง เพราะสุดท้ายก็คือ ส.ว. มาจากการสรรหาทั้ง 250 คน สำหรับ 6 คนที่ยกเว้นให้เป็นข้าราชการประจำได้ก็คือ 6 ตำแหน่งที่ขอไว้ให้ ผบ. เหล่าทัพนั่นเอง ส่วนที่อ้างว่าไม่ได้ให้อำนาจ ส.ว. เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจและลงมติ ก็ไม่ได้ทำให้ ส.ว. สรรหามีอำนาจน้อยลง เพราะยังมีอำนาจผลักดันกฎหมายการปฏิรูปที่ตีความได้กว้างขวางมาก มีสิทธิลงมติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อรวมกับอำนาจที่มีในร่างเดิมแล้วสามารถขัดขวางการทำงานของตัวแทนที่มาจากประชาชนได้ทุกเรื่อง
(3) ส่วนเงื่อนไขที่กำหนดว่า การเลือกนายกจากบุคคลที่ไม่เคยถูกพรรคการเมืองเสนอชื่อต้องใช้เสียง 2/3 ของรัฐสภาคือ 500 คน จึงจะเปิดประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ได้ นั้น ฝ่าย คสช. มี ส.ว. สรรหาที่พร้อมจะยกมือทันที 250 คน เมื่อรวมกับพรรคอื่นๆ ที่พร้อมจะร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็มีเสียงเกิน 500 คน สามารถเรียกประชุมได้แล้ว ส่วนการยกมือเลือกนายกที่อยากมีอำนาจแต่ขี้ขลาดไม่กล้าแสดงตัว ใช้เสียงเพียงเกินกึ่งหนึ่งหรือ 251 เสียงเท่านั้น จึงแย่เสียยิ่งกว่าร่างของนายบวรศักดิ์ที่กำหนดให้ต้องได้รับเสียงสนับสนุน 2/3 ของ ส.ส. ทั้งหมด

ผมไม่มีความเห็นกับข้อเสนอของ คสช. เพราะเป็นเผด็จการที่ยึดอำนาจมาจากประชาชน ก็ย่อมต้องทำทุกทางเพื่อปกป้องอำนาจของตน แต่สิ่งที่ กรธ. ดำเนินการมานั้นคือการเอาอำนาจของประชาชนไปมอบให้กับตัวแทนของเผด็จการ ส่วนผมเป็นนักการเมืองที่มาจากประชาชนมีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์เพื่อสนองคุณข้าวแดงแกงร้อนของประชาชน จากนี้ไปจึงเหลือทางเดียวคือประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจจะต้องออกมาปกป้องสิทธิของตนเองด้วยการออกเสียงลงประชามติ ซึ่งทุกคนต้องยอมรับการตัดสินใจของประชาชน วันที่ 7 สิงหาคม 2559 เป็นวันออกเสียงลงประชามติ มาพิสูจน์กันว่าเผด็จการที่ใหนในโลกไม่มีทางใหญ่กว่าประชาชน "เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ"

วัฒนา เมืองสุข
23 มีนาคม 2559

THAILAND: Lawyers Society of Thailand urged to preserve its independence as a professional association

FOR IMMEDIATE RELEASE
AHRC-FST-005-2016
24 March 2016

A Statement from Human Rights Lawyer Association (HRLA) forwarded by the Asian Human Rights Commission

THAILAND: Lawyers Society of Thailand urged to preserve its independence as a professional association

The National Council for Peace and Order (NCPO) by Gen. Chalermchai Sitthisat, Deputy Chief of Staff of the NCPO, acting on behalf of the Chief of Staff, issued a most urgent letter dated 16 March 2016 addressed to the director in charge of the election of the President and board members of the Lawyers Council of Thailand (LCT) asking for the suspension of the election of the LCT's new President and board members, which is slated to take place on 24 April 2016. In the letter, it claims that since the election of the LCT's President and board members involves a large number of members and there would be election booths set up in each of the provinces based on the court jurisdictions, such practice might contravene the NCPO Announcement no.7/2557 (banning political gathering) which is applicable to all groups, in order to maintain public order of the nation during the transitional period similar to (the suspension of election of) local administration organizations per the NCPO Announcement no. 85/2557. In addition, the NCPO decreed that the board members of the LCT whose terms have already expired are to perform their duties provisionally while the new election is not forthcoming per Section 22 of the 1985 Lawyers Act.

The undersigning human rights organizations, lawyers, attorneys, and social activists have the following opinions to share regarding the incidence; 

1. Freedom of expression and public assembly is key for lawyers to perform their duties professionally. Article 24 of the UN Basic Principles on the Role of Lawyers provides that "Lawyers shall be entitled to form and join self-governing professional associations to represent their interests, promote their continuing education and training and protect their professional integrity. The executive body of the professional associations shall be elected by its members and shall exercise its functions without external interference." The principle ensures independence of a lawyer to perform their duties and is likewise significant for the upholding of rights and freedom of people in general and the rule of law. Therefore, that the NCPO instructed by letter for the suspension of the election of the LCT's board members is considered an interference of a professional association, it effectively bestowed on the state the power to control a professional association of lawyers making it a prerequisite for them to seek prior permission from the government before undertaking any initiatives. This will impede the ability of the lawyers to perform their duties independently and will similarly affect the right to justice process of people in general. 

2. The claim that the election of the LCT's President and board members involves a large number of members and that the setup of election booths in each of the provinces based on the court jurisdictions is a political gathering, and, therefore, is contrary to the NCPO Announcement no.7/2557, is an excessively board and arbitrary interpretation of the Announcement. In addition, since no legal ground has been given to support the order to have the election suspended, such an order is a breach to the 1985 Lawyers Act and is an infringement on the right to freedom of association by the LCT and the democratic rule which places an importance on self-determination and accountability to its members. It will also affect the competition and development of the profession to improve legal services. 

The undersigning human rights organizations, lawyers, attorneys, and social activists have the following demands to make; 

1. The NCPO must stop interfering with the independence of lawyers to perform their duties professionally by having the order rescinded immediately since lawyers are instrumental in enabling people to attain their legal rights.

2. The LCT must uphold its independence as a professional association by protecting itself against an unlawful interference and must proceed with the election according to the schedule. The suspension of the election as ordered by the National Council for Peace and Order (NCPO) is not only an unreasonable act, but also lacks any legal justification. Therefore, by executing an unlawful order, by suspending the procedure per the 1985 Lawyers Act and by allowing the existing board members to be acting board members indefinitely, the Lawyers Council of Thailand (LCT) can be held accountable for performing its duties in breach of the spirit of an association of lawyers and for its unlawful act. 

3. The Lawyers Council of Thailand (LCT) must stop acting in a manner that paves the way for the interference of illegitimate power and is obliged to act in brevity to stand for and uphold the independence of a professional association to ensure that lawyers can perform their professional duties fully, without intimidation or facing legal action. 

To ensure that the LCT can perform its duties to ensure that lawyers can perform their duties professionally and independently to promote people's right to justice process, all lawyer members and general public must advocate the organizing of the election of the LCT as previously announced.

With respect in people's rights and freedom and human dignity

1. Human Rights Lawyers Association (HRLA)
2. ENLAWTHAI Foundation
3. Cross Cultural Foundation (CrCF)
4. Union for Civil Liberties (UCL)
5. Mr. Pairoj Phonphet, Lawyer
6. Mr. Anucha Wuntachai, Human Rights Activist
7. Mr. Kritsada Khunnarong, Attorney
8. Mr.Panom Butakiew, Attorney
9. Mr. Anon Nampa, Attorney
10. Ms.Yaowalak Anupun, Attorney
11. Ms.Sor Rattamanee Polkla, Attorney
12. Mr. Chanwit Aramrit, Attorney
13. Ms.Koreeyor Manusare, Attorney
14. Ms.Pradittha Pariyakaewfah, Attorney
15. Ms.Paranda Pankaew, Attorney
16. Ms.Waraporn Utairungsee, Attorney
17. Ms.Koomklao Songsomboon, Attorney
18. Ms.Sasinun Thammanitinun, Attorney
19. Ms.Phattranit Yaodum, Attorney
20. Mr.Sutthikiew Thammadul, Attorney
21. Ms.Poonsuk Poonsukjarern, Attorney
22. Mr.Sarawut Pratumraj, Attorney 
23. Mr. Montree Achariyasakulchai , Attorney
24. Mr. Bandit Homket, Lawyer
25. Ms.Jirarat Mulsiri, Attorney
26. Ms.Natshatthayakron Gunthana, Attorney
27. Mrs. Amporn Sungthong, Attorney
28. Ms.La-ongdow Nonponkrang, Lawyer
29. Mr.Chulasak Kaewkan, Lawyer
30. Mr.Weerawat Oboh, Attorney
31. Ms.Somsakul Sreemeteekul, Attorney
32. Mr.Surachai Trongngam, Attorney
33. Mr.Amarin Saichan, Attorney
34. Ms.Darunee Paisarnpanichsakul, Lawyer
35. Mr.Laofang Bunditterdsakul, Attorney
36. Ms.Pornpen Khongkachonkiet, Human Rights Activist
37. Ms.Ubonwan Boonrattanasamai, Lawyer
38. Mr.Pairat Supakka, Attorney
39. Ms.Chansa Supanmuang, Attorney
40. Ms.Supunsa Marhem, Attorney
41. Ms.Montana Duangprapa, Attorney
42. Ms.Karnjana Akkrachard, Lawyer
43. Ms.Pakamas Kamcham, Human Rights Activist
44. Mr.Yingcheep Atchanont, Attorney
45. Ms.Pawinee Chumsri, Attorney
46. Mr. Thanarat Mangkud, Lawyer
47. Mr.Jatupat Bunpatraksar
48. Ms.Siwaporn Fordsoongnern
49. Ms.Sunida piyakunpanit, Lawyer
50. Mrs.Natthasiri Berkman, Attorney
51. Mr.Sumitchai Hathasarn, Attorney
52. Mr.Atiwat Sengkuy, Lawyer
53. Ms.Kunanya Songsamuth, Attorney
54. Ms.Issiyaporn intapun, Lawyer
55. Ms.Nuengruetai Kochasarn, Lawyer
56. Mr.Thitirat Soisuwun, Lawyer
57. Ms.Maseetoh Munloh, Lawyer
58. Mr.Sangchai Rattanasareewong, Attorney
59. Mr.Teerapun Punkiri, Attorney
60. Mr.Sophon Hnoorats, Attorney
61. Ms.Chalermsri Prasertsri, Lawyer
62. Ms.Natwadee Tengpanichsakul, Lawyer
63. Mr.Warut Boontharik, Attorney
64. Ms.Napaporn Songprang, Attorney
65. Mr.Ratsada Manuratsada, Attorney
66. Ms.Watcharasak Vijitnun, Lawyer
67. Ms.Sirikan Jarernsri, Lawyer
68. Ms.Atchara Suttisuntarin, Lawyer
69. Mr.Papob Siemharn, Lawyer
70. Ms.Puttinee Kopunta, Lawyer
71. Ms.Nijnirun Awapark, Lawyer
72. Ms.Siwanoot Soitong, Lawyer

……………..

The views shared in this statement do not necessarily reflect that of the AHRC.

# # #

The Asian Human Rights Commission (AHRC) works towards the radical rethinking and fundamental redesigning of justice institutions in order to protect and promote human rights in Asia. Established in 1984, the Hong Kong based organisation is a Laureate of the Right Livelihood Award, 2014.

Read this Forwarded Statement online

 



Visit our website with more features at www.humanrights.asia.



You can make a difference. Please support our work and make a donation here
.

-----------------------------

Asian Human Rights Commission

G/F

52 Princess Margaret Road

Ho Man Tin, Kowloon

Hongkong S.A.R.

Tel: +(852) 2698-6339 Fax: +(852) 2698-6367

Web: www.humanrights.asia

twitter/youtube/facebook: humanrightsasia



--

Giving what you find most difficult to give is true giving.

Wednesday, March 23, 2016

วิเคราะห์การแต่งตั้งโยกย้ายกลางปี ของกองทัพบก

23 มี.ค.59
วิเคราะห์การแต่งตั้งโยกย้ายกลางปี ของกองทัพบก
ผ่านมาทางไลน์

เป็นที่สังเกตว่าในการแต่งตั้งโยกย้างคราวนี้สื่อต่างๆไม่นำมาวิเคราะห์คาดการณ์หรือลงข่าวสัมภาษณ์ผู้นำทหารคนใด ยกเว้น เดลินิวส์ที่ลงข่าวการแต่งตั้งที่มีชื่อรองแม่ทัพภาค1  สองในสามคนที่เลื่อนระดับสูงขึ้น รวมทั้ง การเลื่อนจากแม่ทัพน้อยเป็นแม่ทัพของภาค 2 ของ พล ท วิชัย แชจอหอ เด็กสร้างของ พล อ. เปรม แต่กลับให้ข้อมูลว่าเป็นนายทหารสายของ รมว กลาโหม  พล อ. ประวิตร เมื่อวันศุกร์ที่19 มี.ค. ก่อน เวลาถึง 10 วันตามที่ พล อ ประวิตรออกมาให้สัมภาษณ์ ว่าโผจะออกสิ้นเดือนนี้ แต่เย็นวันจันทร์ถัดมา ประกาศราชกิจจานุเบกษา ก็ออกโผแต่งตั้งโยกย้ายออกมาหักหน้า พล อ ประวิตร ทันควัน (คอการเมือง ต้องไม่ลืมพลาด วันศุกร์ เพราะจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นในวันนี้บ่อยครั้ง เช่นจับแล้วประกันไม่ทัน ต้องนอนคุกวันหยุด เป็นต้น)  

ในประกาศของราชกิจจานุเบกษา มีความแตกต่างจาก โผเดลินิวส์บ้าง กรณีของ พล ต กู้เกียรติ ศรีนาคา อดีตขุนพลจาก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม  แต่ที่ไม่ผิด จากโผ มี สอง ตำแหน่ง คือ พล ต  นัฐ. อินทเจริญ ทส. ของ พล อ ประวิตร จาก รอง มทภ 1 เป็นรองเสธฯทบ.   และ พล ท  วิชัย แชจอหอ จาก แม่ทัพน้อย ภ 2 เป็นมทภ 2  สองตำแหน่งนี้ เป็นการยกขึ้นเพื่อเตรียมเข้าสู่ ไลน์ของ 5 เสือ ทบ  ที่จะว่างลง 3 ตำแหน่ง โดย คู่ชิงผบ ทบ ในงวดหน้า คือ 2 ใน 5 เสือที่เหลืออยู่ คือ พล อ พิสิทธิ สิทธิสาร และ พล อ เฉลิมชัย สิทธิสาร์ท กับอีกหนึ่งตำแหน่งที่รออยู่ไม่ไปไหนคือ แม่ทัพภาค 1 คนปัจจะบันพล ท. เทพพงศ์ ทิพย์จันทร์ ครบ 5 เสือ ทบ 

กลับมาที่นายทหารในระนาบเดียวกันที่ไม่ได้ปรับเลื่อนชั้น เน้นไปคนที่มีบทบาทในช่วงการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างขั้วของ อำมาตย์กับไพร่ คือ กองทัพภาคที่ 1 ตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 1  พล ท  อภิรัชต์ คงสมพงศ์  กับรองแม่ทัพภาคที่ 1  พล.ต กู้เกียรติ ศรีนาคา และ พล ต พงศ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ นายทหารเหล่านี้ล้วนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แต่กลับเสียอาวุโสในการแต่งตั้ง ให้กับเพื่อนร่วมรุ่น ตท20 ที่ด้อยบทบาทในทางสื่อ  เรียกว่ามีงานเรียกใช้ แต่ให้บำเน็จกับเด็กฝาก หากนับลำดับอาวุโสย่อมเป็นการกีดกันเส้นทางเจริญเติบโต นี่เป็นร่องรอยหนึ่งของกุศโลบายแบ่งให้แตกแล้วแยกปกครอง สลายขั้วอำนาจที่คาดว่าจะผงาดในอนาคต ซึ่งกลายเป็นวัฒนธรรมน้องเก่ง พี่ไม่"โปร" 

โผหักหน้า พล อ ประวิตร ชุดนี้มีคำตอบที่ให้ประเมินได้ว่า ทั้ง ธีรชัย ผบ ทบ กับ รมว กลาโหม ไม่มีส่วนจัดตั้ง เป็นการชงขึ้น ผ่าน ปลัดกระทรวง กลาโหมน้องชาย กับ พี่ชาย นรม.ส่งขึ้นไป แล้วประกาศใช้ (ในภาวะนี้เป็นที่ยอมรับกันว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้แต่ราชกิจจานุเบกษา ที่ไร้หลักฐานพระราชลัญจกรแต่งตั้ง แบบขลังๆ ที่เคยได้ชมกันในอดีต )  วิจารณ์แบบแลกหมัดคือการเอาคืนของ ประยุทธ กรณี การแต่งตั้ง ผบ ทบ ปี 2558 ที่ประยุทธ สมคบคิดกับ อุดมเดช ช่วยกันดันปรีชา แต่ถูกประวิตรทุบโต๊ะ ให้ ธีรชัย ที่ถูกดอง ให้รอมาหลายรอบ และที่สำคัญคือการเตะส่งอุดมเดชและทีมงานประเด็นอื้อฉาวโครงการอุทยานราชภักดิ์ของธีรชัยทันทีที่รับตำแหน่ง เรื่องนี้กระทบชิ่งไปถึง พี่น้องจันทร์โอชา ที่เล่นสองหน้า และสลายสายทหารของสุรยุทธ์ที่ถูกวางตัวแทรกเข้ามาอยู่ในแกนหลักของกองทัพคือ พอ  คชาชาติ บุญดี(หลานชายของ พล อ มงคล กมลบุตร ตท 1 บัดดี้ของ พล อสุรยุทธ์ จุลลานนท์)  และ พอ สุชาติ พรหมใหม่ เพื่อน ตท 27 ของ พอ คชาชาติ

สรุปการแต่งตั้งโยกย้ายในรอบนี้ ทำให้เกิดผลพลอยได้ไปเข้าทางเปรมที่มีเด็กเลี้ยงต้อยขึ้นขั้นอาวุโส เข้าป้ายรอตำแหน่ง 5 เสือไปก่อนตัวเต็งอย่าง อภิรัชต์ กู้เกียรติ และพงศ์สวัสดิ์ ที่มีชื่อชั้นเหนือกว่าในแวดวงการเมืองการทหาร ก่อให้เกิดรอยปริแตกทั้งฝ่ายบนและระดับสั่งการกองทัพ เห็นชัดขึ้นอีกระดับว่า ป ประยุทธ เหยียบเรือสองแคม เสนอผลงานเพื่อไปซบฟากของเปรมอีกคำรบหนึ่ง และคนประเภทนี้จะไม่มีที่ลงในวาระสุดท้ายเรียกกันว่า "หมาหัวเน่า"

"การรับมือสถานการณ์ภัยแล้งและการรณรงค์ปร­ะหยัดน้ำ ปี 2559"

 

 

Published on Mar 23, 2016
"การรับมือสถานการณ์ภัยแล้งและการรณรงค์ปร­ะหยัดน้ำ ปี 2559"


นาย ชุมพล โชคพงษ์อุดมชัย รองผู้ว่าการ (ปฎิบัติการ4) รักษาการแทนผู้ว่าการ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) พร้อมผู้บริหาร เปิดแถลงข่าวพร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เกี่ยวกับ "การรับมือสถานการณ์ภัยแล้งและการรณรงค์ปร­ะหยัดน้ำ ปี 2559" โดยมีประเด็นสำคัญ คือ 1.สถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบัน 2.มาตรการรับมือภัยแล้ง ปี 2559 3.โครงการประชารัฐร่วมใจ คนไทยประหยัดน้ำ 4.โครงการเดินรณรงค์ประหยัดน้ำช่วยชาติ พร้อมกันทั่วประเทศ 74 จังหวัด ในวันศุกร์ ที่ 25 มีนาคม 2559 และ 5.รณรงค์สืบสานประเพณีสงกรานต์ เล่นน้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สำนักงานใหญ่ หลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2559

ภาพ วัชรชัย คล้ายพงษ์ (Watcharachai Klaipong)

    Category
        News & Politics
    License
        Standard YouTube License  

Tuesday, March 22, 2016

ทรราช คสช. โว จีน ซึ่งเป็นผัวและพ่อ จะปล่อยน้ำให้ หลังแม่น้ำโขงแห้ง

โดย เสรีชน

ทรราช คสช. โว จีน ซึ่งเป็นผัวและพ่อ  จะปล่อยน้ำให้ หลังแม่น้ำโขงแห้ง

-
ผมเห็นว่าภัยแล้งมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มีเวลาหารายละเอียด แต่สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ผม ต้องศึกษาหาความรู้ ก็คือว่า
-
จีน ซึ่งเป็นผัวและพ่อ ของ ทรราช คสช. ได้สร้างความระยำ ไว้บนแผ่นนนี้  หากเรามอง ว่าความยุติธรรมของผู้ใช้น้ำ  ในแม่น้ำโขงทั้ง ลาว ไทย เขมร นับร้อยล้านชีวิต ได้นับผลกระทบเต็ม ๆ !!
-
เพราะพื้นที่ในจีน มีเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง ถึง  6 เขื่อน และมี อีก 8 เขื่อนกำลังสร้าง นั้นจึงเป็นสาเหตุของการกักน้ำ เพื่อไว้ใช้ในประเทศ จีน 
-
จีนไม่ได้สนใจ ประชากรที่อยู่ปลายน้ำกว่า ร้อยล้านชีวิต แต่อย่างไร 
-
แล้วอย่างนี้ ก็สานมารถนั้งนึกและเห็น อนาคตของ ประเทศไทย ที่อยู่ปลายน้ำ ได้เลยว่า จะเกิดอะไรขึ้นหาก จีน ไม่ปล่อยน้ำ 
-
และนึกได้ไกลกว่านั้นอีก หาก ทรราช คสช. ยังเลียตูดจีน เหมือนทุกวันนี้  ผมไม่ได้มี อคติกับ จีน
-
แต่อยากถ้าพี่น้องตรงๆ ว่า จีน ให้อะไรเรา บ้าง นอกจากความหลอกลวง การเอารัดเอาเปรียบในเชิง ธุรกิจ 
-
สมัยรุ่น พี่ คนเดือนตุลา เดินเข้าป่า ก็เพราะเชื่อว่า จีน จะให้การสนันสนุนสู้รบกับ เผด็จการสมัยนั้น จนพี่น้องของ ฝ่ายประชาธิปไตย ตายไป หลายพันในป่าใหญ่ 
-
สุดท้าย จีนก็หักหลัง จบมือกับ อำมาตย์ไทย จนเป็นที่มาของ 66 / 23 ของอีเฒ่านรก เปรม  และคำโกหก หลอกลวง ผู้รักความ ยุติธรรมสมัยนั้น ออกจากป่า มาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย  ด้วยคำหวานต่างๆ ทั้งเงินทุนและ ที่ดินที่ อำมาตย์ทรราช สมัยนั้นจะจัดสรร ให้
-
มาถึงวันนี้ พี่น้องเหล่านั้น ส่วนใหญ่แล้วยังไม่เคยได้เลย ตามคำหลอกลวงของ เปรม อีตุ๊ดเฒ่าแห่งบ้านสี่เสา เทเวศ
-
ผมนึกไม่ออกว่า รถไฟจีน ที่ได้สัญญากับ ทรราช คสช. จะออกหน้าตาเป็นอย่างไร ทั้งค่าก่อสร้างที่แพงกว่าใครในโลก อีกทั้งดอกเบี้ย มหาโหด ที่จีนโขกไว้ รวมถึงที่ดินข้างทาง ที่ต้องถูกบล๊อกไว้ในสัญญา การก่อสร้างรถไฟ อีก 99 ปี อีก........... เมื่อมองภาพรวม ก็เห็นอาณาจักร จีน อยู่ไม่ไกล ไม่ต้องไปรบให้แพ้ แค่แก้สัญญาให้จีนเช่าที่ 99 ปี ไทยก็เป็นทาสแล้ว
-

แต่ก่อน สมัย ทักษิญ
-
แม่น้ำโขง ถือว่าเป็นสายน้ำแห่งจิตวิญญาณที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนนับร้อยล้านชีวิต และมีความอุดมสมบูรณ์  จนถึงดครงการของทักษิญ ที่จะดึงแม่น้ำโขง และการเชื่อมต่อแม่น้ำหลายสายเข้า รวมกัน เพือ่การพัฒนาประเทศ 

-

หากมาวันนี้  วันที่ทรราช คสช. ครองเมืองครั้งที่ 2 หลังจากปี 2549  มานั้น รัฐบาลของ ประชาชน ไม่เคยทำอะไรได้ จะแก้ไข รัฐธรรมนูญ ก็ผิด 

รับจำนำข้าว ก็ผิด 
-

เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากกระสุน พระราชทานก็ผิด

-

ย้าข้าราชการประจำ ที่ทำตัวขวางการพัฒนาประเทศ อย่าง สถุน ถวิล เปลี่ยนสี  ก็ผิด 

-

จัดให้มีการเลือกตั้ง ก็ยังผิด 

ทุกอย่างที่รัฐบาลที่มาจาก ประชาชน  ทำอะไรก็ผิดหมด เพราะอะไร  เพราะ เราไม่ใช่ กปปส.  เราไม่ใช่ สลิ่ม  หรือเพราะเราไม่ใช่ ประชาชน ของประเทศนี้  คำตอบ มีอยู่ในใจของ พี่น้อง แล้วครับ

-
ว่าความแห้งเหือดของน้ำเข้าขั้นวิกฤต เป็นภัยแล้งที่กำลังคุกคามพื้นที่ประเทศจีนตอนใต้ ชนิดหนักหนาสาหัส ระดับร้ายแรงที่สุดในรอบ 70 ปีเลยทีเดียว และความแห้งเหือดนั้นก็จะอยู่ต่อไปอีกกีเดือน !!   กี่ปีไม่มีใครรู้ 

....................หากพี่น้องเรายังปล่อยให้เป็น เช่นนี้ อีกต่อไปหรือ 

-
อย่าไปอ้าง อากาศเปลี่ยน ฝนหลงฤดู หิมะ-ลูกเห็บ นัดกันถล่ม แผ่นดินไหวเขย่าโลก สึนามิคร่าชีวิต และล่าสุด ทราาช ประยุทธ์ ออกมาเห่า ให้เล่นน้ำ สงกรานต์..
[3/22/16, 1:03:04 PM] superredheart: อย่าไปอ้าง อากาศเปลี่ยน ฝนหลงฤดู หิมะ-ลูกเห็บ นัดกันถล่ม แผ่นดินไหวเขย่าโลก สึนามิคร่าชีวิต และล่าสุด ทราาช ประยุทธ์ ออกมาเห่า ให้เล่นน้ำ สงกรานต์ ได้แค่วันเดียวอีก ...... มันแปลว่าอะไร 
-
ทรราช คสช. พูดถึงขนาด ให้เยี่ยวแค่ ครั้งเดียว เพราะต้องช่วยกันประหยัดน้ำ  พูดถึงขนาด น้ำล้างรถ  และสั้งห้ามชาวนาใช้น้ำปลูกข้าว

-
ที่ผมกล่าวมา นั้นคือภัยแล้ง ที่กำลังคืบคลาน กดขี่ ข่มเหงประชาชนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า อย่างเงียบ ๆ ด้วยปากกระบอกปืน ของ ทรราช คสช.
-

แต่ ภัยที่ร้ายยิ่งกว่าภัยแล้ง  คือ  ความเห็นแก่ตัวของ อำมาตย์ ทรราช คสช.  มาวันนี้ จะจ่ายเงินให้ข้าราชการ แบบให้ฟรัเหมือนสมัย ฆาตกร อภิสิทธฺ์ ทำ  กว่า พันห้าร้อยล้านบาท  แถม  ๆ  จะเป็นเงินเดือนให้ ทหาร - ตำรวจ เพิ่มอีก 


หากยังทนได้กับการกดขี่ เหยียบหัวประชาชน ของ เหล่าทรราช ก็ทนกันไป ไม่ต้องลุกขึ้น มาเรียกร้อง หลอกครับ ไม่ต้อง คิดถึง อนาคตของลูกหลาน หลอกครับ  หลับให้สบาย กินให้อร่อย 

-
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ประชาชน ที่เขาทนไม่ได้กับการปฏิรูป โคตร พ่อ โคตรแม่ ของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบห่วยแตก โกหก หลอกลวง และโกงกินชาติ อย่างไม่มีใครกล้าจะกล่าวถึง จัดการกันเอง  หรือครับ

-
พี่น้อง ประชาชน ต้องการเห็นความ อยุติธรรมที่มีอยู่เกลื่อนเมือง  เราจะอยู่อย่างนี้    ...........ก็แล้วแต่ พี่น้อง แล้วกัน ............  ครับ 


--- การต่อต้านทรราช คสช. เป็นหน้าที่ของประชาชนชาวไทย ทุกคน ครับ

-
เสรีชน

***กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 33 "เรื่องวุ่น ๆ ของวังอลเวง"

***กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 33 "เรื่องวุ่น ของวังอลเวง"

https://youtu.be/LGWXMnYCc1s

หรือ

https://youtu.be/tURjBD-YQDM

หรือ

https://youtu.be/d76frBJwsls

หรือ

https://youtu.be/8eo6L417KVg

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

 

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

 

******************

ย้อนฟังตอนก่อนหน้า

 

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 32 ระบอบเปรม-ภูมิพล (ย้ำลัทธิอวยทั้งแผ่นดิน)

https://youtu.be/aA63kMAqR1s

หรือ

https://youtu.be/kBTqbOtOj0g

 

********
กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม
ตอน 31 การเกิดและการสร้าง "ระบอบภูมิพล-เปรม"

https://youtu.be/_Hysn1jdrEs

หรือ

https://youtu.be/x4z8fYxeAO8

หรือ

https://youtu.be/odSld8dB0T0
 

**********
กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม
ตอน 30 เราสู้กับใคร??? (ต่อ)

https://youtu.be/jOXd7i1eAaw

 

 

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

 

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

Monday, March 21, 2016

ความสิ้นเปลืองที่เกิดจาก ระบอบราชาธิปไตยไทย

ความสิ้นเปลืองที่เกิดจาก ระบอบราชาธิปไตยไทย

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก

ฉีกหน้ากาก ผบ.หน่วยซีล ล้มยิ่งลักษณ์ เพื่อสนองเจตนารมย์ของ กษัตริย์ภูมิพล

ฉีกหน้ากาก ผบ.หน่วยซีล

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ(ผบ.นสร.) หรือหน่วยซีล ให้สัมภาษณ์กรณีมีการเผยแพร่ภาพตนเองในโซเชี่ยลมีเดีย เปรียบเทียบกับชายสวมหมวกผ้าไหมที่เป็นกองกำลังลังติดอาวุธในกลุ่มกปปส. และยืนคุ้มกันนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. ขณะนี่นายสุเทพไปยืนแหกปากด่าตำรวจที่หน้าสโมสรตำรวจโดยยืนยันว่าชายที่สวม หมวกผ้าไหมปิดบังใบหน้าที่กำลังถูกแชร์ภาพในโซเชี่ยลมีเดียกันอย่างครึกโครม นั้นไม่ใช่ตนเอง และตนไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองใดๆ แต่มีคนบางกลุ่มชอบทำภาพใส่ร้ายเว็ปไซด์สร้างความสับสนให้สังคม อย่างไรก็ตาม ใครอยากจะทำอะไรก็ทำไปหรือว่าวิพากษ์วิจารณ์ตนเองก็ว่าไป แต่ยืนยันว่าตนไม่ใช่ชายนิรนามที่สวมหมวกไหมพรมเป็นกองกำลังติดอาวุธของก ปปส. อย่างที่มีการพาดพิง

แรกทีเดียวที่มีคนนำภาพไอ้โม่งมาเปรียบเทียบกับ ผบ.ซีล วินัย ทองอินทร์ เพื่อนพ้องน้องพี่หลายคนพูดกันว่า คนระดับนายพลเนี่ยคงไม่ลดตัวลงมาเป็นบอดี้การ์ดให้ไอ้เทือกหรอกน่า มันเสียศักดิ์ศรีกันเกินไป สมมุติว่าผบ.ซีลวินัยแกจะรักไอ้เทือกปานจะแหกตูดดมก็เหอะ อย่างเก่งก็คงลดตัวมาเป็นแค่หัวหน้าการ์ด มาเป็นที่ปรึกษาคอยดูแลส่วนที่เป็นยุทธวิธี แค่นั้นก็ลดตัวลงมาเยอะแล้ว นี่ถ้าผบ.วินัยทำนิ่ง ๆ เก็บอาการซะ สักพักข่าวนี้ก็คงจะหายไป เพราะคิด ๆ ดูมันแทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่นายทหารระดับนายพลจะลดตัวมาเป็นบอดี้ การ์ด คือลดจากหน้ามือมาเป็นหลังตีน แบบนี้ไม่มีใครเขาทำกันนอกจากคนสิ้นคิด

แต่ทีนี้แกดันออกมาแก้ตัวมันก็ทำให้คนอื่นเขาคิดเพราะก่อนหน้านั้น แกก็ออกมาแก้ตัวให้เด็กในหน่วยซีลของแกมาทำหน้าที่ปกป้องไอ้เทือกในม๊อบจน ตำรวจเขาจับได้ ออกมาแก้ตัวแบบชนิดไม่มีความเป็นชายชาติทหารเหลืออยู่ คือแถไปเรื่อยว่า ลูกน้องของแกมาสืบเรื่องยาเสพย์ติดบ้าง แถว่าขณะนี้มีกองกำลังต่างชาติแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มม็อบบ้าง แถในแพ็ทเทิร์นเดียวกับพรรคแมลงสาบ นี่ถ้าถอดหัวโขนยศนายพลมาพูด คนฟังต้องนึกว่าเป็นสส.พรรคแมลงสาบแหง๋ ๆ คราวนี้ก็ออกมาแก้ตัวอีก มันก็เข้าล็อคภาษิตโบราณที่ว่าคนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัวพอดี ไอ้ที่คนเขาไม่คิด ก็เลยกลายเป็นเขาคิดไม่ถึง

(22 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.40 น. เกิดเหตุคนร้ายขับปิคอัพเข้ามาปาระเบิด และกราดยิงใส่เวทีชุมนุมของรวมพลหัวใจรักชาติ (กปปส.) กลางตลาดยิ่งเจริญ เขตเทศบาลแสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด มีผู้บาดเจ็บกว่า 30 คน จากสะเก็ดระเบิดและกระสุนปืน พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผบ.หน่วยซีลเปิดประเด็นร้อน ฟันธงถล่มกปปส.ตราดเป็นฝีมือกองกำลังต่างชาติ

อีกแร่ะ นี่เหตุเกิดในพื้นที่ของมึงเองเลยนะ ไม่ได้เห็นหัวไม่ได้เกรงศักดิ์ศรีหน่วยซีลของพวกมึงเลย รู้สึกอายหมาไหม รีบปัดเป็นฝีมือกองกำลังต่างชาติ ยิ่งปัดเป็นฝีมือกองกำลังต่างชาติมึงยิ่งเสียใหญ่เลย ไอ้เหล่เล็ก พื้นที่มึงเองเขตอิทธิพลของมึงเองแท้ ๆ ปล่อยให้กองกำลังต่างชาติเข้ามาก่อเหตุได้ เสียหมา 2 เด้งเลยนะมึง ถุย! จากหน่วยซีล กลายเป็นแมวน้ำธรรมด๊า ธรรมดา!

ว่าจะไม่พูดถึงซีโร่แมนนายนี้แล้วนา บังเอิญเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ใช้ซิกเนเจอร์ว่า "น้าวัล รักไทย" แกก็ส่งข้อมูลมาให้ อดไม่ได้ที่จะนำมาขยายต่อเพียว ๆ ไม่มีตัดต่อดังนี้ "ผมกราบขออภัยครับที่ต้องเข้ามาทางหลังไมค์ ขอเล่าเรื่องเบื้องหลังความเหี้ยและระยำของ พลเรือตรีวินัย กล่อมอินทร์ นอกจากทำระยำกับคนไทยที่รักประชาธิปไตยแล้ว มันยังทำให้หน่วยมนุษย์กบ น.ส.ร. (SEAL) ตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์

เป็นที่ทราบไอ้นายพลคนนี้มันฝักใฝ่ฝ่ายผเด็จการมาตลอด ผู้ใต้บังคับบัญชาในหน่วยหรือแม้นแต่ครอบครัวถ้ามันรู้ใครอยู่ฝ่ายแดง มันจะกลั่นแกล้งต่างๆ นาๆ ให้ย้ายหน่วยบ้าง หรีอกระทั่งบีบให้ลาออก หลายๆ คนที่เป็น จนท. สนามบินสุวรรณภุมิ หรือสนามบินนานาชาติทั้งหลายในไทย หรือแม้นแต่ จนท.ประจำสถานทูตอเมริกา หรือ Marines guard หลายคนล้วนอดีต SEAL ที่ทนกับความบ้าอำนาจของมันไม่ได้ มันบ้ากีฬาโดยเฉพาะเรือพาย คนที่พายเรือหรือเล่นกีฬามันจะให้รางวัลพิเศษตลอด แต่กับคนไปราชการที่ต้องปฎิบัติภาระกิจเสี่ยงภัย ทั้งภาคใต้มันดูถูก หาว่าเป็นงานขี้ๆ เรื่องโดดร่ม ดำน้ำ เป็นเรื่องขี้ๆ ทั้งๆ ที่ตัวมันเองไม่ได้เรียนหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจมชั้นสูง และในการเรียนชั้นต้นตัวมันก็ไม่ผ่าน hell week สัปดาห์นรก ที่ถือว่าเป็นการฝึกที่โหดที่สุดเนื่องจากผ่าตัดไส้ติ่ง ที่มันขึ้นมาเป็น ผบ. ได้ เพราะนายทหารที่จบในช่วงมันไม่มีที่จะขึ้น

ปี 53 กระสุนสไนเปอร์ที่ยิง เสธแดง ถ้าให้สอบสอบไม่ยากครับ เพราะแต่และหน่วยทหารใช้ปืนและกระสุนคนละชนิดและคนละขนาดกัน ชุดที่ส่งไปร่วม ศ.อ.ฉ. ปี 53 ก็คือชุดเดียวกันที่ถูก จนท.ตำรวจจับได้เร็วๆ นี้ที่นางเลิ้ง

ล่าสุดมีรูปตัวนายพลคนนี้ไปปรากฏตัวและร่วมชุมนุมกับไอ้ม๊อปนกหวีด แม้จะเห็นแค่หลัง แต่ยืนยันว่าเป็นมัน

อ่านจบแทบจะบรรลุเซ็นกันเลยทีเดียว เออหนอนี่ตัวอะไร มีความเป็นคนแค่ผิวหนังจริง ๆ     

"เปิดโปงแผนชั่วช้าของ ระบอบอำมหิต (ตอนที่ ๔)"

"เปิดโปงแผนชั่วช้าของ
ระบอบอำมหิต (ตอนที่ ๔)"

(จากกรณีคลิปของ นาย
ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา 
ดีลเมกเกอร์ 

(deal makerผู้จัดให้
นักการเมืองมาพบกัน) 

ผู้ที่ล้มรัฐบาลจากการ
เลือกตั้ง มาสองครั้ง และ
การประกาศให้มีการ
ปฏิรูป ก่อนเลือกตั้งของ
กลุ่มกรีน เมื่อคืนที่ผ่านมา)

ในเมื่อความคิดของพวก
ชนชั้นนำทั้ง ๔ ข้อ (อ่านใน
ตอนที่ ๓) ได้ออกมาแล้ว
เป็นชุดความคิด โยนสู่
สังคมดังนี้

๑. ประชาชนชาวไทยยัง
ไม่ควรมีความเท่าเทียมกัน

๒. ประเทศนี้ ไม่ได้เป็น
ของประชาชนชาวไทย
ทุกคน ทุกคนต่างหาก 
ที่เป็นข้าของแผ่นดินนี้

๓. ความรุนแรง และ

"อ.ชูพงศ์ สงสารคนเสื้อแดง..." โดย ดร. เพียงดิน รักไทย 22 มีนาคม 2559

".ชูพงศ์ สงสารคนเสื้อแดง..." โดย ดร. เพียงดิน รักไทย 22 มีนาคม  2559

https://youtu.be/ZaIhnkgy650

หรือ

https://youtu.be/om4EYsAAmQU

หรือ

https://youtu.be/DqWnzlr8otg

หรือ

https://youtu.be/ImTV1QIOFCA

 

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

 

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

 

 

********

หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

เพื่อร่วมเป็นฐานของการปฏิวัติในอนาคตอันใกล้นี้

สงสารคนเสื้อแดง โดย อ.ชูพงศ์ ถี่ถ้วน

โดย ชูพงศ์ ถี่ถ้วน


รัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลเผด็จการทหาร เกิดจากระบอบราชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยที่เรียกกัน. 
       ระบอบเป็นตัวแม่.     รัฐบาลเป็นตัวลูก.  
ระบอบราชาธิปไตย เป็นระบอบการปกครองแบบเผด็จการ  ซึ่งเป็นแม่ของรัฐบาล. เมื่อแม่เป็นเผด็จการ. รัฐบาลก็เป็นเผด็จการไปด้วย 
        ดังนั้นผลงานทุกอย่างที่รัฐบาลเผด็จการสร้างขึ้น ก็เพื่อสนอง ระบอบเผด็จการ และรัฐบาลเผด็จการ.  หาได้เพื่อประชาชนไม่
         สิ่งที่ประชาชนได้รับ คือผลร้าย หรือพิษที่ระบอบเผด็จการ และรัฐบาลเผด็จการ ได้ทิ้งให้ประชาชน. ดังเช่นปัจจุบัน  
         ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการบริหารประเทศ จะตกแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของระบอบ กับรัฐบาลของระบอบนั้น.  ปัจจุบันเจ้าของระบอบคือ กษัตริย์. รัฐบาลคือคสช. ดังนั้น ผลประโยชน์ จึงตกแก่ กษัตริตริย?  และ คสช   ประชาชน ได้แต่ผลร้าย หรือได้แต่พิษร้ายจากระบอบราชธิปไตย และรัฐบาลเผด็จการทหาร 
          รัฐบาลเผด็จการทหารอยู่ได้ไม่นาน หากไม่มีระบอบ ราชาธิปไตย. คุ้มครอง
           รัฐบาลทหารและการทำรัฐประหาร. จะเกิดยาก. หารไม่ได้รับการสนับสนุน หรือสั่งการจากเจ้าของระบอบ ราชาธิปไตย คือกษัตริย์. 
            ดังนั้น คณะรัฐประหาร. คือคณะทหาร นั้นเป็นเผด็จการตัวลูก ที่เกิดจาก ระบอบราชาธิปไตย ซึ่งเป็นเผด็จการตัวแม่
             การขจัดการทำรัฐประหารให้ไม่กลับมาอีก คือต้องทำลายแม่พันธุ์ คือระบอบราชาธิปไตยให้มดไปจึงจะหยุดยั้งการทำรัฐประหารได้. หรือแม้จะมีก็ไม่สามารถปกครองอยู่ได้นาน เมื่อหมดอำนาจก็จะกลายเป็นกบถ. ติดคุยหรือถูกประหารชีวิต

              แต่ปัจจุบันกษัตริย์เป็นเจ้าของระบอบ. และถืออำนาจสูงสุดของประเทศไว้แต่เพียงผู้เดียว. ได้ใช้อำนาจสูงสุดของกษัตริย์เปลี่ยนความเป็นขบถ ของคณะรัฐประหาร  ให้เป็นคณะรัฐบาล ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก.  หลักกฎหมาย. และหลักการปกครองแบบประชาธิปไตยจึงใช้ไม่ได้ในประเทศไทย และไม่มีทางเกิดได้หากยังมีระบอบราชาธิปไตย มีแต่จะเกิดคณะรัฐประหารคณะใหม่ขึ้นมาเรื่อย ไม่มีสิ้นสุด 
             
             ทางออกของปัญหานี้คือ เปลี่ยนระ
บอบการปกครองให้ได้เท่านั้น. จึงจะหลุดพ้นวงจรอุบาทก์.
              คือเปลี่ยนจากระบอบราชาธิปไตย
              ซึ่งเป็นระบอบของกษัตริย์ ให้เป็น 
              ระบอบประชาธิปไตย
              ซึ่งเป็นระบอบของประชาชน. นั่นแหละถึงจะทำให้การแก้ปัญหาต่างๆของปนะชาชน สำเร็จ
              การคิดแค่เปลี่ยนรัฐบาล. แต่ยังอยู่ในระบอบ เผด็จการ ประชาชนก็จะเจอแต่ความเลวร้ายดังปัจจุบัน. ไร้เสรีภาพ ไร้ความยุติธรรมในทุกๆด้าน.  อยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี ถูกคุกคามข่มขู่ ถูกเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตย์. แม้วันนี้คณะรัฐประหารซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้บริหารประเทศ. ถูกประชาชนเกลีบเช้ง และอยากให้เปลี่ยนรัฐบาล ก็ตาม ให้รัฐบาลคสช ออกไปก็ตาม รัฐบาลใหม่ก็ยังทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ให้กับกษัตริย์และเครือข่ายเพียงไม่กี่ตระกูล
           ดังนั้น. มีทางเดียวไม่ใช่คิดแค่เปลี่ยนรัฐบาล. แต่ต้องคิดเปลี่ยนระบอบให้ได้จึงจะได้รับประโยชน์จริง
            
            ปัญหาของเสื้อแดงที่ไม่ยอมเปลี่ยนระบอบ 
เป็นปัญหาที่คนเสื้อแดงรักษาปัญหาไว้เอง. ไม่ว่าจะอ้างเหตุอะไร  ที่ไม่ยอมคิดเปลี่ยนระบอบ เท่ากับการหาแสงจันทร์ในคืนข้างแรม15ค่ำนั่นเอง

           รู้สึกสงสารพวกเสื้อแดง ที่คิดว่าไปแสดงออกว่าจงรักภักดี ต่อกษัตริย์ ที่เป็นเจ้าของระบอบราชาธิปไตย. แล้วจะทำให้ได้รับการยอมรับเหมือน. พวก กป.ป.ส. หรือ..

Sunday, March 20, 2016

หนักกว่าเก่า!!! ข้อเสนอ คสช. ต่อร่างรัฐธรรมนูญ!!??

หนักกว่าเก่า!!! ข้อเสนอ คสช. ต่อร่างรัฐธรรมนูญ!!??

Credit:  http://www.ispacethailand.org/political/8248.html …


หนักกว่าเก่า!!! ข้อเสนอ คสช. ต่อร่างรัฐธรรมนูญ!!??

เปิดเผยกันไปเรียบร้อยกับข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่าง รัฐธรรมนูญ ของความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งถึงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่เรียกได้ว่าอึ้งกันทั้งประเทศ เพราะเดิมทีร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการสืบทอด อำนาจ ความไม่เป็นประชาธิปไตย และการไม่มีส่วนร่วมของประชาชน

แต่เมื่อพิจารณาข้อเสนอของคณะ คสช. ที่เสนอให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว แล้ว ต้องบอกว่าหนักกว่าเก่าเสียอีก โดยข้อเสนอของคณะ คสช. นั้นแบ่งได้เป็น 3 ข้อหลักๆได้แก่

ปรับจำนวนสมาชิกวุฒิสภาจาก 200 คนเป็น 250 คน โดยให้มาจากการสรรหาทั้งหมด ทั้งนี้เสนอให้มีวุฒิสมาชิกโดยตำแหน่งได้แก่ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ยังเสนอให้วุฒิสภาให้มีอำนาจหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญดูแลการขับ เคลื่อนการปฏิรูป ตามแผนการปฏิรูป แนวนโยบายแห่งรัฐแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงยุทธศาสตร์ชาติ

เสนอให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แบ่งเป็นแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ และเสนอให้ให้เขตเลือกตั้งใหญ่ขึ้นและมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่เกิน 3 คน แต่ให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งแต่ละคนใช้สิทธิเลือกได้เพียง 1 คน แล้วเรียงลำดับจากผู้ได้รับคะแนนสูงสุดลดหลั่นลงไปจนได้ครบจำนวนที่ต้องการ

กรณีที่ระบุให้พรรคการเมืองต้องแจ้งรายชื่อผู้เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ เกิน 3 รายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะ คสช. เสนอให้ควรงดเว้นไม่นำเรื่องการแจ้งรายชื่อผู้ที่จะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 ชื่อมาบังคับใช้

จากข้อเสนอทั้ง 3 ข้อของคณะ คสช. นำมาซึ่งเสียวิพากษ์วิจารณ์ที่มากขึ้นตามมา โดยเฉพาะข้อ 1 และ 3 ที่ถูกสังคมมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของคณะ คสช. ผ่านกลไกข้อสมาชิกวุฒิสภาระบบสรรหา ซึ่งกำหนดให้มีวุฒิสมาชิกโดยตำแหน่งเป็น ข้าราชการตามตำแหน่งซึ่งตำแหน่งดังกล่าวล้วนแต่เป็นตำแหน่งราชการของสมาชิก คสช. แทบทั้งสิ้น

อีกทั้งการให้งดเว้นการแจ้งรายชื่อผู้ที่จะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีของ พรรคการเมืองก็เท่ากับเปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกอย่างชัดเจน แม้คณะ คสช. จะระบุในข้อเสนอว่าอย่าได้หวาดระแวงว่าจะมีการสืบทอดอำนาจของคณะ คสช. แต่เมื่อเสนอมาเช่นนี้ถามว่าใครจะไม่หวาดระแวง???

นอกจากนี้หลังจากมีการเปิดเผยข้อเสนอของคณะ คสช. แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ยังมีการแสดงท่าทีว่า กรธ. คงจะปฏิบัติตามข้อเสนอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหาก กรธ. ไม่แก้ไขตามที่มีการเสนอมาจะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เดี๋ยวมีอีกก็ได้ ถ้ากรธ.ไม่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เดี๋ยวตนก็เขียนไปใหม่ ก็ทำจนกว่าจะพิจารณา"

"ตนไม่กลัว ไม่ดีก็ร่างใหม่ ทำไมหล่ะก็ตนมีอำนาจ ที่จะทำให้บ้านเมืองปลอดภัย ไม่ใช้อำนาจในทางที่ผิด วันนี้เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศหรือเปล่า ต้องการปฏิรูปหรือไม่ นั่นแหล่ะคือความแตกต่างเข้าใจไหม" พล.อ.ประยุทธ์ ทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตามหากวิเคราะห์ตามข้อเสนอของ คสช. ต่อร่างรัฐธรรมนูญ ก็น่าสนใจว่าเหตุใด คณะ คสช. จึงจงใจที่จะเสนอข้อเสนอที่มีความเป็นประชาธิปไตยน้อยลงอย่างโจ่งแจ้งขนาด นี้ ทั้งที่หากจะป้องกันการเข้าสู่อำนาจรัฐของกลุ่มการเมืองที่ คสช. ไม่ต้องการ หรือแม้แต่หากจะสืบทอดอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับของนายมีชัย ก็ถือว่าเปิดช่องให้สามารถทำได้อยู่แล้ว

ประเด็นนี้อาจถูกมองว่าเป็นเกมการเมืองที่คณะ คสช. กำลังเล่นเพื่อยื้อระยะเวลาในการร่างรัฐธรรมนูญก็เป็นได้ โดยวัดใจกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เพราะหาก กรธ. ไม่ดำเนินการตามก็อาจจะทำให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่ หรือ อาจเกิดการต่อรองกันขึ้นในประเด็นข้อเสนอที่มีการเสนอมา แต่ไม่ว่าจะอย่างไรรัฐบาล คสช. ก็ยังคงอยู่ และหน้าตาของร่างรัฐธรรมนูญก็คงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไหร่นัก

ดังนั้นสุดท้ายแล้วเกมการเมืองครั้งนี้จึงอาจเป็นเพียงแค่จุดเล็กๆ ที่ คสช. กำลังวัดใจอยู่ก็เป็นได้ เพราะการเมืองไทยวันนี้ไม่ได้มีแค่ประเด็นเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ แต่ยังมีประเด็นการเมืองของขั้วอำนาจที่เปิดหน้าลงมาเล่นกันเต็มตัวแล้ว!!!

201603151405017-20061002145956-e1458114003868

หนักกว่าเก่า!!! ข้อเสนอ คสช. ต่อร่างรัฐธรรมนูญ!!??
http://www.ispacethailand.org/political/8248.html

"ก็แค่ชีวิตเดียว เรามีตั้ง 71 ล้านคนที่เราต้องดูแล" สารล่าสุดจาก ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา เหยี่ยวตัวล่าสุดของขวาไทย

Credit: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1078286665571505&id=100001705461683&refid=52&__tn__=C

"ก็แค่ชีวิตเดียว เรามีตั้ง 71 ล้านคนที่เราต้องดูแล"
สารล่าสุดจาก ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา เหยี่ยวตัวล่าสุดของขวาไทย
..................

เพื่งฟังสัมภาษณ์ ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ล่าสุดกับ อัญชะลี ไพรีรัก ในรายการ new)talk
https://www.youtube.com/watch?v=QDoIDS-dbhY&feature=youtu.be

เท่าที่ติดตามอ่านสัมภาษณ์ปีย์ มาพอสมควร นี่น่าจะเป็นบทสัมภาษณ์ที่ "หลุด" ที่สุดของปีย์ เพราะไม่เหลือมาดที่เป็นกลาง ดูดี ที่เขาพยายามวางมาดตลอดมา

ปีย์ ไม่อ้อมค้อมว่าเชียร์รัฐประหาร อยู่จนถึงปัจจุบัน
ปีย์พูดถึง ภารกิจในการ "ปรับทัศนะคติ" ของรัฐบาลว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แม้ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ตาม เพราะประชาชนไทยยัง "โง่-จน-เจ็บ"

ที่น่าสนใจคือตั้งแต่นาทีที่ 27

ปีย์ ได้ยกตัวอย่างการปรับทัศนคติ วัฒนา เมืองสุข ว่า การปรับทัศนะคติ
ต้องปรับให้ได้ ปรับจนเห็นเหมือนกัน ถ้าปรับไม่ได้จะปล่อยให้ออกมาทำไม

(การจับเช้า ปล่อยเย็น ปีย์มองว่าเป็นการดำเนินการที่อ่อนแอของรัฐบาล)

อัญชลี ถามว่า่ "โอ้โห อาจจะต้องทั้งชีวิต"
ปีย์ตอบทันทีว่า "ก็แค่ชีวิตเดียว เรามีตั้ง 71 ล้านคนที่เราต้องดูแล พล.อ.ประยุทธ์ มีคนตั้ง 71 ล้านคนต้องดูแล"

อัญชลีถามต่อว่า "ถ้าต้องเอาเข้าไปรับทัศนตคิทั้งชีวิต สักชีวิตหนึ่ง"
ปีย์ตอบทันทีว่า "มันจะอะไรกัน"

.......................
ฟังสัมภาษณ์ปีย์ ล่าสุด เลยต้่องกลับไปอ่านที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ออกมาพูดถึงปีย์เมื่อปี 2553 เลย ที่พัลลภ พูดอาจจะมีมูลมากขึ้นด้วย

"พัลลภ" ยัน "ปีย์" เจ้าภาพหารือโค่น "แม้ว"-อ้างมีทีเด็ดพร้อมแฉต่อ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000036109

ปีย์ มาลากุลอยู่เบื้องหลังเป็นนายทุนจัดตั้ง วิทยุ FM 92.25

ปีย์ มาลากุลอยู่เบื้องหลังเป็นนายทุนจัดตั้ง วิทยุ FM 92.25 อาคาร TPI โดยใช้ภรรยาของลูกน้องคนสนิทเป็นเจ้าของจดทะเบียนจัดตั้ง  https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9F.%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%A1._92.25_%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8B แต่ละน้กจัดรายการล้วนเปผ้นแกนนำเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้งทั้งสิ้น

“พัลลภ” ยืนกระต่ายขาเดียว “ปีย์” เป็นเจ้าภาพหารือปฏิวัติ

"พัลลภ" ยืนกระต่ายขาเดียว "ปีย์" เป็นเจ้าภาพหารือปฏิวัติ ระบุเคยถาม จะทำให้ "ทักษิณ" หายไปได้หรือไม่ ปัดโวยวายเพราะผิดหวังตำแหน่งในรัฐบาล หลังยึดอำนาจ โวยังมีอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับ "ปีย์" ที่จะนำมาเปิดเผย อ้างโดนกล่าวหาก่อนเลยต้องเล่นกลับ
       หลังจากที่ นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริษัท แปซิฟิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ออกมาปฏิเสธคำกล่าวของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ที่อ้างว่า มีการวางแผนการยึดอำนาจจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในปี 2539 ที่บ้านพักของ นายปีย์ ที่ถนนสุขุมวิทนั้น ล่าสุด วันนี้ (30 มี.ค.) พล.อ.พัลลภ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การที่ นายปีย์ ตั้งข้อสังเกตว่า ตนออกมาโวยวายเพราะไม่ได้รับตำแหน่งในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นั้น ตนขอยืนยันว่า ตนเป็นคนที่รักษาสัจจะเมื่อตกลงกันว่าการทำครั้งนี้ทุกคนต้องไม่หวังตำแหน่งและลาภยศใดๆ ตนก็ถือตามนี้ สำหรับเรื่องนี้ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว ถ้าตนต้องการตำแหน่ง ตนก็ออกมาโวยวายในช่วงนั้นแล้วจะปล่อยให้เนินนานมาถึง 3 ปีได้อย่างไร และถ้ามาพูดตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร
       
       พล.อ.พัลลภ อ้างว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งก่อนการประชุมหารือกันที่บ้านสุขุมวิท ซึ่งมีตนกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ นายปีย์ มาลากุล นั่งอยูที่โต๊ะรับแขกภายในบ้าน นายปีย์ ได้ถามตนว่า ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หายไปได้หรือไม่ ตนก็เลยตอบไปว่า ทำไม่ได้ เพราะมี รปภ.จำนวนมากคงจะต้องยิงกันเละจนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่สามารถทำให้ตายได้ ทุกคนก็เงียบไม่พูดอะไร ขณะนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ นิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพียงแต่นั่งเฉยๆ ไม่ได้ออกความเห็นอะไร
       
       พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า การหารือในการล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น จะมาพูดเล่นๆ ได้อย่างไร เพราะมีการกินข้าวหารือกันถึง 7 คน มีการพูดกันว่า จะต้องเล่น พ.ต.ท.ทักษิณ ทางกฎหมาย โดยมีนักกฎหมายเข้ามาร่วมประชุมด้วยในเรื่องของ กกต.ซึ่งเมื่อ กกต.ล้มการเลือกตั้งไม่สำเร็จ ก็มีการพูดถึงการรัฐประหาร
       
       พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า การที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ออกมาปฏิเสธเป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าออกมารับว่าจริง เขาคงต้องไปโรงพยาบาลประสาท เพราะฉะนั้นเขารับไม่ได้ต้องปฏิเสธ แต่การปฏิเสธของ พล.อ.สุรยุทธ์ มันขัดกันโดยตลอดจากการประมวลข่าวอะไรต่างๆ คนก็รู้ดีว่าเป็นข้อเท็จจริง
       
       พล.อ.พัลลภ อ้างอีกว่า มีการประชุมกัน 4 ครั้ง และกินข้าวร่วมกันทุกครั้ง ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จะมานั่งรอก่อนเสมอ จากนั้นก็มานั่งคุยกันที่โต๊ะกินข้าว กินไปคุยกันไป วันนี้ ตนพยายามไม่พูดถึงใครแต่ พล.อ.สุรยุทธ์ มาพูดพาดพิงถึงตนก่อน และวันนี้นายปีย์มาพูดถึงตนทำให้ตนเสียหายจึงต้องพูดบ้างว่า นายปีย์ คิดอย่างไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และยังมีเรื่องอีกเยอะเกี่ยวกับตัวนายปีย์ ที่ตนจะนำมาเปิดเผย
       
       อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวถูกจุดประเด็นขึ้นมา โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างหนีโทษจำคุกอยู่ต่างประเทศได้กล่าวปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงก์กับคนเสื้อแดงที่ จ.เชียงใหม่เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ว่า มีกระบวนการวางแผนยึดอำนาจจากเขาในปี 2549 โดยมีการประชุมวางแผนที่บ้านพักถนนสุขุมวิท ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า ได้ข้อมูลดังกล่าวมาจาก พล.อ.พัลลภ หลังจากนั้น วันที่ 27 มี.ค.พล.อ.พัลลภ ได้ออกมาแถลงสอดรับกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ย้ำว่า พล.อ.สุรยุทธ์ มีส่วนร่วมวางแผนปฏิวัติ และรับปากว่าจะไม่เป็นนายกฯ แต่หลังจากยึดอำนาจเสร็จกลับเสียสัจจะ เป็นนายกฯ เสียเอง ทำให้หลายคนงงไปตามๆ กัน
       
       ในช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงก์กับคนเสื้อแดงอีกครั้งที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ระบุชื่อเจ้าของบ้านที่ถนนสุขุมวิทว่าคือนายปีย์ มาลากุลฯ โดยเชื่อมโยงขบวนการดังกล่าวไปถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญที่ขัดขวางการทำงานของเขาตลอดในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการกล่าวหาของ พล.อ.พัลลภและ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังกล่าวทำให้ พล.อ.สุรยุทธ์ และ นายปีย์ ต้องออกมาปฏิเสธเมื่อวันที่ 28 และ 29 มีนาคม ตามลำดับ
       
       อนึ่ง เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อเดือนสิงหาคม 2549 พล.อ.พัลลภถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นคนวางแผนลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนถูกปลดออกจากตำแหน่ง รอง ผอ.รมน. และภายหลังการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 แล้ว พล.อ.พัลลภได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา กอ.รมน. และช่วยงาน คมช.มาตลอด จนปี 2551 ในช่วงการชุมนุมของพันธมิตรฯ พล.อ.พัลลภก็มีบทบาทในการส่งทหารมาช่วยคุ้มกัน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น จปร.7 อย่างไรก็ตาม ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน และพยายามให้สัมภาษณ์ว่าตนเองจะเป็นแกนนำพันธมิตรฯ แทน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ถูกจับเมื่อวันที่ 5 ต.ค. แต่เมื่อไม่ได้เป็นแกนนำ พล.อ.พัลลภได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณในเดือนถัดมา หลังจากนั้น พล.อ.พัลลภก็หันมาโจมตีพันธมิตรฯ และแก้ตัวแทน พล.ต.ท.ทักษิณว่ามีความจงรักภักดี รวมทั้งมีข่าวว่าอาจจะได้ตำแหน่งใน กอ.รมน.ด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สิ้นสุดลงจากคำพิพากษายุบพรรคพลังประชาชน และ ส.ส.ในพรรคย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย พล.อ.พัลลภก้ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมใน จ.ลพบุรีของพรรคเพื่อไทย ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2552 ก่อนที่จะถูก พ.ต.ท.ทักษิณใช้เป็นเครื่องมือแอบอ้างเรื่องแผนการยึดอำนาจดังกล่าว