วัฒนา เมืองสุข แฉหลักฐานกล้องวงจรปิด ยืนยัน การละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยทหาร ของ คสช.

ข้อมูลที่ คสช.ต้องการ ตามที่พ.อ.วินธัยสุวารี โฆษก คสช.แถลงตอบกรณีผมถูกทหารคุกคามว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างให้เกียรติ เป็นลักษณะการเข้าไปประสานงานพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็น′ แต่ดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิดแล้วช่วยตอบและยืนยันให้ประชาชนทราบอีกครั้งว่า 1.การ ใส่ชุดพรางบุกเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกำลังอาวุธครบมือเพื่อถ่ายรูปทำแผนที่ สถานที่อยู่อาศัยโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของบ้านคือการปฏิบัติแบบให้เกียรติของ คสช 2.ส่วนการไปครั้งที่สองในชุดนอกเครื่องแบบเพื่อถามข้อมูลการเดินทางเข้าออกหมู่บ้านของผมก็คือการประสานงานและแลกเปลี่ยนความเห็นของคสช 3.วิธีการประสานงานพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของ คสช.คือการไปพูดคุยขอข้อมูลจาก รปภ แต่ไม่เคยคุยหรือแจ้งให้ผมซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลทราบ 4. ข้อมูลและความเห็นที่ คสช.ต้องการทราบคือความเคลื่อนไหวของผมเกี่ยวกับเวลาเข้าออกบ้าน 5. ผมเห็นว่าข้อมูลทั้งหมดที่ คสช ต้องการและวิธีการให้ได้มาซึ่งข้อมูลคล้ายกับที่พวกมิจฉาชีพทำและใช้ในการทำงาน นี่คือข้อมูลที่ คสช ต้องการโดยการประสานงานพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างให้เกียรติหรือครับ

สะพัด! คลิป"ทักษิณ"ปลุกคนไทยต้านร่างรธน. เปรียบบ้านเมือง เหมือนช่วงล้างเผ่าพันธุ์

สะพัด! คลิป"ทักษิณ"ปลุกคนไทยต้านร่างรธน. เปรียบบ้านเมือง เหมือนช่วงล้างเผ่าพันธุ์

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20:04:14 น.

Credit: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1439643911

แพร่คลิปวีดีโอ"ทักษิณ"พบปลุกแนวร่วมไม่ เอาร่างรธน.ที่ไม่รักประชาธิปไตยเมินโดนถอดยศชี้สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ เลวร้ายสุดตั้งแต่มีประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอบันทึกภาพการกล่าวปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านเว็บไซต์ยูทูบ หัวข้อ "คลิปล่าสุดอดีตนายก ทักษิณ ชินวัตร พูดที่ประเทศฟินแลนด์" เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวในงานร่วมรับประทานอาหารกับคนไทยกลุ่มหนึ่งที่อาศัยในทวีปยุโรป ว่า ถ้าถามว่าวันนี้บ้านเมืองเราเป็นอย่างไร ผมถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา ทั้งที่จริงบ้านเมืองเราพัฒนาไปมากแล้ว แต่ 10 กว่าปีมานี้ถือว่าถอยหลัง ขณะเดียวกันอาจเห็นว่าบ้านเมืองมีความปรองดอง แต่ความจริงยังไม่ใช่ เหมือนเป็นการล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าละอาย แต่คนไทยวันนี้ได้ลิ้มรสประชาธิปไตยมามากแล้ว ได้เห็นความยุติธรรมมามากแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คนไทยก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น และใครทำอะไร พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ส่วนเศรษฐกิจในวันนี้ เราก็รู้กันแล้วว่าผู้มีอำนาจไม่ได้สนใจใดๆ สนใจแต่เรื่องเล็กๆ การแก้ปัญหาของประชาชนไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนค้าขาย เกษตรกร และผู้ใช้แรงงานค่อนข้างถูกละเลย  อีกทั้งเศรษฐกิจขณะนี้มีความน่าเป็นห่วง รวมถึงความเชื่อมั่นและความเชื่อถือต่อประเทศไทยเกิดความเสียหายอย่างมาก เพราะผู้มีอำนาจเอาประเทศเราไปเล่นอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีใครคิดถึงอนาคตของประเทศ คิดกันถึงแต่อดีต นำประเทศกลับสู่อดีต พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ประเทศของเราตอนนี้ได้ย้อนยุคไปแล้ว ตนจึงอยากเห็นบ้านเมืองของเรากลับไปสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง แต่ดูท่าทางร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่จะออกมาถือว่าเลวร้ายที่สุดแล้ว เป็นรัฐธรรมนูญที่คนไทยไม่ยอมรับ ไม่ทำให้ประเทศดีขึ้น จึงอยากบอกให้พี่น้องว่าพวกเราทั้งหลายต้องยึดมั่นหลักการรักประชาธิปไตย รักประเทศไทย และรักความเสมอภาค แต่ถ้าอะไรที่ไม่เข้าตามหลักการเหล่านี้ เราต้องไม่เอา และตนเชื่อว่าไม่มีใครฝืนประชาชนได้ และไม่มีประเทศใดในโลกที่ฝืนจิตใจคนส่วนใหญ่ได้เลย ดังนั้นถ้าทุกคนเข้มแข็ง ก็เชื่อว่าจะช่วยให้ประเทศเรากลับมาเป็นประชาธิปไตยได้เช่นเดิม วันนี้เขาจะมาถอดยศ ถอดกางเกง ถอดอะไรไปหมด ตนก็ไม่ว่าอะไร ตามสบาย อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าคลิปดังกล่าวถูกบันทึกขึ้นที่ไหน และช่วงเวลาใดก่อนนำมาเผยเเพร่

สิ่งที่ผู้กุมอำนาจในระบอบเผด็จการทรราชย์ราชาธิปไตยต้องการ

สิ่งที่ผู้กุมอำนาจในระบอบเผด็จการทรราชย์ราชาธิปไตยต้องการ

Posted on เมษายน 21, 2011by piangdin

สงครามชนชั้นในประเทศไทยแห่งยุคศตวรรษที่ 21 อันได้เริ่มขึ้นในช่วงปลายของการบริหารประเทศชองรัฐบาลที่ประชาชนรักที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ภายใต้การบริหารงานของ ดร. ทักษิณ ชินวัตร นั้น ทำท่าว่าจะยืดยาวกว่าที่ใครหลายคนคิด

ฝ่ายปล้นอำนาจประชาชน รวมตัวกันเพราะผลประโยชน์ หรือความมั่นคงในอำนาจถูกบั่นทอนโดยการเติบโตของการเมืองที่ประชาชนคนรากหญ้าหนุนหลัง การปล้นอำนาจเกิดขึ้นด้วยการวางแผนเป็นขั้นตอน ใช้สื่อที่เสียผลประโยชน์และถูกสั่งได้ คนที่มีชือเสียงที่วังไว้ใจและจงรักภักดีต่อวัง ผ่านเส้นสายขององคมนตรีทั้งคณะ นักการเมืองไร้ฝีมือที่รับใช้อำนาจโบราณเป็นสันดาน ทหารในกำกับของวัง ข้าราชการที่ถูกสร้างให้รับใช้เป็นตีนมือให้กิจของพระราชาตามชื่อ และคนไทยที่หัวอ่อน ถูกล้างสมองมาโดยวัฒนธรรมและระบบการโฆษณาชวนเชื่อนานนับชั่วอายุคน

ฝ่ายประชาชนนั้นเล่า นับแต่ปี 35 เริ่มมีชนชั้นกลางลุกขึ้นมาต่อต้านลัทธิทรราชย์ทหาร ที่พยายามกลับมาเกิด ด้วยการสั่นสะเทือนอำนาจโบราณยังไม่ชัดเจน ความสงบจึงกลับมา พร้อมกับการยอมให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ฉบับแรก ปี 40 ซึ่งนำมาสู่การมั่นคงแข็งแรงของอำนาจทางการเมือง คืออำนาจบริหารและนิติบัญญัติ ที่สามารถมีพลังคัดง้างกับอำนาจเก่าได้ สามารถสร้างความสุขและความหวังให้กับประชาชนระดับล่างที่ถูกสอนให้งมงาย กับค่านิยมพอเพียงของกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในบรรดาราชวงศ์ของโลก

การต่อสู้ที่ผ่านมา ก๊กเทพอสุรทรราชย์ สามารถครองเมืองได้ตามแผนอย่างง่ายดายในระยะแรก เพราะคนไทยยังมึนงง และยังไม่เข้าใจว่าก๊กนี้มีแผนลึกซึ้งขนาดไหน และเป็นอันตรายกับบ้านเมืองขนาดไหน แต่การต่อต้านการรัฐประหารเกิดขึ้นแทบจะทันทีทันใด โดยคนไทยหัวก้าวหน้าจำนวนไม่น้อยที่ไม่หลงกลของก๊กอุบาทว์นี้ การต่อสุ้เคลื่อนไหวต้าน คมช. จึงเกิดขึ้นและขยายลามจนเกิดกระแส ให้พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ซึ่งกลายมาเป็นเพื่อไทยในปัจจุบันนี้ เริ่มกล้าต่อสู้ แม้จะสู้ไปตอแหลรับผลการตัดสินของศาลเหี้ยมาตลอด และรับบทพจมาน แห่งบ้านทรายทอง ช่วงกลางเรื่องอย่างอดทน ยอมให้ถูกตบตีออกหน้าจอ จนคนดูละครเห็นภาพชัดเจนถึงความเลวร้ายของไอ้และอีในก๊กเทพอสูร และแน่นอนว่า พอก๊กอสูรยึดอำนาจคืนได้ หลังจากหลงพลาดปล่อยให้เสียคืนกลับไปเพื่อไทยภายใต้การกุมบังเหียนของอดีตนายกหัวใจสีน้ำเงินผุ้รักความยุติธรรม ท่านสมัคร สุนทรเวช พวกมันจึงคิดได้ว่า นับแต่นั้นตลอดมาแจะต้องหน้าด้าน จะต้องรีบรวบอำนาจทุกด้าน ต้องประสานงานกันเข้มแข็ง ใส่ร้ายฝ่ายประชาชนและพรรคของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ไม่กลัวว่าจะค้านสายตาคนไทยหรือต่างประเทศเพียงใด และเมื่อการยุบพรรค การกลั่นแกล้ง และการอ้างพระราชบารมี ไม่ช่วยให้ชนชั้นกรรมกรและชนชั้นล่างหงอได้ แถมยังเติบโตแล้วดึงคนชั้นกลางจำนวนมากเข้าร่วมขบวนการที่พัฒนาเป็นคนเสื้อแดงที่นับวันยิ่งแกร่งกล้า บังอาจสำแดงพลังอย่างน่าหวั่นไหวสำหรับอำนาจเก่า เขาจึงเล่นบทชัดเจนขึ้น โดยประกาศว่า ฉันอยู่ข้างเสื้อเหลืองนะยะ แดงจะตายไปก็ตายไปแบบไพร่ ฉันไม่สนย่ะ นั่นยังไม่พอใจพวกเขา ปีถัดมาเลยกะฆ่าแบบเย้ยหยัน ว่าอย่ามายุ่งกับม้านั่งและอำนาจของกู ยิงธรรมดาไม่ยิง เล่นเอาสไนเปอร์มายิงแบบยิงหมา เพื่อข่มให้คนเสื้อแดงรู้ว่า อย่าบังอาจ

แต่เสื้อแดงมาไกลเกินกว่าจะถอยกลับ และความเลวร้ายของก๊กเทพอสูร ก็มากเกินจะยอมรับได้ ยิ่งดูตัวเลขทางเศรษฐกิจ ดูพัฒนาการทุก ๆ ด้านของการพัฒนาประเทศที่ดิ่งลงเหว ที่ขัดกับภาพการกระแดะและหน้าด้านของรัฐบาลประชาวิบัติที่จีบปากจีบคอพ่นคำเท็จออกหน้าทีวีทุกวัน ประชาชนยิ่งตาสว่าง และเกลียดชังก๊กกินเมืองทั้งก๊ก และดูเหมือนว่าการสมานฉันท์มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะไม่มีใครเชื่อสันดานและเล่ห์กลของเทพอสูรและสมุนที่ทำผิดกฎหมายและศีลธรรมกันแบบโจ๋งครึ่ม และกลัวผลกรรมตามทัน หากทิ้งอำนาจ

สงครามนี้ยืดเยื้อด้วยเหตุผลหลักสองสามประการ
หนึ่ง คนกุมอำนาจ มีสันดานหนา ไม่มีทางยอม

สอง คนเสื้อแดง ตามหลังแกนนำที่เน้นแนวรบรัฐสภาอย่างเดียวมานาน จนไม่ได้พัฒนาศักยภาพในการคิด ทำ และประสานงานเคลื่อนไหวเชิงก้าวหน้าที่นำไปสู่ขั้นตอนแห่งชัยชนะเบ็ดเสร็จได้

สาม ผลจากสองข้อที่กล่าวมา ฝ่ายเทพอสูรหาทางชะลอเวลา ลดกระแสฝ่ายเสื้อแดงด้วยวิธีการและหมากกลทุกทางที่ทำได้ ในรัฐสภาให้พรรควิบัติตอแหลและแดกร่วมกับซาตานปากห้อยแห่งแดนอีสาน แนวรบสื่อก็ให้ใช้สื่อของรัฐทุกสื่อทำหน้าที่เอนเอียงอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าสื่อสามานย์อย่างสนธิและคณะจะแตกคอเพราะไม่ได้ผลประโยชน์สมใจ จะปีนเกลียวกัน แต่เรื่องข้อมูลข่าวสารด้านเดียว พวกมันทำได้ไม่แพ้กลุ่มเสื้อแดงที่เติบโตอย่างเป็นระบบเช่นกัน ผ่านนักรบไซเบอร์ที่เข้มแข็ง ประสานกับนักเคลื่อนไหวทุกระดับ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและให้กำลังใจกันอย่างไม่ขาดสาย

จนวันนี้ กระแสปฎิวัติประชาชน ที่ก่อตัวกันมาอย่างมีที่มาที่ไป คือที่ใดมีการกดขี่และความไม่เป็นธรรม ที่นั่นย่อมมีการต่อต้าน และการต่อต้านมันพัฒนามาอย่างมีเหตุผล และในที่สุด หัวหอกก็ทิ่มไปที่บัลลังก์และบ้านหลังใหญ่ของเทพอสูรและอสุรี และลูกหลาน เมื่อสงครามมันถึงจุดที่สองตัวการใหญ่เจอกัน ตอนต่อไปนี้ จงอย่ากระพริบตา

ทีนี้มาดูว่า ผุ้กุมอำนาจในระบอบนี้ ต้องการอะไร?

พวกนี้ไม่ต้องการสร้างอะไรดี ๆ ผมจึงจะไม่ใช้คำว่าสร้าง แต่จะใช้คำว่าทำลาย ให้พี่น้องเอาไปคิดต่อนะครับ

พวกนี้ต้องการทำลายสิ่งเหล่านี้ครับ

• ทำลายแกนนำคนสำคัญ
• ทำลายความสามัคคีของคนเสื้อแดง
• ทำลายการขยายตัวของคนเสื้อแดง
• ทำลายเป้าหมายสำคัญให้คลาดเคลื่อนำจากตัวการสำคัญ ๆ (มีมากกว่าสองตัว)
• ทำลายความชอบธรรมของการต่อสู้ของคนเสื้อแดง
• ทำลายภาพลักษณ์ของเสื้อแดง
• ทำลายขวัญและกำลังใจ
• ทำลายความกล้าหาญและฮึกเหิมของขบวนการเสื้อแดง
• ทำลายความเกรี้ยวกราดที่ตรงจุดปัญหา
• ทำลายโอกาสในการชี้แจง เผยแพร่และเข้าถึงข้อมูล
• ทำลายชีวิตและทรัพย์สิน และมันกำลังวางแผนจะทำอีกครั้ง หากกลรัฐสภาไม่ได้ผล

ดังนั้น สิ่งที่พี่น้องเสื้อแดงต้องทำ ควรเป็นการทำให้เกิดผลตรงข้ามนี้ อย่างเป็นระบบ ขยันขันแข็ง กล้าหาญ และไม่หย่อนอุดมการณ์

โชคดีเถิด พี่น้องเสื้อแดงที่รักเอ๋ย คนไกลบ้าน ขอภาวนาให้พี่น้องจงระดมความกล้าหาญ สติปัญญา และความมุ่งมั่นสามัคคี ตีปัญหาให้ตรงจุดและสร้างยุทธศาสตร์ยุทธวิธีที่ครบคลุมทุกด้าน และนำประเทศชาติไปข้างหน้าได้สำเร็จ โดยไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหายจนเกินไป หากจะเสียหาย ก็จงทำลายก๊กเทพอสุรเสียโดยเร็ว รวบรัด สาธุ

ป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย

ป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย

เป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย 
โพสต์โดย : piangdin 
ID # 786740 - โพสต์เมื่อ : 2009-03-23 23:26:16 _ ปิดข้อความ แก้ไข

"เป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย"

เมื่อเรือขาดน้ำ เรือก็เดินไม่ได้
เมื่อศาลเจ้าขาดคนสักการะ มันก็แค่บ้านไม้เก่า ๆ รอวันผุพังเลือนหาย
เมื่อประชาชน ไม่กลัวรถถังและอาวุธ ความน่าเกรงขามของทหารก็หายไป
เมื่อประชาชนไม่ยอมรับความยุติธรรมของศาล ตุลาการทั้งยวงก็เสื่อม
เมื่อประชาชนไม่ยอมก้มหัวให้อำมาตย์ อำนาจเถื่อนก็เสื่อมสลาย
เมื่อประชาชนไม่ยอมนิ่ง เสียงที่เคยดังของอำมาตย์ก็ถูกกลบ
เมื่อประชาชนไม่สนคำสั่งเถื่อนของผู้ปกครอง คำสั่งก็ไม่ต่างจากสั่งน้ำมูก
เมื่อกฎหมายถูกใช้ไม่เสมอภาคและไม่เป็นธรรม ประชาชนจะปฎิเสธให้กฎหมายเหลือแค่กระดาษ
เมื่อวันนี้ ประชาชนเขาไม่ยอมรับระบอบเผด็จการ ระบอบจักอยู่ได้อย่างไร
เมื่อนักการเมืองไม่ได้อยู่ในหัวใจของประชาชน จะมีสิทธิบริหารบ้านเมืองได้อย่างไร
แม้แต่พระเจ้าก็ไม่มีปัญญาบังคับมนุษย์ทุกคนให้นับถือได้
แล้วจะมีการบังคับใด ๆ ได้ผล ในเมื่อหัวใจเสรีประชาธิปไตย มันไม่เอาเผด็จการแน่แล้ว

คิดดูให้ดีแล้ว ท่านจะร่วมมือกับประชาชน ในการอภิวัฒน์สังคม
หรือจะฝืนกระแสธรรมชาติ แล้วออกมาต่อต้านฆ่าฟันประชาชน
การใช้อำนาจเถื่อน จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อประชาชนยังโง่และยอมให้กดขี่
แต่เมื่อใดประชาชนตื่นแล้ว ถูกปลุกจากการมอมเมาแล้ว
ท่านจะไม่มีทางทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเมื่อวานได้

วันนี้ สถาบันและกลุ่มคนเหล่านี้ ต้องคิดทบทวนให้ดีแล้วครับ

พระมหากษัตริย์ 
รัฐบาลเทพประทาน 
ตีนมือ คมช.
ทหาร ตำรวจ 
PAD 
สื่อ นักวิชาการและ NGO หลงหลักจรรยาบรรณ
ข้าราชการและนักการเมืองทุกกลุ่ม

จะเล่นงานประชาชน โดยรวมหัวกันกดขี่ประชาชนแน่หรือ?
แผ่นดิน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่งนะครับ 
ระวังจะไม่มีแผ่นดินอาศัยและฝังร่างนะครับ 

ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"

Saturday, May 2, 2015

ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"

ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"

เมื่อสี่ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมาผมได้คิดทฤษฎีที่จะช่วยอธิบายปรากฏการณ์การต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตย แล้วก็เกิดวลี มดแดงล้มช้าง  เพื่อหาทางปลุกใจให้ประชาชนลุกขึ้นมาสู้ด้วยตัวเอง  วันนี้เหตุผลที่ประชาชนต้องสู้เอง ได้ปรากฏชัดเจนสมบูรณ์แล้ว

• ดร.ทักษิณและตระกูลชินวัตร ถูกเจ้ากดหัวไว้เกือบสนิทแล้ว (แต่...อิ ๆ คนอย่างดร.ทักษิณ หมอบราบจริง)
• พรรคเพื่อไทยไม่แตกก็เหมือนแตก  นักการเมืองที่มีบารมีก็เหมือนลูกไก่ในกำมือเผด็จการ
• แกนนำนปช. เปลี่ยนจากผู้ชี้นิ้วบงการแทนประชาชน เป็นผู้อ้อนวอนและขอเมตตาจากผู้เข่นฆ่าคนเสื้อแดง และปล้นอำนาจอธิปไตยของคนทั้งชาติไปครองอย่างย่ามใจ
• เครือข่ายของเจ้าเข้มแข็ง ยิ่งใหญ่และมุ่งมั่นจะล้มล้าง ระบอบประชาธิปไตย โดยอ้างว่า ต้องทำลายระบอบทักษิณที่ชั่วร้าย อย่างไม่ลดละ   แถมมีพลังทำลายล้างแบบครบวงจร ยากที่ใครคนใดคนหนึ่ง จะลุกขึ้นมานำทัพแบบชัดเจนได้ (อันที่จริง เมื่อทักษิณไม่สามารถทำได้แล้ว ที่เหลือก็จะอ่อนพลัง หรือกระจัดกระจาย ต้องใช้เวลาสะสมบารมีและกำลังพอสมควร)
• การต่อสู้ในประเทศไทย ไม่ใช่ระหว่างคนสองตระกูล หรือแค่ทุนศักดินาและเครือข่าย กับ ทุนใหม่ เท่านั้น แต่ได้พัฒนาให้เห็นว่า เป็นสงครามชนชั้นระหว่างกลุ่มศักดินาและทุน กับ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ  วันนี้ เป็นการเผชิญหน้ากันอย่างชัดเจนแบบไม่ต้องปิดบัง ระหว่างสองชนชั้น 

และแน่นอนว่า เมื่อสงครามชัดเจนแล้ว และในสภาพที่เผด็จการสำแดงอำนาจเผด็จการของพวกเขาเต็มที่ ประชาชนจะต้องถูกแบ่งแยก ข่มขู่ กดทับ ขูดรีด และทำให้ไม่สามารถรวมตัวกันได้ง่าย ๆ อย่างถึงที่สุด ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องหาทางสู้ โดยประชาชนแต่ละคนที่มีจิตสำนึกต่อต้านการครอบงำของเผด็จการต้องร่วมรับผิดชอบอย่างแท้จริง ด้วยการ

• ไม่นิ่งเฉย 
• ไม่หยุดการรับข่าวสารใหม่ และเรียนรู้
• ไม่กลัว 
• ไม่ท้อ 
• ไม่หลบหนี 
• ไม่ทำลายกันเอง คือ ไม่หลงเกม ตกเป็นเครื่องมือของเผด็จการที่ต้องการสลายพลังประชาชน 
• ไม่หยุดที่จะหาทางต่อรอง ต่อต้าน ต่อสู้ และโจมตี เพื่อทำลายความชอบธรรม (จอมปลอม) ของเผด็จการ ด้วยวิธีการที่ชาญฉลาด
• ไม่หยุดการสานเครือข่าย ขยายความรู้ ประสานความร่วมมือ และเตรียมการลุกฮือ เพื่อล้มช้างในวันนัดหมาย
• ไม่งอมืองอเท้าให้ใครมาอ้างการนำ โดยประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมวางกรอบและใส่รายละเอียดของเป้าหมาย วิธีการต่อสู้ และการสร้างอนาคตที่ถาวร
• ไม่หยุดการพัฒนาวิธีการต่อสู้ และยกระดับให้สูงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการไม่ยอมรับ ไม่ยอมให้ปกครอง และไม่ยอมให้ปกครองต่อ แล้วนำไปสู่การยึดอำนาจมาเป็นของประชาชน เพื่อสร้างชาติใหม่

สรุปสาระสำคัญที่สุด อันเป็นความจริงที่ประจักษ์ต่อหน้าเราทุกคนก็คือ เราจะต้องเลิกเล่นบทผู้ดู หรือผู้อยู่นิ่งเฉย ไม่รับรู้ ไม่รับผิดชอบ และไม่ลงมือทำอย่างจริงจัง แล้วต้องถือเป็นภารกิจส่วนตัวที่จะต้องทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่ตนเองจะทำได้ แล้วขณะเดียวกัน ก็ยื่นมือออกไปประสานกับเพื่อนพ้องน้องพี่รอบตัว ที่เข้าใจปัญหาบ้านเมืองตรงกัน และอยากจะมีส่วนช่วยกันแก้ไข...

ไม่มีใครอื่นที่จะรับหน้าช่วยเหลือแล้วทำให้สำเร็จ เป็นพระเอกขี่ม้าขาวดอก มองในกระจก ที่คุณเห็นนั่นแหละ ที่เป็นพระเอกและนางเอก ที่แท้จริง  หากคนที่ท่านเห็นในกระจก ไม่ทำอะไรเลย หรือทำอะไรที่ไม่มีผลที่จะสานไปสู่ผลคืบหน้าในภารกิจใหญ่ของการปฏิวัติประเทศเลย เราก็จะไม่มีทางสู่ชัยชนะได้อย่างแท้จริง ...

ลุกมาเป็นนักปฏิวัติ เอาชนะสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง กู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมืองใหม่กันเถิด เพื่ออนาคตที่ดีกว่าในยุคพวกเรา และเพื่อลูกหลานเหลนของพวกเราในระยะยาวสืบไปชั่วนานแสนนาน

ย้อนอ่านความคิด ดร.เพียงดิน เมื่อหนึ่งเดือน หลังการรัฐประหาร 2549

Ad By: .

และหากฟ้าจะต่ำ ก็เพราะฟ้าลดองค์ลงมาเล่นการเมืองซะมากกว่า จากคุณ : piangdin  เห็นข้อความนี้แล้วทนไม่ได้ ไม่คิดว่าคนไทย จะกล้าเขียนข้อความเช่นนี้ จากคุณ : เห็นข้อความนี้แล้วทนไม่ได้ - [ 4 ต.ค. 49 05:35:44A:84.197.48.74 X: TicketID:105576 ]

---

ความคิดเห็นที่ 1   http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H4762524/H4762524.html  จากคุณ : ตามไปอ่านกันเอง - [ 4 ต.ค. 49 05:38:05 A:84.197.48.74 X: TicketID:105576 ]

ความคิดเห็นที่ 2   สงสัยคุณ piangdin อ่านหนังสือของ Paul Handley มากเกินไป เชื่อเป็นตุเป็นตะได้ยังไงน้่อ...ป่านนี้เจ้า Paul มันนั่ง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วเนี้ย (ที่ตูโม้ ๆ ผูกเรื่องขึ้นมามั่ว ๆ ดันมีคนทำให้ดูเหมือนว่ากลายเป็นจริงได้ ดวงมันแรง ) อิจฉามัน สงสัยหนังสือคงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า กลายเป็น reference ที่น่าเชื่อถือให้คนที่สนใจเรื่องการเมืองไทยทุกคนต้องอ่าน ยิ่งกว่างานของ เดวิด วัยอาจ หรือ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ  ตอนนี้มันคงถือว่ามันเป็น authority ไปแล้ว เห็นวันก่อนออก CNN ด้วย คิดแล้วแค้นใจจริง ๆ ฮึ เรื่องของไทยแท้ ๆ ปล่อยให้ฝรั่งเอาไปสร้่างชื่อเสียง ทำมาหาเงินได้ยังไง  อ่อ อีตา McCargo ด้วย ทฤษฏีมั่ว ๆ ของเฮียแก ที่นักวิชาการใหญ่แห่งรัฐศาสตร์เมืองไทยโจมตีว่าเลื่อนลอย..ดันออกมาตรงกับ สถานการณ์ที่เกิดขึ้ันจริงอีกละ เซ็งจริง ๆ สงสัยจะเล่นของตอนนั่งเขียน paper หรือใช้หมอดู ET เป็นที่ปรึกษา เป็นฝรั่งแท้ ๆ ดันเดาเก่งกว่าพวกนักวิชาการไทย เฮ้อ.. ทฤษฏีมั่ว ๆ ดัน หวยออกได้ ..ไม่เข้าใจ ฟันธงว่า..เล่นของ ชัวร์.. ส่วน จขกท ลองอ่านนี่ดูครับ ------------------------ ลองอ่าน http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H4750692/H4750692.html http://www.nytimes.com/2006/09/25/world/asia/25thailand.html?ex http://www.asiasentinel.com/index.php?option=com_content&task=view&id=153&Itemid=34 http://news.independent.co.uk/world/asia/article1747157.ece ใครว่างลองช่วยแปลบทความของ Duncan McCargo เป็นภาษาไทยออกมาหน่อยสิครับ ( Network Monarchy / Network Monarchy strike back ) อ่านแล้วซี๊ดปาก ว่าทำไมมันตรงจั๋งนี้..จะเอาไปให้พวกรากหญ้า เอ๊ย รากแก้ว อ่านหน่อย  ปล. เป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น..ขำ ๆ นะ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 49 08:24:01 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 49 06:22:42 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 49 06:20:50  จากคุณ : B.F.Pinkerton   - [ 4 ต.ค. 49 06:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3   ครานี้ ประเทศเรา อาจก้าวออกไปในบางแง่ก้อได้นะเนี่ย  จากคุณ : V for Vendetta (PaLLMtOgO)  - [ 4 ต.ค. 49 06:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4   ไม่อยากพูดการเมือง  แต่ไม่อยากเห็นแบบนี้  เลือกตั้งไปทำไหม  จัดตั้งไปก็แล้วกันเนาะ ง่ายดี สงสารประเทศไทยสุดหัวใจ อดภาคภูมิใจมาตลอด  มีแต่เพื่อนชาติชาติยกมือให้ว่าประเทศยู  เดินทางมาถูกทาง  งัยวันนี้ หลงทาง  ขอหลบหน้าคนไปก่อน  จากคุณ : ดอกจานในแดนซากุระ  - [ 4 ต.ค. 49 07:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5   หน่วยกล้าตายเยอะดีแฮะ พักนี้.. Voila! In view, a humble vaudevillian veteran, cast vicariously as both victim and villain by the vicissitudes of fate. This visage, no mere veneer of vanity, is a vestige of the vox populi, now vacant, vanished. However, this valorous visitation of a bygone vexation stands vivified, and has vowed to vanquish these venal and virulent vermin vanguarding vice and vouchsafing the violently vicious and voracious violation of volition. The only verdict is vengeance; a vendetta held as a votive, not in vain, for the value and veracity of such shall one day vindicate the vigilant and the virtuous. Verily, this vichyssoise of verbiage veers most verbose, so let me simply add that it's my very good honour to meet you and you may call me V. วันที่ 5 พฤศจิกายน ใกล้เข้ามาแล้วนะฮะ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 49 08:02:45 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 49 07:29:29  จากคุณ : shory   - [ 4 ต.ค. 49 07:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6   สงสัยอมยิ้มจะถึงฆาตเสียแล้ว  จากคุณ : ช่างไฟ   - [ 4 ต.ค. 49 07:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7   เคารพความคิดเห็นคนอื่นนะครับ แต่คุณ piangdin น่าจะคิดไว้แต่ในใจนะครับ ผลที่เกิดจากการระบายความในใจอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบทางใจของคนอื่นได้เยอะทีเดียวนะครับ  แล้วอีกอย่างนึงกรรมมีจริงนะครับ  จากคุณ : Nuihahey  - [ 4 ต.ค. 49 08:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8   พวกหัวก้าวหน้ายุค 2475 กลับชาติมาเกิดหรือไงหว่า ถึงคิดจะล้มล้างสถาบันกันอีกแล้วเนี่ย  จากคุณ : ....4จุด   - [ 4 ต.ค. 49 08:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 9   ^ ^ ^ เข้ามาช่วยยืนยันตาม คห. 7 ว่ากรรมมีจริงคะ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 49 09:12:33  จากคุณ : AntiVirus   - [ 4 ต.ค. 49 09:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10   คุณ จขกท ไม่น่าตัดคัดลอกข้อความคุณเพียงดิน มาแค่ประโยคเดียวแบบนี้นะคะ เขาไม่ได้เขียนแค่นั้น  ไม่ได้เห็นด้วยกับคุณ เพียงดิน ทั้งหมด แต่การตัดข้อความมาแบบนี้ยิ่งเหมือนมาเสี้ยมกัน จากคุณ : yuy - [ 4 ต.ค. 49 09:25:45 A:121.44.45.32 X:203.28.159.170 TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 11   Agree with K. yuy krub... To be fair with the author, we should read the whole content of the writing.  จากคุณ : amatuer translator   - [ 4 ต.ค. 49 09:45:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12   ก็เพราะว่า คนมัน สันดาน ไม่ดี ก็เลย ต้อง จบแบบ นี้ใครๆ เห็น ก็ ทนไม่ได้ ต้อง ทำอะไร ซักอย่าง อย่างเหตุการณ์ ที่ผ่าน มา เพื่อน ที่เรียน ด้วย กัน ที่อเมริกา ทั้ง จีน และ ฝรั่ง ต่าง เข้ามาถาม ไถ่ เเต่ ต้อง ตกตะลึง พรึงเพริด เพราะ เข้า รู้ ข้อมูล ดี มาก ว่าโกง ยัง ไง ยักยอก ถ่ายเท หุ้น ยังไง ทำไม อเมริกา ถึง เป็นเดือน เป็นแค้น  ก็เพราะว่า ผลประโยชน์ ของ นักธุระกิจ ไทย ใน คราบ นักการ เมือง กับ ปธณ บ้าสงคราม น่ะ ซิ และ เพื่อน ผม ทุก คนต่าง ลงความเห็น ว่า ไม่มีใคร จะ รู้ ถึง ความต้อง การ ได้ ดี เท่ากับ คนไทย ผม ว่า เรา ควร รัก เเละ เดารพ และ ถวายชีวิต ให้ กับ ฟ้า เถอะ ครับ เพราะ ชาติ นี้ ผม หา สิ่งด ประเสริฐ เท่าฟ้าไม่ได้อีก แล้ว  จากคุณ : Atomic Secret (Atomic Secret)  - [ 4 ต.ค. 49 09:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13   กระทู้โดนลบไปแล้ว ว่าแต่อันนี้จะอยู่ได้นานไม๊อ่ะ ถ้าที่เขียนมาเป็นจริง ไม่เห็นด้วยอย่างแรง ขอร้อง จะด่าอะไรก็ด่าไป แต่เล่นของสูง คนไทยอีก 65 ล้านคนรับไม่ได้  จากคุณ : Hotlver   - [ 4 ต.ค. 49 09:54:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14   ...  จากคุณ : Autumn Leaves   - [ 4 ต.ค. 49 10:06:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15   หากเปิดใจกว้างกันบ้าง มองรอบๆ กันบ้าง กระทู้นี้คงไม่มีคนมาตั้ง ข้อความรวมของเขาว่าอย่างไร ไม่เห็นบอกให้หมด อย่าทำตัวเหมือนพวก เอ็กซตรีมซิคะ ที่จับเอาประโยคเดียวของทั้งหน้า มาทำให้เป็นเรื่อง  จากคุณ : mrs.night owl   - [ 4 ต.ค. 49 10:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16   เข้ามาอ่านเฉยๆๆ  กระทู้นี้ .. น่ากลัวจริงๆๆ เลย  จากคุณ : คุณน้องแพร  - [ 4 ต.ค. 49 10:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17   ต้องอ่านข้อความทั้งกระทู้ก่อนครับ ถึงจะวิจารณ์กันได้เหมาะกว่านี้ .. เห็นด้วยว่า  ถ้าคัดข้อความเฉพาะประโยคนี้มา ไม่ดีแน่ ๆ .. แต่ถ้าเจ้าของกระทู้ได้เซฟไว้ทั้งหมด  น่าจะยกมาทั้งหมดนะ  จากคุณ : สามทับหนึ่ง  - [ 4 ต.ค. 49 11:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18   จับ "ใจ"... เสรีภาพทางวิชาการ หายไปไหน...  "แจ้งจับ "ใจ อึ๊งภากรณ์" หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หลังปฏิเสธรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และกล่าวหา "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" เป็นนายกฯ เถื่อน หัวหน้าสำนักงานทนายความทนไม่ได้ เนื่องจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแล้ว" คิดกันยังไงครับ? ผมเคยอ่านงานอาจารย์ใจ แม้จะออกแนวมาร์กซิสต์จ๋า แต่ผมว่าคุณค่าทางวิชาการน่าสนใจและน่าคิดมาก ๆ  ท่านจะดูเฉย ๆ  ให้นักวิชาการถูกรังแกและจำกัดสิทธิต่อไป ในขณะที่สื่อที่เอนเอียง กลับได้รับใบเขียวให้พ่นขยะทางความคิดต่อไป เพียงเพราะมันไม่ต่อต้านระบอบทหาร (เพราะทหารกำจัดศัตรูทางธุรกิจและความคิดของมันออกไป) ให้ปาก หู และตา ประชาชนถูกปิดต่อไป กระนั้นหรือ... ผมเองก็คิดเหมือนอาจารย์ใจ และคนไทยจำนวนไม่น่าจะน้อยที่รู้การเมือง และเข้าใจอะไรที่มากกว่ากรณีทักษิณและการเมืองยุ่ง ๆ ในปัจจุบันนี้ ก็น่าจะคิดเหมือนอาจารย์ใจ นี่แหละครับ สัญญาณแรก ๆ ของ military regime เมื่อถึงต้องลงไม้ลงมือ มันก็จะทำ หากมีคนลุกฮือ..... ผมหวังว่านายกที่ไม่ใช่มาจากการเลือกตั้ง และไม่ได้เป็นพลเรือน จะลง ไปจากตำแหน่งไว ๆ แล้วคืนอำนาจประชาธิปไตยให้ปวงชนเสีย... ประชาธิปไตย  หมายพึงอำนาจสูงสุด เป็นของประชาชนครับ  ไม่ใช่กษัตริย์ ไม่ใช่ทหาร และไม่ใช่นายทุน แต่ฝ่ายเดียว ฯลฯ  พูดไม่ออกครับ...  แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 49 21:47:01  จากคุณ : piangdin   - [ 3 ต.ค. 49 21:27:54 ]    --------------------------------------------------------------------------------               -------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 1    ดึงฟ้าต่ำกันอีกละ เลิกซะทีเถอะ  จากคุณ : Mahtus  - [ 3 ต.ค. 49 21:42:49 ]        ความคิดเห็นที่ 2    เออ... ทักษิน ก็โดนด่า โดนไล่เหมือนกัน  ทำไมไม่แจ้งจับ  จากคุณ : สามทับหนึ่ง  - [ 3 ต.ค. 49 21:50:41 ]        ความคิดเห็นที่ 3    ใครจะดึงได้ล่ะครับ คุณ Mahtus  นอกจากพวกที่ไปฟ้องเรื่องวิชาการ หาว่าดูถูกฟ้า.... และหากฟ้าจะต่ำ ก็เพราะฟ้าลดองค์ลงมาเล่นการเมืองซะมากกว่า.... หรือไม่ก็พวกขันทีดึงพระองค์ลงมาเกี่ยวกับการเมืองเอง... ผมไม่ชอบใจพลเอกเปรม ที่แสดงบทบาททางการเมือง จนทำให้ดูเหมือนสถาบันเป็นขุนบนกระดานการเมืองไทย... นี่นายกยังมาจากทหารเก่าในราชสำนักอีก  ดังนั้น คนที่ดึงฟ้าต่ำก็คือคนในข่ายนี้ต่างหาก นายกเถื่อน คือมาไม่ชอบมาพากลตามกฎหมาย รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนทหารมีสิทธิปฏิวัตินี่ครับ ไม่ได้ให้นายกมาจากการใช้กำลังทหารเข้าสยบแล้วตั้งตนเป็นใหญ่  จะนานไม่นานไม่ทราบได้ ... แต่ผมไม่ต้องการนายกเถื่อนนานเกินเวลาที่เราต้องการสำหรับจัดการเลือกตั้งใหม่  ครับ...  จากคุณ : piangdin   - [ 3 ต.ค. 49 21:52:04 ]  จากคุณ : love actually  - [ 4 ต.ค. 49 12:28:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19   เห็นด้วยค่ะ เรื่องควรคิดในใจ  สาวใหมมาอยู่สวีเดนนานก็ได้รับความคิดการเมืองทางสวีเดนมากเหมือนกับคุณ piangdin ที่อยู่เมกา ถึงเมืองไทยจะโดนข่าวจากพวกที่คิดว่าเป็น "expert" ในด้านนี้ในต่างประเทศ แต่ไงเราต้องคิดว่า เมืองไทยยังเป็นเมืองไทย อยู่ ไม่ใช่เมืองขึ้นใคร  ที่จะเปลี่ยนทำนู้นทำนี้ได้อย่างพวกที่คิดว่าเป็น "expert" คิดว่ามันถูกนี้ ไม่ได้ ควรเดินสายกลางและอ่านข่าวจากที่ไม่มีนักข่าวไม่เขียนความคิดตนเองลงมาก  จากคุณ : สาวใหม   - [ 4 ต.ค. 49 13:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20   5555555....หวังว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้คงเป็นฉบับสุดท้ายในชีวิตของปู่นะ หึหึหึหึ ไม่เคยถูกจายกันเสียที ไม่ได้อ่านนสพ.มานานมากเพราะเห็นพาดหัวข่าว ก้อรู้แล้วว่าเชียร์ใคร พวกใคร เราเลยไม่รู้อันใดจริงอันใดเท็จ เหมือนดูลิเก ,ละคร ทำงานไปนานๆสัก10ปีขึ้นไปจะรู้ว่าปัญหาทั้งหลายเกิดจากคนรอบตัว คนเปาะบางทนไม่ได้ก็จะลาออก,คนแกร่ง,เหี้ยมที่ทนอยู่ได้ แต่สุดท้ายก็พบกันที่เมรุทุกคน สาธุ สาธุ.  จากคุณ : D-ZAD. (D-ZAD.)  - [ 4 ต.ค. 49 14:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21   ตอบข้อสงสัยเพื่อน ๆ ที่คิดว่าผมดึงฟ้าต่ำ กรุณาดูคำว่า "หาก" ที่ยกมาเป็นกระทู้ และกรุณาอ่านเจตนาจริง ๆ ของผมในกระทู้ต้นตอ ที่ยังไม่ได้ถูกลบ ณ เวลานี้ครับ   คนเราเห็นต่างกันได้ เป็นธรรมดา แต่ผมเชื่อว่าเรามีเป้าหมายเดียวกัน คือ ประโยชน์สุข สันติ และความก้าวหน้า ของประชาชนชาวไทย  จากคุณ : piangdin   - [ 4 ต.ค. 49 14:54:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22   อ่านจากเนิ้อหาโดยรวมก้อไม่ได้ร้ายแรงอย่างนั้นนี่ครับ เป็นแค่ส่วนนึงในความเห็นโดยรวมที่เป็นตรรกะ ตามกันไป รวมถีงเจตนา ไม่ได้ให้ร้ายหรือจงใจจะหมิ่นเบื้องสูงแต่ประการใด ปล shory,, เพิ่งเคยเห็นบทเรื่อนั้นจริงๆก้อคราวนี้ ที่แรก ฟังบางบทไม่รู้เรื่อง เลยโทษสำเนียงอังกฤษ ตอนนี้ เข้าใจแล้ว .... อ่านเอายังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย - -'  จากคุณ : V for Vendetta (PaLLMtOgO)  - [ 4 ต.ค. 49 15:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23   กระทู้ต้นตอถูกลบไปแล้ว  จากคุณ : bunkuru   - [ 4 ต.ค. 49 15:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24   พระองค์ท่านไม่ได้ทรงเกี่ยวอะไรด้วยกับการเมืองเลย แต่มีบางคนบางพวกชอบไปอ้างถึงพระองค์ท่าน จะอ้างในมุมใดก็แล้วแต่ พวกนี้เป็นพวกดึงฟ้าต่ำทั้งนั้น  จากคุณ : Mahtus  - [ 4 ต.ค. 49 16:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 25   กำลังมาโพสท์แบบคุณ Mahtus เลย ดูให้ดีๆครับ พระองค์ท่านทรงเป็นนักประชาธิปไตยครับ ไม่มีทางสนับสนุน coup อย่าไปเชื่อสื่อมาก ต้องดูเอาเอง ละเอียดนิดนึง  จากคุณ : ืnem - [ 4 ต.ค. 49 16:28:52 A:128.171.207.199 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26   มองกลับกันถ้าพระองค์ต่อต้าน coup จริงๆ ทหารไม่ทำหรอกครับ เพราะในอดีตก็เคยหยุดทหารที่คิดจะทำรัฐประหารทักษิณสำเร็จมาแล้ว  จากคุณ : อนุมูลอิสระ   - [ 4 ต.ค. 49 17:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 27   พระองค์ท่านไม่ทรงสนับสนุน และก็ไม่ต่อต้าน เพราะพระองค์ท่านไม่อยู่ในฐานะที่ทำอย่างนั้นได้  พระองค์ท่านอยู่เหนือการเมือง ท่านจึงไม่ยุ่งกับการเมือง รัฐประหาร การเลือกตั้ง ล้วนเป็นสิ่งที่ประชาชน ทหาร ฯลฯ ทำกันเองทั้งนั้น แต่ชอบอ้างถึงพระองค์ท่าน ทั้งๆที่พระองค์ท่านทรงไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยเลย ประชาชน ทหารทำกันเองทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ พระองค์ท่านจึงไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ในทางการเมือง เพราะพระองค์ท่านไม่ได้ยุ่งเกี่ยว ใครรับสนองพระบรมราชโองการ คนๆนั้นก็ต้องรับผิดชอบ เพราะเสนอไปได้อย่างไร ในเมื่อมันไม่ถูกต้อง รัฐประหารใครต้องรับผิดชอบก็ต้องคนที่ทำ ตั้งนายกไม่ดีใครรับผิดชอบก็ไปดูว่าใครเสนอมา จะเห็นได้ว่า เค้าทำรัฐประหารก่อนแล้วค่อยไปกราบทูลในหลวง เค้าหาตัวนายกได้แล้วค่อยไปกราบทูลในหลวง เค้าหาครม.ได้แล้วค่อยไปกราบทูลในหลวง พระองค์ท่านไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองใดๆทั้งสิ้น มีแต่การเมืองเท่านั้นที่ชอบนำพระองค์ท่านมายุ่งเกี่ยว  จากคุณ : Mahtus  - [ 4 ต.ค. 49 18:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 28   #26 คุณกำลังบอกว่า พระองค์ท่านเห็นด้วยกับการปฏิวัติหรือครับ ?  จากคุณ : คุณชินโซ  - [ 4 ต.ค. 49 19:57:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29   พระองค์เป็นประมุขของแผ่นดิน ทรงอยู่เหนือการเมือง  แต่ด้วยพระบารมีล้นเหลือ ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ไม่ดี มีอันตรายต่อบ้านเมือง คนที่จงรักภักดีต่อชาติ และสถาบันสูงสุด จะออกมาช่วยกันปกป้องคุ้มครองรักษาประเทศไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของทรราชย์ แผ่นดินไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่จริง จุดจบของคนที่โกงชาติโกงแผ่นดิน และทรยศต่อสถาบันกำลังใกล้เข้ามา  จากคุณ : - 072648 - [ 4 ต.ค. 49 21:15:58 A:58.64.44.244 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 30   สรุปคือ กระทู้นั้นถูกลบไป  ตอนที่ผมอ่านกระทู้นั้น ผมงงมาก และสงสัยอยากถามคนตั้งกระทู้นั้นอยู่สองสามประเด็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ มีบุคคลหนึ่งรู้สึกว่าคำพูดของบุคคลหนึ่งเข้าข่ายหมิ่น จึงเข้าแจ้งความ  ซึ่งตรงนี้พอมีการแจ้งความ พนักงานเจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้วิจารณญาณ ดำเนินการตามกฏหมาย ส่วนศาลก็ ต้องมีหน้าที่ในการพิจารณาตัดสิน ทุกอย่างมันก็เป็นไปตามระเบียบกฏเกณฑ์อยู่แล้ว ถามว่า ทำไมต้องตื่นเต้น และพยายามเอาเหตุการณ์นี้ไปข้องเกี่ยวกับเหตุผลทางการเมืองรวมถึงผู้นำรัฐบาล เหตุการณ์นี้เกี่ยวอะไรกับที่คุณบอกว่า "นักวิชาการถูกรังแกและจำกัดสิทธิ" ? ถ้านักวิชาการถูกรังแกและจำกัดสิทธิจริงๆ รายการของอาจารย์เจิมศักดิ์เพิ่งเอาเทปรายการเก่าปี 38 ออกมา re-run ให้ชาวบ้านดู แล้วในรายการวันนั้น ผู้เข้าร่วมรายการหนึ่งในนั้นคือ พล.อ.สุรยุทธ์ที่แสดงออก ชัดเจนว่า ทหารไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องอะไรกับอำนาจทางการเมือง เสร็จแล้วรายการ (ในปัจจุบัน)นั้นก็ มีการพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุ และความเหมาะสมของนายกคนที่ 24 ท่านนี้อย่างรอบด้าน ถ้านักวิชาการถูกรังแก และจำกัดสิทธิจริงๆ อาจารย์เจิมศักดิ์ ไม่ต้องปิดรายการไปแล้วเหรอครับ ? ในกระทู้ของคุณ คุณใช้คำว่า "สื่อที่เอนเอียง....พ่นขยะทางความคิด" แล้วคุณจะพิจารณาการเขียนข้อความ ของคุณในเวปสาธารณะอย่างพันทิบ อย่างไร ?  "นี่แหละครับ สัญญาณแรก ๆ ของ military regime เมื่อถึงต้องลงไม้ลงมือ มันก็จะทำ หากมีคนลุกฮือ....." ตรงนี้อันตรายมาก คุณคิดเองเออเอง ประเทศไทยตอนนี้(ถ้าไม่นับภาคใต้ )สงบเรียบร้อยมาก จะมีก็แต่ การไม่ไว้ใจของนักลงทุน และประชาชนในแง่ที่ว่า ทักษิณจะกลับมาฟื้นคืนชีพในระบบได้อีกหรือเปล่า  "ประชาธิปไตย หมายถึงอำนาจสูงสุด เป็นของประชาชนครับ ไม่ใช่กษัตริย์ ไม่ใช่ทหาร และไม่ใช่นายทุน" ตรงนี้ผมสงสัยว่าคุณกำลังจะบอกอะไร ผมถามคุณหน่อยนะ ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบอะไร? ประโยคนี้คุณต้องการ suggest อะไรกันแน่ ? คุณกำลังจะบอกอะไรกันแน่ ? ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- กระทู้นั้นที่คุณตั้งขึ้นมา ด้วยความเคารพ ผมอยากบอกว่า ผมเสียใจ เสียใจที่มีสมาชิกพันทิบเข้าไปออกความเห็น ในลักษณะสนุกสนาน เพื่อแค่จะเอาชนะกันทางอารมณ์ ทั้งๆที่หัวข้อและเนื้อหาของกระทู้แล้ว มันไม่เหมาะสมเลย กับการสร้างกระแสแบบนี้ ถ้าพวกคุณรักกันจริง ควรจะเตือนกัน หลังไมค์หากัน เตือนกันว่า กระทู้ของคุณไม่เหมาะสมนะ ตรงนี้ๆนะ สมาชิกควรจะช่วยกัน สร้างมาตรฐานในการแสดงความเห็นบนเวปบอร์ดนี้ให้เป็นที่ๆใช้ประโยชน์ได้จริงๆ ไม่ใช่อย่างที่ผมเห็น คือพอใครมีความเห็นไปในทางของตัวเอง ก็เฮด้วย แต่ถ้ามีการต่อต้านกันขึ้นมาจากคนอื่นๆ ก็เอาตัวรอดก่อน พลิกลิ้นหนีก่อนก็เอา  ผมว่ามันน่าสมเพส  จากคุณ : - 072648 - [ 4 ต.ค. 49 21:39:46 A:58.64.44.244 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 31   ไม่ครับ  ผมไม่ได้จะบังอาจจาบจ้วงบอกว่า พระองค์ท่านทรงเห็นด้วยกับการปฏิวัติ เพราะผมไม่ทราบได้ว่าพระองค์ท่านทรงคิดอย่างไร แต่พระองค์ท่านทรงมีพระราชอำนาจในการให้คำปรึกษาแก่ผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ซึ่งก็ได้ทรงใช้อยู่บ่อยครั้ง ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถ ด้วยความที่ทรงเป็นเหมือนพ่อแห่งปวงชนชาวไทย ที่ได้ช่วยชาวไทยให้พ้นจากวิกฤติทางการเมืองมาหลายครั้ง  ตัวอย่างล่าสุดก็การที่พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 25 เมษา ที่พระราชทานให้คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด โดยทรงแนะให้ทางฝ่ายตุลาการช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้น โดยกระบวนการศาล และหลังจากนั้นคณะผู้พิพากษาก็ได้ร่วมมือกันหารือหาทางแก้ไขปัญหา จนได้ข้อสรุปว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษา เป็นโมฆะ ตลอดจนมีการตัดสินว่า กกต. ทำความผิดจริง ผมเห็นว่าการจะบอกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงยุ่งกับการเมืองนั้น เป็นการลำเลิกพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ต่อบ้านเมืองตลอดมา ไม่ว่าจะในวิกฤติของบ้านเมือง เช่น ตอนที่ทรงมีพระราชดำรัสให้กำลังใจนักศึกษาเมื่อครั้งเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ หรือเมื่อครั้งพฤษภาทมิฬที่ทรงโปรดเกล้าให้พล ต. จำลอง และ พล อ. สุจินดา เข้าเฝ้า ตลอดจนคำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศที่ทรงให้แก่รัฐบาลตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาเกษตรกรรมในประเทศไทย การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม หรือทฤษฎีเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พระราชดำรัสของพระองค์ทุกวันเฉลิมฯ ทุกปีใหม่ ก็เกี่ยวกับการบริหารบ้านเมืองให้สงบร่มเย็นมาโดยตลอด ฟ้าท่านเล่นการเมืองมาโดยตลอด แต่การเล่นการเมืองไม่ได้ทำให้ท่านต่ำลง แต่ทำให้ท่านสูงขึ้นต่างหากครับ "แต่ว่าความจริงก็จะต้องวิจารณ์เหมือนกัน แล้วก็ไม่กลัวถ้าใครจะวิจารณ์ว่าทำไม่ดีตรงนั้นๆ จะได้รู้ เพราะถ้าบอกว่าพระเจ้าอยู่หัวไปวิจารณ์ท่านไม่ได้ ก็หมายความว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่เป็นคน ไม่วิจารณ์เราก็กลัวเหมือนกัน ถ้าบอกไม่วิจารณ์ แปลว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ดี" พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 4 ธันวาคม 2548  จากคุณ : อนุมูลอิสระ   - [ 4 ต.ค. 49 21:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 32   คุณอนุมูลอิสระ อธิบายได้ใกล้เคียงกับที่ผมคิดครับ เราอย่ามัวหลงมองอะไรที่ใสสุดโต่งกันหน่อยเลยครับ การเล่นการเมืองนั้น ไม่ว่าสถาบันไหนก็เลี่ยงไม่ได้ แต่จะเล่นระดับไหน เหนือ บน ตรงกลาง หรือถูกเขี่ยไปอยู่ข้างล่าง ใครมีอำนาจ มีความเชื่อถือเป็นทุนสูง หรือมีปัจจัยส่งมาก ก็มีโอกาสเลือกตำแหน่งที่จะเล่นได้ง่าย  เมื่อเล่นแล้ว ก็ต้องยอมรับผลล่ะครับ มนุษย์ที่เกิดแก่เจ็บตายทั้งมวล ย่อมหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้นครับ นี่คือสิ่งที่อยากบอก  และเมื่อเข้าใจหลักกว้าง ๆ อันนี้แล้ว เราก็มามองกันต่อว่า การเมืองที่ผ่านมา ที่ยุ่งเหยิง วุ่นวาย กันเป็นช่วง ๆ นี้ ใครเป็นผู้เล่นสำคัญบ้าง แล้วมี pattern ที่มองออกไหม แล้วสิ่งที่ดำเนินอยู่นี้ เป็นความจำเป็น หรือเป็นหมากทางการเมือง (การช่วงชิงอำนาจ และโอกาสในการใช้อำนาจ)  สิ่งเหล่านี้ หากคิดในกรอบที่เชื่อเสียแล้วว่า คนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นั้น ถูกต้อง บริสุทธิ์ แตะต้องไม่ได้ (เช่น แม้แต่องค์มนตรี ที่เคยเป็นนายกที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่อาศัยพูดน้อย ไม่บริโภคเกินงาม ผู้ซึ่งได้อาศัยตำแหน่งนี้ มาสร้างกระแสทางการเมือง หรือเล่นการเมืองเต็มตัว) เสียแล้ว มันก็จบกระบวนการทางวิชาการ หรือกระบวนการสร้างความฉลาดของพลเมือง ซึ่งผมถือว่า เป็นอันตรายยิ่ง ต่อความก้าวหน้าของระบอบประชาธิปไตย...  จากคุณ : piangdin   - [ 4 ต.ค. 49 22:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 33   คุณ 072648 ครับ ผมรับผิดชอบสิ่งที่ผมเขียนเอง คนอื่นไม่ต้องมาเห็นด้วย และผมเขียนด้วยเจตนาบริสุทธิ์ของผมเอง ผมยอมรับผลใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น ด้วยตัวผมเอง หากใครจะเตือน ผมจะรับฟัง มีใครแจ้งลบ ผมก็ไม่ว่า แต่ผมขอยืนยันสิทธิในการแสดงความคิดเห็นตามระบอบเสรีประชาธิปไตยครับ  คำว่า 'นักวิชาการถูกรังแกและจำกัดสิทธิ" นั้น น้อยไปครับ คนไทยทุก ๆ คน ที่มีใจใฝ่เสรี และอยากแสดงความคิดเห็นทางการเมืองนั่นแหละครับ ถูกรังแก   คนที่ไม่เห็นคุณค่าของ Freedom of speech นั้น ย่อมจะไม่เข้าใจเจตนาของผมได้ลึกพอที่จะมองข้ามรายละเอียดจิ๊บจ๊อยได้หรอกครับ ซึ่งผมเข้าใจและไม่ได้ถือสา เพราะคนเราคิดเห็นต่างกันได้  อาจารย์เจิมศักดิ์เป็นใคร อยู่ฝ่ายไหน สนธิ (ผู้จัดการ) เป็นใคร อยู่ฝ่ายไหนในช่วงการเมืองวิกฤติ เหล่านี้ ถามเด็กประถมก็ตอบได้นี่ครับ  ทำไมต้องให้ผมอธิบายด้วย และผมก็ไม่สนใจอธิบายด้วย เพราะมันชัดเจนในตัวสำหรับคนที่อยู่วงนอกมองสองฝ่ายตะลุมบอนกัน คุณเป็นคนเห็นไม่ตรงกับผม คุณก็ถามหรือโต้แย้งได้ แต่คุณหยุดให้ผมไม่พูด (เขียน) ไม่ได้ครับ  หากพันทิปเห็นว่า ผมก้าวล่วงแล้วยึดอมยิ้มผม นั่นก็เป็นสิ่งที่ผมต้องยอมรับ  ผมทราบกฎระเบียบดี แต่ผมก็ยืนยันในสิ่งที่ผมเชื่อ --- "นี่แหละครับ สัญญาณแรก ๆ ของ military regime เมื่อถึงต้องลงไม้ลงมือ มันก็จะทำ หากมีคนลุกฮือ....." ตรงนี้อันตรายมาก คุณคิดเองเออเอง ประเทศไทยตอนนี้(ถ้าไม่นับภาคใต้ )สงบเรียบร้อยมาก จะมีก็แต่ การไม่ไว้ใจของนักลงทุน และประชาชนในแง่ที่ว่า ทักษิณจะกลับมาฟื้นคืนชีพในระบบได้อีกหรือเปล่า  ------ เชิญคุณคิดพอใจใต้ระบบที่ทหารกลับมาอย่างพระเอกต่อไปเถิดครับ วันที่ลูกหลานคุณหลั่งเลือดเพราะทหารถูกนำมาใช้กำหราบคนบริสุทธิ์ที่เรียกร้องประชาธิปไตยในวันที่ประเทศชาติหลงลึกไปในมนตร์เกือกบู๊ตและกลุ่มพันธมิตรผู้เกาะกลุ่มกันดูดเลือดประเทศ ฯลฯ วันนั้น คุณจะรู้ว่า การให้สิทธิทหารกลับมาในแบบที่หลายฝ่ายทำกัน ตั้งแต่ระดับบนจนถึงกลางนั้น คนที่จะเจ็บปวดเพราะกรรมนี้ ก็จะเป็นคนพวกนี้แหละครับ คอยดู.... ----- "ประชาธิปไตย หมายถึงอำนาจสูงสุด เป็นของประชาชนครับ ไม่ใช่กษัตริย์ ไม่ใช่ทหาร และไม่ใช่นายทุน" ---------- คุณอ่านภาษาไทยเหมือนผม ผมคงไม่ต้องอธิบายดอกครับ  ย้ำว่า อำนาจประชาธิปไตย ไม่ใช่ของ ไม่ใช่กษัตริย์ ไม่ใช่ทหาร และไม่ใช่นายทุน" ฝ่ายเดียว (คุณคัดมาไม่หมดครับ) ขอบคุณนะครับที่แสดงความเห็นต่อความเห็นของผม ผมอธิบายเท่าที่เห็นว่าจำเป็น และผมขอยืนยันในสิทธิที่จะแสดงจุดยืนและเจตนาของผม ที่ไม่มีประโยชน์ทางการเมือง ผมไม่สังกัดพรรคการเมืองใด ไม่เกลียดสถาบันใด ไม่หลงสถาบันใด แต่ผมจะมีเอนเอียงบ้าง ก็ตรงที่ ผมเห็นว่า คนทุกคนในผืนแผ่นดินไทย ควรมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยตัวแทนประชาชนทั้งหมด ไม่ใช่ฉบับที่ร่างโดยอำนาจที่ได้มาจากการปฎิวัติ  โดยผู้ที่ใช้รถถังและอำนาจลึกลับ ตลอดจนการเล่นเล่ห์ทางการเมืองของชนกลุ่มอภิสิทธิ์ในบ้านในเมือง สวัสดี  จากคุณ : piangdin   - [ 4 ต.ค. 49 22:41:33 ]

ความคิดเห็นที่ 34   ตอบได้ตรงจุดครับ ผมว่าเรื่องแบบนี้ คนที่ปิดใจจะไม่เชื่อ ต่อให้เห็นต่อหน้าจะ ๆ ก็คงคิดว่าเป็นภาพหลอน เป็น mirage ไม่ใช่ของจริง แต่ก็ให้กำลังใจที่อุตส่าห์เขียนออกมา อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นข้อมูลกลาง ๆ ที่จะเอาไว้ให้คนที่เขาอยากจะหัดคิด ได้เอาไ้ว้ใช้ประกอบได้  อย่างน้อยสังคมไทยก็จะได้รู้ว่า มีคนกลุ่มใหญ่ ๆ บางส่วนล่ะ ที่คิดแตกต่างออกไป  เห็นด้วยกับคุณ piangdin , อนุมูลอิสระ และสมาชิกท่านอื่น ๆ ที่อยู่ในแนวทางนี้  จากคุณ : .. (B.F.Pinkerton)   - [ 4 ต.ค. 49 22:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 35   นับถือความคิดของคุณเพียงดิน  จากคุณ : PatPDX  - [ 4 ต.ค. 49 23:01:35 ]

ความคิดเห็นที่ 36   คุณ piangdin  ที่ผมถามคำถามคุณไปในความเห็นที่ 30 คุณได้ตอบอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ? คุณเข้าใจคำถามหรือเปล่า? และที่สำคัญ โปรดอย่าแปะป้ายว่าผมไปสนับสนุนรัฐบาลทหาร ถ้าคุณอ่านที่ผมเคยเขียนๆมาแล้วสรุปได้แค่นี้ ผมจะไม่เสียเวลาอธิบายให้คุณ เพราะถ้าคุณสามารถสรุปอะไรได้ตื้นๆแค่นี้ นั่นหมายความว่าคุณวิเคราะห์ได้แค่นี้ 4 บรรทัดหลัง ในความคิดเห็นที่ 32 ของคุณ คุณกำลังพาดพิงถึงประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษด้วยการดูถูกดูหมิ่น ผมถามว่าคุณยังเป็นคนไทยอยู่หรือเปล่า คุณรู้อะไรเกี่ยวกับการเมืองไทยบ้าง บุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง และจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ คุณยังมาพูดถึงท่านอย่างนี้ได้ คุณไม่รู้สึกละอายใจบ้างเลยเหรอ ?  จากคุณ : - 072648 - [ 4 ต.ค. 49 23:48:16 A:58.64.44.244 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 37   เห็นด้วยกับคุณ piangdin ครับ  เห็นด้วยกับประชาธิปไตย ตามคำจำกัดความ ประชาธิปไตยก็คืออำนาจของประชาชนอยู่แล้ว ไม่เข้าใจว่าคนอื่น อย่างบางความเห็น ไปคิดเป็นอื่นได้อย่างไร ใครเขาต้องการ suggest อะไร ยังไง ในเมื่อนั่นมันเป็นคำจำกัดความของประชาธิปไตยจริง ๆ ภาษาไทย ก็น่าจะอ่านกันออกนี่นา  เห็นด้วยกับคุณอนุมูลอิสระ ชอบส่วนพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่คุณอนุมูลอิสระเชิญมา  จากคุณ : Valence - [ 4 ต.ค. 49 23:50:29 A:72.37.135.13 X: TicketID:106712 ]

ความคิดเห็นที่ 38   คุณ 072648 ครับ ผมตอบคำถามคุณแบบที่ให้คนฉลาดเขาอนุมานจากคำตอบ คุณคิดแค่ไหนอย่างไร เป็นสิทธิส่วนตัวที่คุณจะตีความครับ ผมอธิบายเท่าที่ผมอยากอธิบาย และผมไม่มีอะไรอธิบายต่อแล้วครับ คุณต้องคิดเอาเอง   ส่วนที่ "คน" (****แก้ไขจาก "คุณ") ถามว่าผมเป็นไทยหรือเปล่า ผมไม่ตอบ เพราะไม่จำเป็นครับ ผมเห็นมีคนยกร่างรัฐธรรมนูญไปไว้ที่ผู้จัดการ (ซึ่งผมทนไปอ่าน เพราะเห็นค่าของข้อมูลและการแสวงหาความคิดต่างมุม)  เลยยกมา  ให้สังเกตุข้อสิบสามครับ น่าขัน... ทหารร่างเอง ให้สิทธิตัวเอง... ขำ แต่หัวเราะไม่ออกครับ... มันคัน  ๆ ในใจอย่างบอกไม่ถูก... แล้วคุณ 072648 อาจจะได้เห็นอะไรดี ๆ ในอนาคต หากคนไทยไม่ช่วยกันกำกับรัฐบาลทหารให้ดี...เงาทหารเมื่อฉายบนหัวพลเรือนแล้ว มันสิงนะครับ ไม่ออกไปง่าย ๆ ประวัติศาสตร์สอนเรามาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง ต่างประเทศที่เงาสีเขียวพาดทับ ก็แกะกันไม่ค่อยออก นานเป็นหลายทศวรรษ...   จบดีกว่าครับ ไม่อยากพูดต่อแล้วครับ ... =================== โฉมหน้ารัฐธรรมนูญใหม่ ร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญ (บางส่วน) หมวด ๑ บททั่วไป มาตรา ๑. ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวและประกอบด้วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งรวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะแบ่งแยกมิได้ ๒. ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๓. อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้น ทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่รัฐธรรมนูญนี้ ๔. ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง ๕. ประชาชนชาวไทยไม่ว่าเหล่ากำเนิด เพศ หรือศาสนาใด ย่อมอยู่ในความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญนี้เสมอกัน ๖. รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ๗. ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๘. ประชาชนชาวไทยพึงใช้อำนาจอธิปไตยนั้นด้วยความเสียสละ ด้วยความเป็นศีลเป็นธรรม ด้วยความเป็นคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ๙. ประชาชนชาวไทยพึงใช้อำนาจนั้น โดยการแสดงออกด้วยความตั้งมั่นต่อความซื่อสัตย์ สุจริต และยุติธรรม และพึงเด็ดเดี่ยวกล้าหาญในการที่จะขจัดความ อยุติธรรม ๑๐. ประชาชนชาวไทยและผู้อยู่ในประเทศไทย พึงประพฤติ ปฏิบัติตนหรือใช้สิทธิและหน้าที่ อยู่ในกรอบของกฎหมาย ศีลธรรม จารีตประเพณีอันดีงาม ประกอบสัมมาอาชีพ มีความขยันหมั่นเพียร ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในกิจการงานทั้งปวง และมีความรู้รักสามัคคีต่อคุณงามความดีร่วมกัน ๑๑. หาก กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง คำสอนของลัทธิหรือของศาสนา จารีตประเพณีใด ขัดหรือแย้งต่อศีลธรรม หรือความเรียบร้อย สงบสุข อันดีงามของบ้านเมือง หรือขัดต่อคุณธรรม ไม่มีมนุษยธรรม ไร้ซึ่งจริยธรรมอันดีงาม กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง คำสอนของลัทธิ ทางศาสนา จารีตประเพณีใด ๆ นั้น หาอาจใช้บังคับได้ไม่ กรณีเช่นว่ามานั้นให้ใช้บังคับตลอดต่อกิจการที่เป็นเอกชน หน่วยงานข้าราชการ กลุ่ม สังคม สาธารณชนโดยทั่วไปมิมีเว้นเลย ๑๒. การวัดคุณค่าของมนุษย์ พึงวัดจากความมีศีลธรรม คุณธรรม ความมีจริยธรรม และพึงวัดจากความเสียสละต่อส่วนรวม และจากสิทธิ เสรีภาพของปวงชนเป็นที่ตั้ง กับทั้ง ความประพฤติ การปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของกฎหมาย ศีลธรรม จารีต ประเพณี คำสอนของลัทธิหรือของศาสนาอันดีงาม ๑๓. เมื่อใดที่ผู้บริหารราชการแผ่นดิน ตลอดจนรัฐสภา และองค์กรอิสระ มีการใช้อำนาจ สิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ผิดไปจากบทบัญญัติของกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หรือกฎหมายอื่น ๆ จนเป็นผลทำให้เกิดความไม่สงบสุขต่อส่วนร่วมในประเทศชาติ จนอาจเป็นการทำลายความมั่นคงหรือมิอาจเยียวยาแก้ไขได้ ประชาชน ชาวไทยทั้งหลายทั้งปวง ย่อมมีอำนาจในการใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อกำจัด ปัดเป่า ภยันตรายนั้นได้ตามควรแก่กรณี เช่น การขอให้กำลังทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน เข้าขจัดปัดเป่าภยันตรายนั้นได้ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 49 00:28:06  จากคุณ : piangdin   - [ 5 ต.ค. 49 00:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 39   "ประชาธิปไตย หมายถึงอำนาจสูงสุด เป็นของประชาชนครับ ไม่ใช่กษัตริย์ ไม่ใช่ทหาร และไม่ใช่นายทุน" ประโยคนี้ยกมาเดี่ยวๆ มันก็เป็นแค่นิยามของคำ ไม่ได้มีความหมายใดๆอื่นแฝง ใช่ แต่ที่ผมถามถึงเจตนาเพราะอะไร ? เพราะผมโง่ อ่านภาษาไทยไม่เข้าใจ ? ประโยคนี้มันไปอยู่ในบทสรุปของกระทู้ที่คุณ piangdin เขียนมาทั้งหมด (อ่านได้จากความคิดเห็นที่ 18) ถ้าคุณเขียนวิพากษ์ถึงการเมืองไทยมาทั้งกระทู้ แล้วจบลงด้วยประโยคนี้ มัน imply อะไร? ---------------------------------------------------------------------------------------------------- ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ? ----------------------------------------------------------------------------------------------------------- และที่สำคัญ คุณคือคนๆเดียวกันที่เขียนในความคิดเห็นที่ 3 (อ่านได้จากความคิดเห็นที่ 18 ) คือผมแทบไม่อยากจะ copy ลงมาแปะอีก เพราะผมรับไม่ได้ กับการจาบจ้วงสถาบันฯ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง  คุณไม่รู้จริงๆ หรือคุณแกล้งไม่รู้ว่าตำแหน่งองคมนตรีเป็นมากกว่าตำแหน่งหรือยศ  ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ตำแหน่งองคมนตรีคือ บุคคลที่พระมหากษัตริย์ทรงเลือกและทรงแต่งตั้ง หรือให้พ้นจากตำแหน่งตามพระราชอัธยาศัย  มีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน ซึ่งความเห็นที่ถวายต้องเป็นพระราชกรณียกิจที่พระมหากษัตริย์ทรงปรึกษาเท่านั้น  ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คุณกลับไปทบทวนสิ่งที่คุณพูดทั้งหมดให้ดีๆ ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่  ผมไม่ได้อยากให้พันทิบมายึดอมยิ้มอะไรใครหรอก ถึงยึดไปก็ไม่ได้ปฏิเสธความจริงที่เกิดขึ้น  ผมต้องการให้เวรกรรมได้ทำหน้าที่ของมันมากกว่า มันจะเป็นไปตามที่คุณบอกว่า คุณจะรับผิดชอบสิ่งที่คุณพูด  จากคุณ : - 072648 - [ 5 ต.ค. 49 00:36:48 A:58.64.44.244 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 40   "ผมต้องการให้เวรกรรมได้ทำหน้าที่ของมันมากกว่า มันจะเป็นไปตามที่คุณบอกว่า คุณจะรับผิดชอบสิ่งที่คุณพูด" คุณ 072648  ครับม ด้วยความนับถือในความเห็นของคุณและทุก ๆ คนครับ คุณยืนในตำแหน่งที่ดีแล้วครับ ที่เห็นว่าควรให้กรรมตัดสินกรรมของแต่ละคนเอง เราไม่เคยมีอะไรบาดหมางกัน ผมทำหน้าที่ผม ผมพูดอย่างทีผมพูด และพูดในที่สาธารณะ คุณ move on เถอะครับ ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายให้คุณ เพราะผมเห็นอะไรตามมุมมองของผม ตอบไปก็ไม่ถูกใจใครบางคน หรือหลายคน ที่เขาคิดอีกแบบ หรือยืนบนฐานทึ่ต่าง  อย่ามาสนใจผมครับ ผมยอมสละอมยิ้ม เพื่อให้ได้พูดตามสิทธิที่ผมยังมีอยู่  เมื่อสิทธิมันหมดไป ผมก็ยอมรับโดยดีครับ ตามกฎแห่งกรรม... และกฎนี้ไม่หนีไปไหนครับ ... ขอบคุณนะครับ ที่ให้ความสนใจอ่านความเห็นของผม เราไม่ควรสาวความกันต่อแล้วครับ เพราะผมไม่เห็นประโยชน์อันใดครับ  สวัสดีครับ  จากคุณ : piangdin   - [ 5 ต.ค. 49 00:49:59 ]

ความคิดเห็นที่ 41   Prem is the mastermind of this Coup and he now puts his military men into the strategically important postitions. #13 of the new constitution officially gives the military the intervention power, to use force whenever the military leaders see appropriate. Did they say we are heading towards democracy??  I couldnt stop thinking about Gandhi lately.  จากคุณ : V - [ 5 ต.ค. 49 01:09:19 A:71.32.166.167 X: TicketID:128000 ]

ความคิดเห็นที่ 42   คุณ piangdin ใน rep#40 ถ้าคุณคิดใคร่ครวญได้ถึงเหตุผลว่าอะไรเป็นอะไร และคุณหยุด ตรงนั้นผมขอขอบคุณ และมันเป็นผลดีกับตัวคุณเอง แต่อยากให้แยกแยะ เพราะใน rep#40 คุณ กล่าวว่า "ตอบไปก็ไม่ถูกใจใครบางคน " ตรงส่วนนี้มันไม่ใช่ปัญหาเลย ส่วนที่เป็นปัญหาคือการแสดงออกทางความคิดเห็นที่ล้ำเส้นไปถึงสถาบันสูงสุดในลักษณะจาบจ้วง ตรงนี้ต่างหาก และขอฝากถึงคนอื่นๆ ใครก็ตามที่เคยใช้คำพูดถึงคณะองคมนตรีในเชิงตีเสมอลบหลู่ราวกับเป็นคนระดับเดียวกัน  ผมขอให้คนๆนั้นไปทำความเข้าใจใหม่ว่าที่มาของตำแหน่งหน้าที่ขององคมนตรีคืออะไร มีความหมายอย่างไร ลองตรองดูว่าคุณควรจะพูดถึงบุคคลเหล่านั้นด้วยคำพูดลักษณะนั้นหรือไม่ ในส่วนอื่นๆ ถึงแม้จะคิดเห็นไม่ตรงกัน มันจะไม่มีวันเป็นปัญหา อย่างมากก็ปะทะกันทางความคิด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และเป็นสิ่งที่ควรมี และต้องมีในสังคมที่จะเติบโตได้ *** ดังนั้นโปรดแยกแยะ***  จากคุณ : - 072648 - [ 5 ต.ค. 49 02:03:24 A:58.64.44.244 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 43   ๑๓. เมื่อใดที่ผู้บริหารราชการแผ่นดิน ตลอดจนรัฐสภา และองค์กรอิสระ มีการใช้อำนาจ สิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ผิดไปจากบทบัญญัติของกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หรือกฎหมายอื่น ๆ จนเป็นผลทำให้เกิดความไม่สงบสุขต่อส่วนร่วมในประเทศชาติ จนอาจเป็นการทำลายความมั่นคงหรือมิอาจเยียวยาแก้ไขได้ ประชาชน ชาวไทยทั้งหลายทั้งปวง ย่อมมีอำนาจในการใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อกำจัด ปัดเป่า ภยันตรายนั้นได้ตามควรแก่กรณี เช่น การขอให้กำลังทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน เข้าขจัดปัดเป่าภยันตรายนั้นได้  ^ ^ ^ No one in his or her right mind would ever agree to this provision. I'm surprised that so many of us decided to just roll over and play dead. This constitution is a complete joke designed to legitimize coups. With a sham constitution like this, do we still call ourselves a "democracy"? Oh wait, we are not and have never been one anyway. We are a "constitutional monarchy," whatever that means. P.S. Khun V, you can't stop thinking about Gandhi. I can't stop thinking about Burma. The military junta there must be having a party and eager to welcome us to the club. But you know the difference between the Burmese and us? The Burmese don't want to be governed by the junta, but WE DO! Should I laugh or cry? แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 49 02:05:21  จากคุณ : Rive Gauche   - [ 5 ต.ค. 49 02:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44   Gen.Prem has been highly instrumental in the conflict which later evolved to the Coup d'etat. Thaksin publicly condemned him as an 'extraconstitutional influential person'. The outside world knows about this story well ( I wonder how little Thai people know about it).  Anyone hasn't read McCargo's articles ?  http://taylorandfrancis.metapress.com/(4tpn0pie4kt4hbefh2y44cfp)/app/home/contribution.asp?referrer=parent&backto=issue,3,7;journal,4,27;linkingpublicationresults,1:104733,1 http://taylorandfrancis.metapress.com/(yraqgz55d3u1h5453uv1ac55)/app/home/contribution.asp?referrer=parent&backto=issue,3,8;journal,3,23;linkingpublicationresults,1:107513,1 Talking about Gen.Prem, I have a good deal of respect for him as a guy who devotes his life for the country and for the monarchy (as a military man, a privy council). However, his meddling into the political conflicts sent very negative picture of the monarchy to the outside world. His personal vendetta with Thaksin screws up the democracy/stability/credibility of Thailand as a country. It is quite sad for me to see this high status glorious man end up ingloriously at the final days of his life like this. Can you say it's a "law of karma" ? แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 49 02:39:37 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 49 02:29:11  จากคุณ : .. (B.F.Pinkerton)   - [ 5 ต.ค. 49 02:05:15 ]

ความคิดเห็นที่ 45   agree with 12  จากคุณ : Pat - [ 5 ต.ค. 49 02:46:23 A:192.150.11.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46   ผมไม่แน่ใจว่าคำถามของจขกท.คืออะไร แต่เนื่องจากพันทิปสั่งห้ามเขียนเกี่ยวกับการเมือง ผมจึงได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเอง 10 ประการ โดยไม่พยายามไปแตะต้องเรื่องที่จะทำให้บางคนไม่สบายใจ 1. เราต้องการให้ประเทศไทยของเราดำเนินไปในแนวทางประชาธิปไตยหรือไม่ 2. เรายอมรับประชาธิปไตยในช่วงที่กำลังเบ่งบานแต่ยังลุ่มๆดอนๆกับปัญหาทางเทคนิคได้มากน้อยแค่ไหน 3. เราเชื่อว่ารัฐธรรมนูญเป็นหลักในการปกครองประเทศ และทุกคนไม่ว่าชนชั้นไหนควรต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญหรือไม่ 4. ในฐานะคนเมือง เราเห็นใจและพยายามเข้าใจปัญหาของคนชนบทและชนชั้นกรรมาชีพมากแค่ไหน 5. เรามีความสงสัยหรือไม่ว่า "คนดี"ก็อาจทำสิ่งที่ไม่ดีต่อสังคมได้หากมีทิฏฐิสูงหรือปราศจากการควบคุม ตักเตือน ในขณะเดียวกัน"คนที่ไม่ดี"ก็อาจทำแต่สิ่งที่ดีหากมีแรงจูงใจ 6. เรายับยั้งใจได้มากน้อยแค่ไหนที่จะไม่เลือกวิถีทางต่อสู้สิ่งที่เราไม่เห็นถูก ด้วยการหักด้ามพร้าด้วยเข่าหรือการพยายามสร้างกฎหมู่ที่เป็นประโยชน์และปลอดภัยกับฝ่ายเราเอง 7. เราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการ dehumanise (แปลง่ายๆว่า"ทำคนให้เป็นสัตว์เดรัจฉาน") ต่อใครคนใดคนหนึ่งหรือเปล่า 8. เราเห็นด้วยว่าสิทธิ เสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์โดยหลักกว้างจำเป็นต้องธำรงอยู่โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้นหรือไม่ 9. เราให้เกียรติคู่ต่อสู้ของเราอย่างพอเพียงหรือไม่ 10. เราไม่เชื่อโพลที่ออกมาไม่กี่วันหลังรัฐประหารว่าอยู่ดีๆคนชนบทก็กลับมาเห็นดีเห็นงามเกือบเป็นเอกฉันท์กับรัฐประหารหรือเปล่า ถ้าคำตอบต่อข้อถามทั้งสิบข้อข้างต้นคือใช่ คุณน่าจะมีความรู้สึกไม่ต่างไปจากผมในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา ที่ต้องมานั่งอธิบายตัวเองกับหลายคนที่มองเห็นแต่ข้อแย่ของฝ่ายที่ตนต่อต้าน และพยายามเอาชนะคะคานกัน โดยลืมไปว่าประโชน์และความพอใจของประชาชนสำคัญกว่าผลแพ้ชนะของพวกชนชั้นนำในกรุงเทพฯหลายเท่านัก แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 49 01:08:35  จากคุณ : Octave  - [ 5 ต.ค. 49 02:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 47   เพิ่งไปอ่าน คคห 38 อีกที ผมว่าไม่เหมือนร่าง รธน นะครับ แถมก็คงยังไม่มีร่างด้วย เพราะยังไม่มีสภาร่างฯ และทางฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็เพิ่งยุ่งเรื่อง รธน ชั่วคราว และการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีเสร็จไป ผมว่าเป็น รธน ที่คนเขียนขึ้นมาประชดทหารเล่นมากกว่า  จากคุณ : อนุมูลอิสระ   - [ 5 ต.ค. 49 04:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 48   ^ ^ อ๋อ มันเป็นเนื้อหาของรธน ฉบับที่แล้ว มาตราต้นๆน่ะครับ คิดว่า คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้แน่นอน นอกจากเราจะเปลี่ยนประเทศเราเป็นคอมมิวนิสต์  ๔. ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง ^ มาตรานี้ทันสมัยสุดๆเลย ประเทศมหาอำนาจบางประเทศยังไม่มีเลย  เฮ้อ คิดไปก้อคิดถึงรธน ฉบับนั้น  จากคุณ : PaLLMtOgO  - [ 5 ต.ค. 49 04:32:14 ]

ความคิดเห็นที่ 49   ^ ไม่ครับ ลองอ่าน ม. 8-13 ดูสิครับ ไม่ได้มีใน รธน ฉบับ 40 แน่นอน  จากคุณ : อนุมูลอิสระ   - [ 5 ต.ค. 49 04:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 50   โอเคครับ เดี๋ยวไปหาอ่านก่อน ห่างเหินกันมานานมากแล้วจริงๆ ขอบคุณคับ ปล ถ้าไม่โดนทักก้อคงไม่ลองอ่านข้อล่างๆดูอ่ะ  เห็นข้อเก้าก้อขำๆแล้ว  จากคุณ : PaLLMtOgO  - [ 5 ต.ค. 49 05:10:38 ]

ความคิดเห็นที่ 51   แม้ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร แต่ถ้าปล่อยให้ประชาธิปไตยกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ เป็นเผด็จการทางรัฐสภา องค์กรอิสระเป็นเป็ดง่อย ปล่อยให้รัฐบาลโปรยนโยบายประชานิยม เอาประชาชนรากหญ้ามาเป็นเกราะกำบัง เมื่อนั้นทหารไม่ทำ ประชาชนรู้ธาตุแท้ก็ต้องออกมาบนถนนอยู่ดี เหตุการณ์จะยิ่งแย่ไปมากกว่านี้ เรื่องฟ้าสูง ฟ้ายังสูงอยู่วันยังค่ำ เราไม่มีทางดึงฟ้าต่ำลงมาได้หรอก เพียงแต่บางคนจะทำตัวให้เทียบฟ้ามากกว่า แต่ stairway to heaven มันพังลงมาซะก่อน  จากคุณ : zizi lazy   - [ 5 ต.ค. 49 07:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 52   ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร แต่มันไม่มีทางเลือกไม่ใช่เหรอ...กับการบริหารงานแบบรัฐบาลทักษินคุณหลายคนก็รู้ว่ามันเป็นเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตยซะหน่อย แค่มันได้เสียงข้างมากด้วยกลโกงเนี่ยนะ คือประชาธิปไตย ข้อแก้ไขที่จะให้ประเทศของเราปราศจากการทำการปฏิวัติ เป็นประชาธิปไตย 100% ก็คือ การศึกษา ตอนนี้อนาคตทางการเมืองของบ้านเราขึ้นกับระดับการศึกษาของประชาชน..  จากคุณ : 111 - [ 5 ต.ค. 49 15:17:56 A:125.24.249.10 X: TicketID:101862 ]

ความคิดเห็นที่ 53   ลอกมาจากข่าว บีบีซี เมื่อวันที่ 21 กย 49 http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/5367936.stm Thai king remains centre stage By Kate McGeown BBC News, Bangkok Thai soldiers man a tank under an archway featuring a portrait of revered King Bhumibol Adulyadej Thai state TV says the revered king endorsed the coup Throughout every twist and turn in Thailand's recent political history, there has been one constant figure. King Bhumibol Adulyadej, who has been on the Thai throne for 60 years, is revered across the nation, with some people even seeing him as a virtual god. Officially his power to influence political events is limited. But in practice he yields immense power, due to the high respect in which he is held. That is why many Thai analysts are saying he must have at least been in favour of the coup on Tuesday night, which toppled Prime Minister Thaksin Shinawatra. "The role of the king was critical in this crisis," said Thitinan Pongsudhirak, a professor of political science at Chulalongkorn University. "He is widely seen as having implicitly endorsed the coup." Sulak Siwalak, a well-known social critic, went further. "Without his involvement, the coup would have been impossible," he said. The palace has made no direct comment since the takeover took place. The only statement relating to the king was made by the coup leaders, in a televised announcement stating that the king endorsed General Sonthi Boonyaratkalin as the head of the temporary government. People liked Thaksin, but they love the king Prof Thitinan Pongsudhirak, Chulalongkorn University But sometimes silence speaks volumes - and while there is little evidence that the king was directly involved in the coup, there are plenty of clues to suggest he at least tacitly approved of Tuesday night's events. The generals who led the coup said they were acting in defence of the king, and even wore yellow armbands signalling their loyalty to the crown. Gen Sonthi also went to speak to the palace soon after taking over. According to Prof Thitinan, the exact role that the king played is unclear. "He did not initiate the coup - it was the military that did that," he said. But he added: "No coup would succeed without the king's consent." Skilful intervention If the king was indeed linked in some way with the coup, it is not the first time he has intervened in Thailand's often turbulent political history. One of the most enduring images of his reign is when he ended street violence in 1992 with a few quiet words to the two main rivals, who were kneeling side-by-side at his feet. Earlier this year he influenced the country's courts to annul the controversial poll in April, by describing the situation as a "mess". But King Bhumibol is careful never to get too openly involved in Thailand's politics. Often a mere nod or a brief TV appearance is enough to put his point across. "He's very skilful," said Sulak Siwalak. "He never becomes obviously involved. If this coup goes wrong, Sonthi will get the blame, but whatever happens, the king will only get praise." In fact, such is the faith that the Thai people have in their monarch that many believe if the king did intervene, it was obviously the best course of action to take. Prof Thitinan said he believed the king allowed the coup to take place as it was the best option available. "What we were heading for otherwise was violence in the streets," he added, citing the turbulent events of the last few months, such as the controversial elections in April, the street protests against Mr Thaksin and the ongoing political uncertainty. 'Aloof and selfless' But another reason the coup took place is undoubtedly because of the growing gulf between the monarchy and the prime minister. "This coup was nothing short of Thaksin versus the king," said Prof Thitinan. The two men are very different - the king aloof and selfless, the prime minister populist and often seen as arrogant. "The king spent four decades to win the hearts and minds of people, quietly doing many public works. Thaksin tried to do it in four years, through populist handouts," said Prof Thitinan. "People liked Thaksin, but they love the king," he added. In recent months, the prime minister has angered the palace in several ways, most notably during the king's 60th anniversary in July, when he was accused of trying to seek attention by greeting guests before they met the royal family. He has also faced a growing battle with one of the king's closest aides, retired General Prem Tinsulanonda. In July, when the prime minister accused a "highly influential person" of attempting to overthrow the government, many analysts assumed he was talking about Gen Prem. In return Gen Prem told a group of Thai army cadets that their first loyalty was to the king. The antagonism grew, but despite the national esteem in which people view the king, the prime minister remained firm. "Thaksin was so successful - he felt no one else would outsmart him," said Sulak Siwalak. "I think this was his undoing. "He used his money and power, but didn't realise the palace is more subtle than that, and has a lot of quiet power." In the battle between the two camps, there could only be one winner - the quiet but enormously influential 78-year-old monarch. Whether King Bhumibol had any connection to the coup or not, he has survived Mr Thaksin as he has survived many other prime ministers, governments and constitutions. Thailand may be shrouded in uncertainty right now, but the constant figure the people have come to love and trust is still in place, as strong as ever.  จากคุณ : ever - [ 5 ต.ค. 49 17:34:47 A:58.9.156.178 X: TicketID:109593 ]

ความคิดเห็นที่ 54   #53 สรุปได้พอดีครับ แสดงว่านอกจาก piangdin แล้ว ยังมี Sulak Siwalak และ Thitinan Pongsudhirak ด้วย ที่เชื่อแบบนั้น และก็คงมีคนไทย ทั้งปัญญาชน และรากแก้ว อีกหลายคนเช่นกัน  ดังนั้น จขกท ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องประหลาดใจ ถ้าหลัง Coup 2006 ท่านจะได้ยินคำพูดลักษณะนี้อยู่เรื่อย ๆ จากชาวไทย(บางส่วน) และชาวโลก ก็ต้องทำใจครับ (ไม่งั้นก็ไม่ต้องรับฟังข่าวจากข้างนอก ดูแต่ข่าวจากของราชการไทยก็พอ อาจจะช่วยได้)  จากคุณ : .. (B.F.Pinkerton)   - [ 5 ต.ค. 49 22:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 55   และ Sulak Siwalak ก็คือ อาจารย์ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หนึ่งในนักคิดนักเขียนชาวไทย สายอนุรักษ์นิยม ที่ได้รับความนับถือกันมากที่สุด Thitinan Pongsudhirak ก็คืออาจารย์ฐิตินันท์  พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์รัฐศาสตร์หนุ่ม มาแรง แห่งจุฬาฯ ที่จบเอกที่ LSE พร้อมกับรางวัลวิทยานิพนธ์ ป. เอก สาขา Comparative and International Politics ที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร นี่ขนาดอาจารย์ฐิตินันท์ไม่เห็นด้วยกับ McCargo 100% นะครับเนี่ย  จากคุณ : อนุมูลอิสระ   - [ 6 ต.ค. 49 00:39:05 ]

ความคิดเห็นที่ 56   เห็นด้วยกับความคิดและมุมมองของคุณเพียงดินนะคะ และเชื่อว่าคุณไม่ได้มีเจตนาจาบจ้วงเบื้องสูง         ได้แต่หวังว่าจะมีซักวันที่ประชาธิปไตยบิดๆเบี้ยวๆของเมืองไทยจะเข้ารูปเข้ารอยซะที  จากคุณ : alexfromblur   - [ 6 ต.ค. 49 01:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 57   แวะมาขอบคุณทุกความเห็นที่แสดงกันออกมา บนรากฐานของปัญญาของแต่ละคน ตามสิทธิที่พวกเราควรมีควรได้ครับ ผมแต่งโคลงไว้เมื่อสองปีที่แล้ว กลับไปอ่านแล้วเห็นว่า มีอะไรเฉียด ๆ กับอารมณ์นี้ คือ อาการปลง ๆ นิด  ๆ น่ะครับ ขอเอามาแปะไว้ฝากเพื่อน ๆ ที่สนใจได้อ่านครับ "สัจจะ และอุดมการณ์" สัจจะหากเสาะค้น.................ดูไกล กลับอยู่เพียงรากใจ...............แค่นั้น มนุษย์แต่งปรุงไป.................จนเปรอะ สัจจะจึงถูกปั้น....................เล่ห์ล้อมกลลวง มนุษย์ผันผ่านด้วย...............ประสบการณ์ กดขี่กันยาวนาน..................จิกจ้วง ระบบที่เกาะฐาน..................คนใหญ่ ดังใส่เกราะกันล้วง..............แต่งสร้างดูดี ฝูงคนสนแต่ได้...................มากมาย จัดแบ่งอำนาจราย................นั่นนี้ี้ จัดเขาแบ่งเราหมาย.............. ประโยชน์ สวมใส่กากกระพี้................เพื่อให้พรางเห็น บางคนเขาอาจอ้าง..............สะอาดตน "ระบบโอบทุกชน.................บ่เว้น เขาดีจึ่งมีผล.....................ดีสืบ คนเหล่าหลังยาวเส้น............จึ่งล้มจมดิน" สัจจาจึงสุดค้น...................ถึงแกน ถึงศาสน์ยังถูกแผน...............สยบดิ้น ของใสดั่งเพชรแหวน............ในด่าง ชนต่างสยบสิ้น..................ล่องคว้างทะเลกล อุดมการณ์หากเน้น...............สัจจา มิิอาจเบือนจักษา................สัจจ์พ้น เห็นสัจจ์ยิ่งระอา.................โลกวุ่น หากขาดเมตตาล้น..............จักคว้างความหมาย 18 เมษายน 2547 เพียงดิน  จากคุณ : piangdin   - [ 6 ต.ค. 49 02:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 58   ผมแต่งโคลงเมื่อปีที่แล้ว ในช่วงที่ประชาธิปไตยไทย ครบรอบนักษัตริย์ คือ หกรอบพอดี สังเกตุท่อนสี่คำท้ายนั้น อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ กรุณาต่อให้ คำว่าเผด็จการนั้น ท่านหมายถึงทักษิณนะครับ...  กลับมาอ่านดู ก็ได้คิดอะไรเล็ก ๆ  น้อย ๆ บ้างเหมือนกัน เลยขอยกมาฝากอีกนิดครับ "๗๒ ปีรำลึก ประชาธิปไตยไทย" เจ็ดสิบสองลอยล่องพ้น……….. มาไกล สถิตย์เคียงคู่ไทย………………. อยู่ยั้ง ดังเราอิ่มเอมใน………………… อิสระ ประดุจไทรรากรั้ง………………. ใหญ่กล้าท้าลม ไทรยืนสง่าง้ำ………………….. จงตรอง นักษัตรหกรอบมอง……………  กลับก้ม เลือดไทยหลั่งเนืองนอง………  หลายเมื่อ จงอย่ายืนหัวโน้ม………………. สยบให้มารนคร ปลายปืนปานหดแล้ว……….. นานเนาว์ จงอย่าวางใจเบา……………… หยุดย้อน อำนาจอยู่ที่เรา……………….. หรือไม่ ระบบเห็นสะท้อน…………….. สื่ออ้างครวญนา อำนาจมันบาดแล้ว………….. ฝังคม ผลัดเปลี่ยนกันดอมดม…….. ออกหน้า ปากเขาพ่นปิดปม……………  หรือไม่ ปืนหดระบบอ้า……………….  อย่างนี้ระวัง ใบงามนามเพื่อพ้อง………… ประชา มิอยู่ถาวรนา…………………  อย่าพลั้ง คิดดูอำนาจมา……………….  ไหนส่ง เลือดหยดมากี่ครั้ง………….  ใช่ด้วยขอมา ประชาเป็นใหญ่นั้น………….  สำคัญ รักษ์เผื่อลูกหลานปัน………   ฝ่ายหน้า หากยานหย่อนใจฝัน……….  โจรย่อง นักษัตรเวียนรอบท้า……….  *อย่าท้อเผด็จการ…. เพียงดิน ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๗ MIT * โดยความกรุณาของอาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ช่วยปิดท้ายโคลง อ่านโคลง กลอน และบทกวีอื่น ๆ ที่ผมแต่งไว้เมื่อสองสามปีที่แล้ว ให้สยามเสวนา ได้ที่http://www.siamsewana.org/poems/ นะครับ  จากคุณ : piangdin   - [ 6 ต.ค. 49 02:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 59   โอ้ Thesis on Comparative and International Politics ที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร (O_O)'' น่ากลัวชะมัด อยากเจอตัวจัง  จากคุณ : shory   - [ 6 ต.ค. 49 03:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 60   It's called "Lord Bryce Prize for best dissertation in comparative and international politics" http://www.psa.ac.uk/about/abt_dissertations.htm  จากคุณ : B.F.Pinkerton   - [ 6 ต.ค. 49 06:10:51 ]

ความคิดเห็นที่ 61   ว้าว ...... อยากอ่านจัง สุดยอดมั่กๆๆๆ มีคนต่างชาติได้รางวัลนี้น้อยมากๆ  จากคุณ : shory   - [ 6 ต.ค. 49 06:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 62   คุณความเห็นที่  ๑๒  ถ้าเขาผิด  ศาลมีไว้ทำไหม งั้นก็ยกเลิกไปไม่ดีกว่าหรือ    เพราะเชื่อว่า  ตรบใดที่ศาลท่านยังไม่พิพากษา  ให้คือว่า บุคคลนั้น องค์กรนั้น บริสุทธิ์   ถ้าท่านไม่เครพศาล  ก็หนีไปอยู่ที่อื้นชิครับ  อย่าคิด อย่าเชื่อตามสือ ชั้นตำ บางเจ้า วันๆๆไม่เห็นข่าวสร้างสรรอะไร  การแสดงความคิดเห็น ควรเคารพความสิทธิ์ แห่งองค์ความเชื่อของคนอื้นด้วย  จักได้ชื่อว่า เป็นคนพอมีการศึกษามาบาง ถึงไม่ถึง ป เอก ก็เถอะ  แน่นอนว่า  ที่นี้ เกือบ รวมยีสิบคน จบ ป เอก  และสอนมหาลัยด้วย  ขอให้ใช้วิจารณญาณ ในการับข่าวสาร  อย่าฟังคนกลุ่มเดี่ยว   เห็นตั้งโน้นตั้งนี้  คำว่าสมานฉันท์มองไม่เห็นเลย  มันหายไปไหนครับท่าน ที่อยู่เมืองไทย นักวิชาการวันนี้โดนหรือ  เงียบจัง  จากคุณ : ดอกจานในแดนซากุระ  - [ 6 ต.ค. 49 07:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 63   มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เช้ามืด 6 ตุลา 19 หนาวเย็น ผมและเพื่อนๆมหิดลกลุ่มหนึ่ง ออกประตูท่าพระจันทร์ จะกลับบ้าน แต่ไม่มีรถโดยสารเลย จึงกลับเข้าไปใหม่ ตี 5 เริ่มมีเสียงปืนประปราย พอตอนสาย มีระเบิด 2 ลูก (หัวระเบิด เอ็ม-79 ) ลงสนามฟุตบอล ห่างกันไม่กี่นาที บาดเจ็บหรือตายไม่ทราบ เห็นหามกันออกไปขึ้นรถพยาบาล หลังจากนั้น........................ ...ห่ากระสุน แรงระเบิด นานาชนิด ดังกึกก้อง..ปนกับเสียงโห่ร้องของ พวกกระหายเลือด ที่อยู่นอกธรรมศาสตร์.......เพื่อนฝูงแยกกันหาที่กำบัง ท่ามกลางห่ากระสุน ที่มาจากทุกทิศทุกทาง......ผม...วิ่งจากสนามบอล ไปหมอบอยู่ทางเท้าของตึกคณะบัญชี ...มีเพื่อนต่างมหาลัยอยู่ข้างผม ..เราช่วยกันตะแคงม้านั่งหินอ่อนลงเป็นที่กำบัง.......อีกหลายคนวิ่งมาขอบังด้วย...โชคร้าย เพื่อนที่อยู่ข้างผมบังไม่มิด โดนกระสุน...เขาร้องลั่น ด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลออกจากหน้าอก..นองพื้นอย่างรวดเร็ว...พวกนั้นกำลังบุกเข้ามา ใกล้ทุกทีๆ ........ผมกับคนอื่นๆช่วยกันทุบกระจกห้องเรียนด้านล่างตึก...บางคนค่อยๆข้ามเข้าไป...ผมพุ่งเข้าไปโดย เก็บคอ..งอเข่า ตามวิชายิมนาสติคที่ได้เรียนมา..ลงพื้นที่เต็มไปด้วยเศษกระจก...ได้เลือดที่แขนขวา...เราหนีขึ้นไปชั้นบนสุด...สงสารน้อง นศ.หญิง ที่ทั้งร้องไห้และเข่าอ่อนเดินขึ้นบันไดไม่ไหว พวกเราตะโกนบอกน้องให้พยายามขึ้นไปเร็วๆ เพราะอยู่ในวิถีกระสุน ที่จะพุ่งเข้ามาทางหน้าต่างกระจกที่ใหญ่โตของตึกบัญชี ในที่สุด ก็มี นศที่กล้าหาญคนหนึ่งวิ่งขึ้นไปดึงร่างน้องหญิง ลากขึ้นไปได้ ...เราหลบกันอยู่ตามห้องชั้นบนสุด..ในขณะที่เสียงห่ากระสุนและระเบิดยังดังกึกก้องและรุนแรง ต่อไปเป็นระยะ...ในใจผม...นึกถึงพระบารมีในหลวง..ขอพระบารมีของท่านจงมาปกป้องพวกเรา...นักศึกษาหญิงชายมือเปล่าๆเหล่านี้..ให้รอดพ้นจาก...ความตาย...มโนภาพ...มีพระบรมฉายาลักษณ์ ปรากฏอยู่ตลอดเวลา...นักศึกษาที่อยู่ด้านล่างต่างตะโกนคำว่า " ยอมแพ้แล้ว ๆ "...ทหารหน่วยรบพิเศษ ขึ้นมานำพวกเราลงไป.......ระหว่างเดินลงบันได...ทหารสั่งให้เอามือประสานท้ายทอยไว้ ก้มหน้าเดิน...เลือดเพื่อนนักศึกษาประชาชนที่รัก...แดงฉานตลอดทางลงบันได...ดุจพรมสีแดง...ที่ปูไว้ให้ทรราชเหยียบขึ้นไป..สู่อำนาจ !........ ....บนรถเมล์นายเลิศ...ผมและคนอื่นๆถูกให้นั่งบนพื้นรถ เอามือประสานท้ายทอยก้มหน้าไว้...ได้ยินเสียง...ตำรวจที่คุมบนรถคุยกันว่า...มีคำสั่งให้เอาไป...ยิงทิ้งที่ปากท่อ...หลังจากนั้น...มีเสียงรถเบรคกระทันหัน หน้าต่างบานหนึ่งเลื่อนตกลงช่อง เปิดออก นักศึกษาคนหนึ่ง ตัดสินใจกระโดดลง...หนี !....เสียงคนบนถนน ตะโกน ฆ่ามันเลยไอ้พวกคอมมิวนิสต์...เสียง..เอชเค-33ดังขึ้น 1 นัด ...ศพเพื่อนถูกลากมาไว้ข้างๆผม ผมมองลอดศอกตัวเอง ดูเพื่อน เขาผิวขาว ผอมบาง หน้าอกมีรูใหญ่เลือดทะลักแดงฉาน ไหลนองมาเปรอะกางเกงของผม (ทุกคนต้องถอดเสื้อทิ้งไป )....ผมถูกขังอยู่โรงเรียนพลตำรวจนครปฐม 3 วัน..จึงได้กลับบ้าน... ระหว่างอยู่ในเรือนขัง ตำรวจที่คุมอยู่ ชี้นิ้วพร้อมพูดเสียงดังขึ้นว่า เอ้า...คนนั้น ร้องเพลงของพวกคุณให้ฟังหน่อย... เพลงอะไรก็ได้...เพื่อนนักศึกษาผู้นั้น ลุกขึ้นยืน...เพลงที่ผมและเพื่อนที่ร่วมต่อสู้ ในครั้งนั้น ก็ดังขึ้นจากปากของเขา พร้อมกับเสียงปรบมือเป็นจังหวะ ดังกันทั่วเรือนขัง ผมมองไปที่พี่ตำรวจคนนั้น เขานั่งขอบหน้าต่าง ก้มหน้าฟังอย่างตั้งใจ........" ถ้าหากฉันเกิดเป็นนกที่โผบิน ติดปีกบินไปให้ไกล ไกลแสนไกล จะขอ เป็นนกพิราบขาว เพื่อชี้นำชาวประชาสู่เสรี..ถ้าหากฉันเกิดเป็นเมฆบนนภา จะนำพาความร่มเย็นสู่ท้องนา หากฉันเกิดเป็นเม็ดทราย จักโถมกายเป็นทางเพื่อมวลชน ชีวา..ยอมพลีให้..มวลชน..ที่ทุกข์ทน...ขอพลีตน ไม่ว่าจะตายกี่ครั้ง.." นศ.เภสัชมหิดล 19 In memory of those who have died fighting for democracy(some fought for democratic socialism) in Thailand, October 6 and 14 are approaching. A green man who gunned down people with no weapons is worse than a scum. And I have never seen any single scum in green uniform being tried in the court of law for killing the citizens of Thailand. Are our green men really "honourable"? If so, why no one in the army ever put efforts to bring justice to those people who get killed by the military force?  จากคุณ : V - [ 6 ต.ค. 49 07:47:53 A:71.32.166.167 X: TicketID:128000 ]

ความคิดเห็นที่ 64   Dear K. V: Thanks for the factual, painful reminders... We the Thai are too forgetful... Our history has never been ours.... Many are political agendas; no truth, just simple lies... Ironically, pure truth has been neglected and faded away in our deranged minds and soap-opera memories. Thanks again... แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 49 09:24:09  จากคุณ : amatuer translator   - [ 6 ต.ค. 49 09:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 65   อ่านข้อความของคุณ V แล้วทำให้ผมอยากแต่งโคลงขึ้นมาทันใด ใช่สิ การปฏิวัติ เกิดขึ้นก่อนตุลาพอดี... สองมือชูแกว่งท้า........... ปืนมาร หวังสื่อเผด็จการ............ อย่ารั้น เขาจึงร่วงลาราญ........... คลุกฝุ่น เพียงเพื่อทุกไทยนั้น...... อยู่ด้วยอธิปไตย เขาตายหมายมุ่งให้........ ไทยงาม เลือดหลั่งควรหยุดถาม.... สิ่งได้? ปฏิวิติเพื่อใดลาม........... หรือเปล่า? โดยหลักตรองลึกไซร้.... อย่าแพ้มวลมาร บรรพชนเหล่ากล้า......... เรียงราย ถามอยู่ลูกหลานไทย..... ทั่วบ้าน สูทำสิ่งอันใด................ ฤานี่ วิญญ์ท่านคงสะท้าน....... อาบน้ำตานอง ยิ่งเราสะท้อนให้ royal military regime เห็นความไม่ชอบธรรมของการแทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตยมากเท่าใด ก็จะเป็นผลดีมากท่านั้น - พวกเขาต้องรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้น แม้จะเหมือนจำเป็น แต่ไม่ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย - พวกเขาต้องเร่งคืนประชาธิปไตยให้ปวงชนชาวสยาม - พวกเขาต้องไม่จัดสรรปันประโยชน์ในช่วงมีอำนาจอย่างไม่มีการตรวจสอบ - พวกเขาต้องเปิดตัวเองให้ถูกตรวจสอบได้ โดยสื่อ โดยเสียงประชาชน โดยการไม่ปิดกั้นสิทธิของปวงชนตามระบอบประชาธิปไตย - พวกเขาต้องนำเอาตัวแทนของประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างนโยบาย ตรากฎหมาย ระเบียบ ฯลฯ โดยไม่อาศัยการงุบงิบ แต่งตั้ง หรือเอาพรรคพวกตัวเองเป็นแกน  เราต่อต้านสิ่งเหล่านี้แทบเป็นแทบตาย... แล้วเราจะมายอมให้กลุ่มอภิสิทธิ์เหล่านี้ มาฉวยสิทธิทำตามใจไม่ได้ - พวกเขาต้องทำดีลบล้างความผิดที่มีต่อประชาชนเจ้าของอำนาจ  - พวกเขาต้องขอโทษบรรพชนคนกล้า ที่เสียเลือดเนื้อต่อต้านการปฏิวัติและเผด็จการ ขอโทษญาติพี่น้อง ลูกหลาน ของชนผู้กล้าเหล่านี้ ที่ทำการครั้งนี้ ก็เหมือนไม่เห็นค่าของอุดมการณ์และการเสียสละของพวกเขา - พวกเขาต้องคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว ขอแค่นี้ น้อยไปนะ ท่านผู้ฉวยอำนาจ...  จากคุณ : piangdin   - [ 6 ต.ค. 49 09:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 66   ต้องขอบคุณที่พันทิปใจกว้าง และยอมให้การพูดคุยในกรอบวิชาการ คงอยู่ได้ครับ พูดถึงความคิดเห็นเชิงวิชาการ อาจารย์นิธิ เป็นหนึ่งเสียงที่เราควรฟัง แนะนำลิ้งค์นี้ครับ http://www.siamsewana.org/ocean/index.php?option=com_content&task=view&id=605&Itemid=102  จากคุณ : piangdin   - [ 6 ต.ค. 49 11:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 67   คนที่บอกว่า คนอื่นคิดเหมือนตัวเอง เหมือนคนนั้นคนนี้ในแนวทางเดียวกัน อยากให้ชี้ลงไป.ให้ชัดเจนหน่อยว่า  ที่หมายความถึง คือประเด็นไหน ? ความชอบธรรมของการใช้คำพูดกล่าวถึงคณะองคมนตรีในลักษณะตีเสมอหมิ่นแคลน ? การใช้คำพูดที่เข้าข่ายจาบจ้วงสถาบันสูงสูด ? การตั้งกระทู้ที่มีเจตนาสร้างกระแส โดยเพิกเฉยต่อการคิดวิเคราะห์ อย่างรอบด้าน ก่อนที่จะมาโพสต์ในที่สาธารณะ ? หรือเป็นประเด็นอื่นๆนอกเหนือจากนี้ ที่คุณต้องการหมายความถึง และถ้าเป็นไปได้ ช่วยชี้เฉพาะ หรือ วิเคราะห์ออกมาให้ผมหน่อยว่า ตรงส่วนไหนที่ทำให้คุณคิดไปได้ว่า คนนั้นคนนี้คิดเหมือนกัน ในประเด็นนั้นๆ "ประเด็นไหน" ที่หมายถึง และ "อย่างไร" ที่บอกว่าคนนี้คิดเหมือนคนนั้นในแนวทางเดียวกัน โปรดชี้ชัด เพื่อที่ว่าอย่างน้อยก็ผมคนหนึ่ง และคนอื่นที่มาอ่านเวปพันทิบ "สังคมออนไลน์คุณภาพ" จะได้ไม่เข้าใจผิด  ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ก่อนที่ใครจะเอาบทความของใครมาแล้วบอกว่า "เป็นคนที่คิดเหมือนตัวเอง" ผมขอแนะนำว่า ก่อนที่จะทำอย่างนั้น โปรดศึกษาให้ *ครบถ้วน* และ *รอบด้าน* เสียก่อน อย่ารีบร้อน ก่อนที่จะอ่านบทความ หรือแนวความเห็นอะไร ก่อนอื่นควรจะทำใจให้กว้างและเป็นกลาง เพื่อที่จะได้ไม่ผิดพลาดในจุดที่คนเขียนต้องการสื่อ บทความของอาจารย์ฐิตินันท์ ใน rep#53 ครั้งแรกที่ผมอ่าน ผมคิดว่ามันก็เหมือนกับบทความชิ้นอื่นๆของนักวิชาการ เป็นไปในลักษณะ "รายงานสิ่งที่เกิดขึ้น" สู่สาธารณะ ในขณะเดียวกันก็อาจจะ(ในงานเขียน มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงยาก) ใส่แนวความคิดหรือจุดยืนส่วนตัวลงไปด้วย ซึ่งบทความใน rep#53 นั้น ผมคิดว่าทำได้อย่างแยบคาย อาจารย์ฐิตินันท์ก็เหมือนกับคนไทยคนอื่นๆที่เจ็บปวดกับระบบเผด็จการของทักษิณ และพยายามคิดหาทางออกที่ดีที่สุด ภายใต้ตำแหน่งหน้าที่ บางอย่างพูดอย่างตรงไปตรงมาได้ บางอย่างพูดตรงๆไม่ได้ ก็พูดอย่างอ้อมๆเท่าที่จะเป็นไปได้  ถ้าจะถามว่า ทางออกที่ดีที่สุดในความคิดเห็นของท่านคืออะไร อันนี้คงต้องไปนั่งคุยกันเป็นการส่วนตัวที่ร้านกาแฟ  ในฐานะนักวิชาการแล้ว อาจารย์ฐิตินันท์ ได้ออกความเห็นในเรื่องต่างๆในลักษณะ "รายงานสิ่งที่เกิดขึ้น" ให้ข้อมูลที่เป็นจริง  แต่ไม่ได้แสดงออก หรือชี้นำ ว่าทางออกที่ดีที่สุดคืออะไร อันนี้คงต้องแล้วแต่สติปัญญาและวิจารณญาณของคนอ่าน ตรงนี้ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ถือว่าเป็นการวางตัวที่เป็น professional ฉลาดในการวางตัว  "การขายหุ้น 73,000 ล้านบาทโดยไม่ต้องเสียภาษีเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีหน้าที่ จัดเก็บภาษีโดยตรง ไล่ตั้งแต่รมว.คลัง อธิบดีกรมสรรพากร ตลอดจนกลต. ที่เสียงอ่อย ปวกเปียก ไม่กล้าดำเนินการเอาผิด"  -ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จาก - ทักษิณ ไม่ใช่พ่อ- ผู้จัดการรายสัปดาห์ 23 กุมภาพันธ์ 2549 http://nklmeekeaw.exteen.com/20060223/entry  หรือ อย่างบทความนี้ ที่คุณฐิตินันท์ได้พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลของทักษิณ ก็เป็นการ "รายงานสิ่งที่เกิดขึ้น" ไม่ว่าจะ เรื่องการเอางบประมาณไปใช้อย่างเสียเปล่ายืดเยื้อ กรณีดันคุณสุรเกียรติ์ เพื่อเป้าหมายทางการเมืองส่วนตัว หรือ เรื่องการ พยายามที่จะเปิดสนามบินสุวรรณภูมิให้ได้ภายในระยะเวลาที่ตัวเองยังอยู่ในตำแหน่ง "เมื่อพิจารณาถึงประเด็นความสามารถในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ ที่ปราศจากอำนาจที่ได้รับมอบหมายใหม่  นายกฯทักษิณนั้นก็สมควรอย่างยิ่ง ที่จะหยุดเล่นเกมบนแนวทางการแก้วิกฤต ที่ต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทน ที่ประเทศจะ ต้องเสียไปในที่สุด" จากบทความ :แนวทางแก้วิกฤต บนค่าตอบแทนที่ประเทศต้องจ่าย โดยฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2549  http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2006q3/2006august16p02.htm หรือกรณีที่ทักษิณพยายามทำร้ายคณะรัฐศาสตร์ จุฬา  "หลังจากที่คณาจารย์ทำจดหมายเปิดผนึกให้นายกฯ ลาออก ก็มีกระบวนการทำให้เกิดความแตกแยกกัน ทั้งนี้ จดหมายของ คณะรัฐศาสตร์ว่าไม่ได้หมายถึงจุดยืนของคณะ หรือจุดยืนของสถาบัน เพราะได้เขียนว่าเป็นข้อเรียกร้องของบุคคลที่มี รายนามดังต่อไปนี้ เพราะหากใครไม่เซ็นชื่อก็ไม่เป็นไร คนที่อ่านต้องไปแยกแยะให้ถูกต้อง" "บทบาทของคณะรัฐศาสตร์ครั้งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำ เป็นการมีส่วนร่วมในการการปฏิรูปสังคมการเมืองไทย ถือเป็น เกียรติยศศักดิ์ศรีที่จุฬาฯ ทำมานาน ซึ่งจุดยืนของเราทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถจะมองผ่านไปได้ ธรรมศาสตร์ก็ทำหน้าที่ เช่นกัน ลองไปดูอธิการบดี มธ. ถามว่าทำไมเขาถึงยืนหยัดเพื่อจุดยืนของสังคม ไม่เห็นต้องมากลัวเกรง หรืออธิบายอะไร เพิ่มเติมเหมือนอธิการบดีจุฬาฯ" จาก ทรท.ป่วนจุฬาเสี้ยมอาจารย์รัฐศาสตร์แตก 7 กุมภาพันธ์ 2549 Thaipost News http://www.thaipost.net ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ผมเอาแง่มุมต่างๆที่อาจารย์ฐิตินันท์เขียนไว้มาให้อ่าน (โปรดอ่านอย่างวิเคราะห์ทั้งบทความ ผมได้เอาลิงค์แนบมาตลอด) เนื้อความทั้งหมดของความคิดเห็นนี้ จนถึงตอนนี้ มีเพื่อต้องการตั้งคำถามว่า จะสรุปได้หรือไม่ว่า อาจารย์ฐิตินันท์คิดอะไร ในประเด็นไหน เหมือนกับใครในกระทู้นี้ อย่างที่มีคนอ้างถึง ? การเอาแนวคิดของคนอื่นมาสนับสนุนสิ่งที่ตัวเองคิด เป็นสิ่งที่ทำได้ และควรทำ เพราะมันเป็นการเปิดกว้างกับข้อมูล แต่ควรจะทำด้วยความยุติธรรม และตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงที่ตรวจสอบมาอย่างครบถ้วนรอบด้านแล้ว การนำความคิดของคนอื่นมาคิดวิเคราะห์เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่มันเป็นคนละเรื่องกับการอ้างอย่างเบ็ดเสร็จว่าเค้าคิดเหมือนเรา ผมขอย้ำว่า ผมไม่ได้เขียนมาถึงตรงนี้เพื่อที่จะบอกว่า ใครคิดเหมือนหรือไม่เหมือนใครในประเด็นไหน ผมแค่ตั้งคำถามว่า จริงหรือไม่ที่อาจารย์ฐิตินันท์มีความคิดไปในแนวทางของคนนั้นคนนี้ อย่างที่มีคนอ้างถึง ? ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ใน Project Syndicate ผมเจออีกบทความนึงของอาจารย์ฐิตินันท์ บทความที่ชื่อว่า "The Crisis of Thai Democracy" ในตัวงานเขียนชิ้นนี้ได้อธิบาย และรายงานสถานะการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น และในตอนท้ายได้กล่าวถึง a royal intervention  ว่ามันอาจทำให้นำไปสู่การที่เราต้องกลับไปรื้อรัฐธรรมนูญขึ้นมาเขียนใหม่ แต่ในบทสรุปสุดท้ายซึ่งอยู่ถัดมาบอกว่า "What Thai democracy needs in order to mature is not a political safety net, but a vigilant citizenry to ensure  disciplined enforcement of the constitution's provisions and institutions, so that they can no longer be hijacked by the likes of a Thaksin." - http://www.project-syndicate.org ตรงนี้ผู้เขียนพูดถึง "หลักการ" ในประโยคแรกว่า เราไม่จำเป็นต้องมี "a political safety net" แต่เราต้องมี "a vigilant citizenry"  เพื่อที่จะ "ensure disciplined enforcement of the constitution's provisions and institutions" ผมอ่านบทความนี้ของอาจารย์ฐิตินันท์แล้ว เกิดคำถามขึ้น อย่างช่วยไม่ได้... ถามว่า ในขณะนี้ เรามี "a vigilant citizenry" ที่เพียงพอสำหรับต่อต้านการถูก hijacked by the likes of a Thaksin หรือไม่ ? ความเห็นของผมคือ เพราะว่า Thai democracy มันยังไม่ matured พอ เราถึงจำเป็นต้องมี "a political safety net" และในส่วนของ "disciplined enforcement of the constitution's provisions and institutions" ผมคิดว่ากำลัง in progress และที่สำคัญที่สุด ที่ผ่านมาหลายต่อหลายครั้ง ก็เพราะว่าเรามี The Political Safety Net ที่มั่นคง ชาติถึงอยู่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้ "Thailand may be shrouded in uncertainty right now, but the constant figure the people have come to love  and trust is still in place, as strong as ever. " ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ( กระทู้นี้ โปรดเก็บไว้เป็นกรณีศึกษา เราได้เห็นคนไทยบางคนเอาเหตุการณ์ของคณะปฏิรูปฯ ไปเที่ยบกับสถานการณ์ในพม่า และเราได้เห็นการเอาเหตุการณ์เดือนตุลามาเทียบกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน น่าสนใจครับ เดี๋ยวผมจะเข้ามาเขียนต่อ  ในประเด็น การอ้างพระราชดำรัส โดยไม่รู้จริง และประเด็นคุณ piangdin ถ้าผมมีเวลา และถ้าทุกความเห็นในกระทู้นี้ไม่ถูกลบ )  จากคุณ : - 072648 - [ 6 ต.ค. 49 13:53:32 A:58.64.44.171 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 68   http://www.youtube.com/watch?v=iSksXHoi87s ^ ^ แค่เอามาให้ฟังกันเล่น ๆ...ไม่ได้เห่อฝรั่งอะไรนะคะ แต่พอดีไปเจอใน youtube.com เห็นเป็นความเห็นของคนธรรมดาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเมืองไทยเรา น่าจะเป็นนักศึกษานะ  ฟัง ๆ ดูแล้ว ก็น่าคิดนะ..  จากคุณ : JC2002   - [ 6 ต.ค. 49 13:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 69   http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod  จากคุณ : V - [ 6 ต.ค. 49 15:46:58 A:71.32.166.167 X: TicketID:128000 ]

ความคิดเห็นที่ 70   http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=5270&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai If the current "honourable" PM was the leader of the killer unit in Lopburi that gunned down more than 100 Thais during the tragic May 14 years ago, I request he initiate investigation into this issue, and bring justice to our people, some whose bodies taken and burnt in unknown places. If he really is the democratic general, he must show us his determination to lead Thailand to democracy which is not under the green boots. Bring us justice, give back our rights, and isolate troops from politics.  จากคุณ : V - [ 6 ต.ค. 49 15:48:57 A:71.32.166.167 X: TicketID:128000 ]

ความคิดเห็นที่ 71   จาก Youtube ข้างบนนั่น ฟังพี่คนนี้พูดแล้วก็ขำ พี่แกมาบอกว่าคนไทยอยากจะให้เด็กรุ่นใหม่เติบโตไปกับความรู้สึกที่ว่า Coup d'Etat เป็นเรื่องปกติหรืออย่างไร อยากตอบพี่แกมากเลยว่า ที่ไม่อยากเห็นน่ะคือไม่อยากให้ลูกหลานเด็กรุ่นใหม่เติบโตขึ้นโดยเห็นว่าการโกงแบบสุดยอดโกงของผู้นำเป็นเรื่องปกติ การโกงทางนโยายเป็นเรื่องปกติ และต้องทำใจยอมรับไปว่ามันโอเค  ก่อนที่จะมี  Coup d'Etat ครั้งนี้ รัฐบาลที่ผ่านมาก็ทำเด็กรุ่นใหม่สับสนกับความหมายและหน้าตาของประชาธิปไตยไปจนไม่รู้จะยังไงแล้ว ไม่ได้เป็นทหาร ไม่ได้เป็นลูกหลานทหาร ( เดี๋ยวจะโดนแดกดัน ) แต่เข้ามาให้กำลังใจคุณ 072648 ค่ะ  จากคุณ : unwritten  - [ 6 ต.ค. 49 16:04:01 ]

ความคิดเห็นที่ 72   คุณ 072648 ครับ ผมว่าเดี๋ยวมันก็ยาวอีก บอกได้เลยว่า ผมมีเจตนาสร้างกระแส แน่นอน ให้ได้เห็นตามสิ่งที่ผมคิดว่าถูกต้อง เป็นธรรม ไม่เลว ไม่ัชั่ว ไม่ให้คล้อยตามไปกับสิ่งที่เลวทราม ต่ำช้า อำนาจ บาทใหญ่ ผิดกฎหมาย จำกัดสิทธิมนุษยชน ซึ่งมันก็เป็นสิทธิของผม  ส่วนผู้ที่"สนับสนุน" และ "เห็นดีเห็นงาม" กับการ"ปฏิวัิติรัฐประหาร" จะสร้างกระแส จะปั่นหัวคนไทย ก็เป็นสิทธิของท่าน ผมไม่ได้ว่าอะไร ก็เชิญทำไป เพียงแต่ขอให้ยอมรับว่านี่คือกติกา ใครที่มีเหตุผลที่ทำให้คนอ่าน เห็นคล้อยตามได้ ก็เป็นความสามารถของคนนั้นนั่นเอง  ส่วนประเด็นหยุมหยิมอย่างที่คุณอ้างข้างบน ถ้าได้อ่านใน #53 มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว มีประโยคทอง ที่เขาได้พูดอยู่ ซึ่งถ้้าแปลเป็นไทย ก็ไม่ได้ต่างจากที่ piangdin เขียนเอาไว้ตรงไหน ในความหมาย แต่ในความรู้สึกส่วนตัวของเขา เขาจะคิดเห็นยังไงกับรัฐประหารอย่างที่คุณสงสัย ผมก็ไม่ทราบ เพราะผมไม่เคยไปนั่งทานกาแฟกับเขา และก็คงไม่มีใครทราบ ยกเว้นว่าเจ้าตัวจะมาบอกในพันทิปเอง  แต่ผมก็เข้าใจ ว่าคุณก็กำลังทำหน้าที่ของคุณ (ตามย่อหน้าที่สอง) ก็เลยไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร และผมก็กำลังทำหน้าที่ของผม(ตามย่อหน้าที่หนึ่ง) ก็ เป็นไปตามเกมส์ ก็เข้าใจได้และไม่ได้มีปัญหา ก็ถือว่าอย่างน้อย คุณก็ทำการบ้านมาบ้าง ไม่ได้เข้ามาแบบมือเปล่า ก็เป็นการบ้านที่มีเหตุผล แต่ก็ยังไม่ได้ตอบคำถามอะไรเท่าไร  ผมก็จะเก็บกระทู้นี้ (และกระทู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง) เอาไว้เหมือนกัน ไว้อีกสักสิบปี เราคงได้คำตอบทางประวัติศาสตร์ ว่าคนที่สนับสนุน หรือ คัดค้านการรัฐประหาร สุดท้ายแล้ว จุดยืนของใครจะส่งผล"เสียหาย" หรือ "ดี" ต่อประเทศชาติมากกว่ากัน แม้ผมจะไม่ได้รู้สึก"ยินดี" ถ้าหากจะต้องชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ บนความ"เสียหาย" ของประเทศเลย ก็ตาม ถ้าผลออกมาเป็นอย่างแรก  จากคุณ : .. (B.F.Pinkerton)   - [ 6 ต.ค. 49 22:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 73   ปกติไม่ได้เข้ามาในห้องนี้ แต่มีน้องแนะนำให้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ชอบความเห็นของคุณ 072648 ค่ะ รออ่านประเด็นอื่นๆ อยู่นะคะ (จากคห.67)  จากคุณ : กระตู้วู้  - [ 6 ต.ค. 49 22:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 74   คุณความคิดเห็นที่ 71 คิดว่าทหารไม่โกงเหรอ คุณเคยได้ยินคําว่า "'งบลับ" ไหม? รู้จัก General Kongsompong ไหม?  จากคุณ : ??? - [ 6 ต.ค. 49 22:30:26 A:58.9.126.30 X: TicketID:129142 ]

ความคิดเห็นที่ 75   ขอบคุณคุณ JC2002 นะคร้าบที่นำ link VDO Youtube มาให้ดู น่าสนใจดีครับ อย่างน้อยก็ทำให้เห็นอีกมุมมองหนึ่ง แม้จะเป็นของคนต่างชาติที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียจริง ๆ กับรัฐประหารครั้งนี้ แต่คนไทยบางคนซะอีก ไม่มีโอกาสได้รับรู้ รับฟัง ข่าวสารข้อเท็จจริงต่าง ๆ อย่างรอบด้าน เพราะโดนจำกัดสิทธิ อนิจจา  จากคุณ : Valence - [ วันเกิด PANTIP.COM 00:34:38 A:72.37.135.13 X: TicketID:106712 ]

ความคิดเห็นที่ 76   เคยเห็นอาจารย์สอนprivacy มองหน้าเราอยู่ พอพูดคำว่าdemocracy แล้วหลบหน้ามองไปทางนักเรียนคนอื่นมั้ย มันเป็นความรู้ที่เยี่ยมมากเลยล่ะ จะบอกให้  ขอบคุณความเห็น63 มากครับ เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดจริงๆ  จากคุณ : :) (PaLLMtOgO)  - [ วันเกิด PANTIP.COM 05:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 77   ตลกดีที่เห็นคนเดียวกันที่เคยพูดจาดูหมิ่นเบื้องบน พูดจาถึงองคมนตรีด้วยคำพูดไม่สมควร มาวิจารณ์การกระทำอย่างอื่นว่า เลวทราม ต่ำช้า ช่างน่าสงสาร - two thumbs up ให้คุณ 072648 !!!  จากคุณ : anonymous - [ วันเกิด PANTIP.COM 06:28:20 A:67.183.50.243 X: TicketID:129250 ]

ความคิดเห็นที่ 78   น่าจะตั้งกระทู้ต่างหากออกไปเลยนะ ว่าองคมนตรี ฯ เป็นบุคคลที่สามารถวิจารณ์ได้หรือไม่? องคมนตรีสมควรลงมาเล่นการเมืองหรือไม่ บทบาทขององคมนตรีต่อการรัฐประหาร เอากันตรง ๆ ไปเลย ดีไหมครับ  ไม่งั้นมันก็..ช่างไม่ตรงประเด็น ช่างงมงาย หุหุ รบกวนตั้งกระทู้ใหม่เลยครับ ผมสนับสนุน และจะช่วยไปตอบให้ อย่ามาสร้่างประเด็น"เบี่ยงเบน"ในนี้เลย ปล.ถ้ามีอมยิ้มก็เอามาใส่ก็ดีนะครับ จะได้รู้ว่ากำลังถกเถียงกับใครอยู่ แ่ต่ถ้าไม่เคยมีก็แล้วไป แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 07:55:09  จากคุณ : B.F.Pinkerton   - [ วันเกิด PANTIP.COM 07:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 79   ที่เรามานั่งเถียงกันอยู่นี่ก็เพราะพื้นฐานความคิดไม่เหมือนกันไง กลุ่มแรกคิดว่าคนกลุ่มหนึ่งในเมืองไทยไม่สามารถทำอะไรผิดได้ ไม่สมควรมีใครมาวิจารณ์ ไม่เคยทำอะไรผิด เป็นคนที่เห็นแก่ประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ คล้ายๆ god ว่างั้นเถอะ อีกกลุ่มคิดว่าทุกคนทำผิดได้และถ้าทำผิดควรถูกวิจารณ์ได้อย่างที่ระบบประชาธิปไตยควรจะเป็น  เมื่อพื้นฐานความคิดต่างกันตรงนี้ต่างกันพูดยังไงก็ไม่เข้าใจกัน แต่ถ้าลองคิดดูดีๆความคิดพื้นฐานของคนกลุ่มแรกนั้นผิดตั้งแต่ตรรกะแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่ภายใต้ระบบประชาธิปไตยเราไม่สามารถวิจารณ์คนกลุ่มหนึ่งได้ และยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ถ้าคิดว่าคนกลุ่มนี้อยู่เหนือคนอื่นเพราะไม่เคยทำอะไรผิด เพราะหลักฐานทางประวัติศาสตร์มันบอกอีกอย่าง เมื่อคนส่วนใหญ่คิดอย่างคนกลุ่มแรกได้ แม้ชื่อจะเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย จริงๆแล้วมันก็คือระบบเผด็จการนั่นเอง ถ้ากรรมมีจริง ตอนนี้ก็เริ่มกรรมสนองกรรมแล้วแหล่ะ จำ Field Marshal Sarit Thanarat ได้ไหม ที่ฆ่าประชาชนเหมือนผักปลา ฉ้อราษฎร์บังหลวงมากที่สุดคนหนึ่ง ตอนมีชีวิตอยู่เขาสนิทกับใครหรือ  จากคุณ : ไม่อยากจะคิด - [ วันเกิด PANTIP.COM 08:08:17 A:70.21.39.221 X: TicketID:124147 ]

ความคิดเห็นที่ 80   การวิจารณ์น่ะมันทำได้อยู่แล้ว แต่ควรอยู่ในกรอบที่สมควร ใช้คำพูดที่สมควร ไม่ใช่คำพูดอย่างกับว่าเป็นเพื่อนเล่นกับตัวเอง  พอต้องมาเห็นคนๆเดียวกันนั่นออกความเห็นว่าผู้อื่นมีการกระทำที่ต่ำ เลยรู้สึกขำ ปนสงสารพิลึก แล้วมันก็ไม่ได้ผิดประเด็นตรงไหน กระทู้นี่แต่แรกเริ่มตั้งขึ้นมาเพราะเจ้าของกระทู้เห็นว่ามีการใช้คำพูดวิจารณ์ที่ไม่เหมะสมถึงเบื้องบนอยู่แล้ว เรื่องประเด็นอมยิ้มไม่อมยิ้มนี่เป็นเรื่องที่อ่อนมากเลย ถ้าใครเห็นด้วยเป็นพวกเดียวกับตัวยกพวกใช้บัตรผ่านมา แบบนั้นไม่มีปัญหา ไม่ต้องไปถามหาอมยิ้ม แต่ถ้าคนเห็นขัดกันต้องถามหาอมยิ้มทันที  คนมีอมยิ้มรุ่นเก่าที่ไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนตัวกับทางพันทิปมันต่างอะไรจากคนที่ใช่บัตรผ่าน คนที่ใช้บัตรผ่านก็มีTicketID เป็นตัวแสดงเช่นกัน อย่างคุณ 072648 กับคุณ V นั่น ต่างก็ใช้บัตรผ่านทั้งนั้น แต่คนนั้นๆกลับมาในชื่อเดิม TicketID เดิม มันจะไปต่างอะไรกับคนมีอมยิ้ม  เด็กประถมมากถ้าจะมัวมานั่งคิดถึงเรื่องอมยิ้ม แทนที่จะเป็นเนื้อหาที่ความเห็นนั้นๆพูดถึง  จากคุณ : anonymous - [ วันเกิด PANTIP.COM 08:26:28 A:67.183.50.243 X: TicketID:129250 ]

ความคิดเห็นที่ 81   แค่ถามถึงอมยิ้ม ใยต้องโกรธเคืองไปใย เราก็แค่อยากรู้ ว่ากำลังสนทนากับผู้ใดอยู่ ถ้าท่านไม่มีก็ไม่ต้องขัดเคืองใจ ก็เท่านั้น... ตอนนี้บทบาทขององคมนตรีคลุมเครือมาก รัฐธรรมนูญฉบับเก่า ท่านก็บอกไว้ชัดว่าองคมนตรีเ็ป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยการเมือง ..แล้วในที่สุดไฉนเป็นเช่นนี้เล่า สุดท้ายนี้ท่านคิดว่าบทบาทของประธานองคมนตรี ส่งผลในแง่ "เสริมสร้าง" หรือ "ทำลาย" ชื่อเสียงและเกียรติภูมิของสถาบัน ? ไหน ๆ ก็ไหน ๆ รบกวนท่าน TicketID:129250 กับท่าน 072648 ลองวิจารณ์บทบาทขององคมนตรีและประธานองคมนตรี ในทัศนะคติของท่าน ให้ฟังหน่อยสิครับ ว่าท่านเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารครั้งนี้อย่างไร ในลักษณะไหน ความขัดแย้งกับระบบทักษิณ เกิดมาอย่างไร ใครอยู่เบื้องหลัง ทำไมทักษิณถึงต้องเรียกว่า "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ท่านไปทำอะไร ไปล้วงลูกตรงไหน ทำไมท่านต้องลงมาวุ่นวาย ทำไมท่านถึงถูกเรียกว่า"โม่ง" ฯลฯ  ถ้าเผื่อมีน้ำหนัก อาจจะเอาไว้ประกอบการพิจารณา.. ปล. คห. 79 พูดได้ตรงใจครับ  "แต่ถ้าลองคิดดูดีๆความคิดพื้นฐานของคนกลุ่มแรกนั้นผิดตั้งแต่ตรรกะแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่ภายใต้ระบบประชาธิปไตยเราไม่สามารถวิจารณ์คนกลุ่มหนึ่งได้ และยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ถ้าคิดว่าคนกลุ่มนี้อยู่เหนือคนอื่นเพราะไม่เคยทำอะไรผิด เพราะหลักฐานทางประวัติศาสตร์มันบอกอีกอย่าง" แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 09:32:22 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 09:30:41  จากคุณ : B.F.Pinkerton   - [ วันเกิด PANTIP.COM 09:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 82   อยากให้กลับไปอ่านความเห็นแรกของเราใหม่ จะเห็นได้ว่าเราไม่เคยเอ่ยอะไรในลักษณะที่ว่า ห้ามมีการวิจารณ์องคมนตรี แต่เราพูดถึงคำพูดที่ใช้ ว่าควรให้มันอยู่ในกรอบความเหมาะสม มันตลกและยากที่จะโอนเอียงไปเห็นภาพว่าอีกฝ่ายมีการกระทำที่ต่ำทราม ต่ำช้า ในขณะที่คนกล่าวถึงก็มีพฤติกรรมที่เข้าข่าย แค่ในรูปแบบที่ต่างกัน ประเด็นอมยิ้ม ไม่มีอะไรให้โกรธ แต่ทีอธิบายมายาวเพราะรู้สึกผิดหวัง แค่ไม่นึกว่าคนทีถกเถียงประเด็นใหญ่โต จะยกเอาเรื่องอมยิ้มที่มันไม่มีความสำคัญอะไรเลยขึ้นมา เหมือนว่ามัน big deal นัก ทั้งๆที่คนใช้บัตรผ่านมีข้อด้อยกว่าแท้ๆที่ไม่สามารถกลับมาแก้ข้อความในอีกห้านาทีข้างหน้าได้ ถ้าเกิดรู้สึกขึ้นมาว่าพูดอะไรที่เป็นภัยกับตัวเองออกไป ประเด็นที่คุณถามมาให้เราตอบ เราไม่แน่ใจว่าเรากับคุณมีความเข้าใจที่ตรงกันหรือไม่ว่า ตอนที่อดีตนายกทักษิณพูดประโยคนั้นน่ะ ทักษิณตั้งใจให้หมายถึงคณะองคมนตรีหรือว่าหมายความถึงใครกันแน่ -_-" ด้วยความเคารพ  จากคุณ : anonymous - [ วันเกิด PANTIP.COM 10:27:07 A:67.183.50.243 X: TicketID:129250 ]

ความคิดเห็นที่ 83   ขอบคุณคุณ BFP สำหรับคำอธิบายบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวผมได้ ผมไม่พูดไม่เถียง หากหาสาระเพิ่มเติมให้แก่สิ่งที่ผมพูดไปแล้วไม่ได้... บางทีการไม่พูดดีกว่าพูด คนถามควรหาคำตอบให้ตัวเอง โดยออกจากกะลาความคิดของตัวเอง แล้ววิจารณ์กรอบคิดของตัวเองก่อน แล้วลงไปในรายละเอียด ว่ามีอะไรที่อาจจะพูดหรือคิดได้แตกต่างออกไปได้บ้าง   หากสองคนเถียงกันบนตำแหน่งยืนที่ต่างกันแล้ว บางทีคำอธิบายสำหรับคนบางคน ก็ไม่จำเป็น  เจ้าขุนมูลไพร่ฟ้า................ เดียวกัน กินอยู่เกิดตายผัน............... บ่ได้ หัวโขนใส่จนตัณ-............... หาเพิ่ม พูนเฮย คนทั่วหลงตามไซร้............. นั่นให้ผลยาว กษัตริย์ทรงยิ่งกล้า............. ราชธรรม เราบ่จองใจทำ................... เสื่อมร้าว ทุกกลย่างตามกรรม............ เราบ่ง ชัดนา เราบ่จำเป็นน้าว.................. ใส่ร้ายกษัตริย์ดี ความดีวัดบ่ได้................... สหายเฮย ดีหนึ่งกลับเลวเฉย.............. คู่หนี้ มีไผชั่วจนเคย................... ดีบ่ เห็นแฮ คนแต่งภาพฉาบชี้.............. นั่นแท้ดีเสมอ กาลามสูตรชี้.................... ทางธรรม หลงเชื่อเพราะลืมถาม......... ดั่งเพ้อ หากหลงว่าคนงาม.............. เพราะศักดิ์ เมืองย่อมจุคนเฟ้อ.............. บ่ใช้ปัญญา เราเห็นสัจจ์อย่างใช้............ สมองนำ ใจย่อมชมดีทำ.................. บ่บ้า กาลใดสิ่งเห็นยำ................ ยีย่ำ เมืองนา เราบ่มุดหัวล้า.................... ย่องยิ้มพอใจ เกิดมาเลือดช่วยเนื้อ........... ครองกาย  มิว่าหญิงหรือชาย............... คู่ให้ ศักดิ์ศรีย่อมเหมือนหมาย...... ตามสิทธิ มนุษย์นา เราบ่วัดคนไว้..................... อย่างแย้งธรรมธาร ปรารถนาดีจาก เพียงดิน ณ อดีตมหานครคาบูล เมืองที่กลายเป็นซากสงคราม เพราะโกรธ หลง โลภ ของชนในชาติ เป็นหลัก  จากคุณ : piangdin   - [ วันเกิด PANTIP.COM 11:00:39 ]

ความคิดเห็นที่ 84   ความคิดเห็นที่ 80  การวิจารณ์น่ะมันทำได้อยู่แล้ว แต่ควรอยู่ในกรอบที่สมควร ใช้คำพูดที่สมควร ไม่ใช่คำพูดอย่างกับว่าเป็นเพื่อนเล่นกับตัวเอง  จากคุณ : คนข้างบน - [ วันเกิด PANTIP.COM 11:22:12 A:70.21.39.221 X: TicketID:124147 ]

ความคิดเห็นที่ 85   ความคิดเห็นที่ 80  การวิจารณ์น่ะมันทำได้อยู่แล้ว แต่ควรอยู่ในกรอบที่สมควร ใช้คำพูดที่สมควร ไม่ใช่คำพูดอย่างกับว่าเป็นเพื่อนเล่นกับตัวเอง  === ความเห็นคุณมัน subjective นะ เพราะไม่ใช่ทุกคนมีกรอบความคิดแบบเดียวกับคุณ บางคนไม่คิดว่าต้องทำตัวต่ำต้อยกว่าคนที่มีตำแหน่ง ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งผิดมิใช่หรือ คนไทยส่วนใหญ่ก็คิดอย่างคุณแหล่ะเพราะถูกสอนมาอย่างนี้ ให้คิดในกรอบนี้ ซึ่งบางทีทำให้เราไว้ใจคนผิด และสิ่งที่ได้อย่างหนึ่งก็คือวัฒนธรรมรัฐประหารที่เราเห็นกันอยู่  จากคุณ : คนข้างบน - [ วันเกิด PANTIP.COM 11:23:09 A:70.21.39.221 X: TicketID:124147 ]

ความคิดเห็นที่ 86   ผมเห็นว่าพลเอกเปรมน่าจะออกมากล่าวชี้แจงข้อสงสัย และรวมไปถึงข้อกล่าวหาที่ว่าท่านมีส่วนรู้เห็นแต่แรกเริ่มกับรัฐประหารครั้งนี้หรือไม่ ประชาชนจะได้คลายข้อสงสัย  ประชาชนต้องการทราบความจริงจากท่าน และคงไม่มีประชาชนที่จงรักภักดีคนใดที่ต้องการให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแอบอ้างพระองค์เพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่ตนเอง หากท่านยังคงสงวนท่าที จะสุ่มเสี่ยงกับการที่ประชาชนส่วนหนึ่งอาจมองท่านไม่ต่างไปจากคุณทักษิณที่ไม่พูดให้ชัดเจนเรื่องเว้นวรรค และก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยไปทั่วทั้งสังคม  จากคุณ : Octave  - [ วันเกิด PANTIP.COM 14:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 87   คุณความคิดเห็นที่ 79 ตอบดีนะ เห็นด้วยที่ว่า  "ที่เรามานั่งเถียงกันอยู่นี่ก็เพราะพื้นฐานความคิดไม่เหมือนกันไง กลุ่มแรกคิดว่าคนกลุ่มหนึ่งในเมืองไทยไม่สามารถทำอะไรผิดได้ ไม่สมควรมีใครมาวิจารณ์ ไม่เคยทำอะไรผิด เป็นคนที่เห็นแก่ประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ คล้ายๆ god ว่างั้นเถอะ อีกกลุ่มคิดว่าทุกคนทำผิดได้และถ้าทำผิดควรถูกวิจารณ์ได้อย่างที่ระบบประชาธิปไตยควรจะเป็น  เมื่อพื้นฐานความคิดต่างกันตรงนี้ต่างกันพูดยังไงก็ไม่เข้าใจกัน แต่ถ้าลองคิดดูดีๆความคิดพื้นฐานของคนกลุ่มแรกนั้นผิดตั้งแต่ตรรกะแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่ภายใต้ระบบประชาธิปไตยเราไม่สามารถวิจารณ์คนกลุ่มหนึ่งได้ และยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ถ้าคิดว่าคนกลุ่มนี้อยู่เหนือคนอื่นเพราะไม่เคยทำอะไรผิด เพราะหลักฐานทางประวัติศาสตร์มันบอกอีกอย่าง เมื่อคนส่วนใหญ่คิดอย่างคนกลุ่มแรกได้ แม้ชื่อจะเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย จริงๆแล้วมันก็คือระบบเผด็จการนั่นเอง"  ส่วนคุณ piangdin ก็มีจุดยืนของตนเองชัดเจนมาแต่ต้นแล้ว (ตั้งแต่แกเข้ามาพันทิป) แล้วก็เปิดเผยหน้าตาและความคิดใน Blog ของแกอย่างชัดเจน เชื่อว่าแกเป็นคนไทยไกลบ้านที่รักชาติ และไม่ได้มีเจตนาที่จะหมิ่นเบื้องสูงหรอก  จากคุณ : Anti dictatorship - [ วันเกิด PANTIP.COM 15:27:21 A:58.9.127.82 X: TicketID:129142 ]

ความคิดเห็นที่ 88   #79 เจ๋งมากฮะ.... ทุกๆคนลองเปิดใจให้กว้างนะฮะ และมองโลกจากมุมมองใหม่ๆดู คุณอาจจะพบอะไรที่น่าสนใจก็ได้  จากคุณ : shory   - [ วันเกิด PANTIP.COM 16:34:21 ]

ความคิดเห็นที่ 89   Field Marshal Sarit Thanarat  .. คนนี้ ถ้าจำไม่ผิด เป็นคนปกครองบ้านเมืองที่เด็ดขาด ชาวประชาสะใจในความเฉียบขาดเหล่านั้น ทำผิดตรงนั้น ก้อลงโทษตรงนั้น คนวางเพลิงเผาบ้าน จับได้คาหนังคาเขา ก้อยิงทิ้งเสียตรงนั้น ไม่ต้องทำตามกฎหมายหรอก ประชาชนก้อชอบใจ  ...คุ้นๆมั้ย  จากคุณ : PaLLMtOgO  - [ วันเกิด PANTIP.COM 20:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 90   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- วิธีการที่คุณ B.F.Pinkerton ใน rep# 72 ใช้เขียนตอบสิ่งที่ผมเขียนใน rep#67 ทำให้ผมต้องออกมาชี้แจงดังนี้  ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1.  กระทู้จะยาวแค่ไหนไม่สำคัญ ตราบใดที่ประเด็นหลักของกระทู้ไม่ถูกเฉไฉ หรือบิดเบือนไป ผมคงไม่ต้องมาอธิบายมากว่า ประเด็นหลักในกระทู้นี้คืออะไรและจุดประสงค์ที่ผมต้องเข้ามาคืออะไร คนที่รู้เห็น ติดตามอ่านมาตั้งแต่แรก คงเข้าใจได้ดี ผมยังไม่หลง หรือลืมประเด็นหลักของกระทู้นี้ สิ่งที่ผมจำเป็นจะต้องเขียน ผมจะทำอย่างแน่นอน ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีบุคคลที่มีพระคุณใหญ่หลวง ทำให้ประเทศอยู่รอดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆทั้งจากภายนอกและในประเทศมาจนถึงทุกวันนี้  การวิจารณ์หรือออกความเห็นอะไรต่างๆ สามารถทำได้ แต่ควรจะต้องใช้สามัญสำนึกที่มีอยู่ในฐานะคนไทย ที่เป็นหนี้บุญคุณ ของแผ่นดิน ควรจะคิดคำนึงถึงความเหมาะสมทั้งในแง่ของระดับว่าควรหรือไม่ที่จะจะลามปามจาบจ้วงไปถึงขั้นไหน  และในแง่ของความเหมาะสมในการใช้ภาษา ซึ่งมันบ่งบอกถึงเบื้องลึกของระดับจิตใจของผู้นั้น  2. ดีที่คุณ B.F.Pinkerton จะทำแบบเดียวกับที่ผมจะทำ คือ ต้องการให้กระทู้นี้ถูกจดจำไป เป็นสิบปี ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เรามาช่วยกันสร้างมาตรฐานใหม่ในการแสดงความคิดเห็นในเวปพันทิบ (เอาแค่ห้องไกลบ้าน เพราะผมแทบจะอยู่ที่นี่ที่เดียว)  ดังนั้นเราควรช่วยกัน make sure ว่าทุกๆความเห็นในกระทู้นี้จะไม่ถูกลบหรือแก้ไข และกระทู้ทั้งกระทู้จะไม่ถูกลบจนกว่า เราจะได้ข้อสรุปที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีได้ในเงื่อนไขที่มีอยู่ ขอบคุณที่คุณบอกว่า ผม "ทำการบ้านมาบ้าง" จริงๆ ผมรู้สึกว่า ผมมาช่วยอธิบายการบ้านให้คนที่ไม่มีปัญญาคิดวิเคราะห์เอง จะไปลอกของคนอื่นมาใช้ ก็เอามาใช้อย่างรู้ไม่ถึงและไม่รอบ และเอามาอ้างในลักษณะที่คนอื่นๆอาจเข้าใจผิดได้  และที่สำคัญคือเจ้าของการบ้านตัวจริงอาจจะไม่ happy ที่การบ้านของเขาถูกเอามาใช้อ้างถึงอย่างไม่เข้าใจ ดังนั้นสิ่งที่ผมทำใน rep# 67 ตรงนี้อย่างน้อยที่สุดจะช่วยทำให้มีการตรวจสอบอย่างครบถ้วนและรอบด้านก่อนที่จะเอาการบ้านของคนอื่นมาใช้  3. **ข้อนี้สำคัญที่สุด***  ก่อนที่เราจะถกเถียงกันต่อไป ในเมื่อเราเห็นตรงกันว่าต้องการให้กระทู้นี้เป็นกระทู้ reference ผมต้องการ set the record straight  ผมเชื่อว่าเราต่างไม่ต้องการให้ reference นี้ถูกบิดเบือน ตีขลุม หรือ reduced ประเด็นลงไปเป็นบทสรุปหยาบๆที่ไม่เป็นจริง 3.1 "ส่วนผู้ที่"สนับสนุน" และ "เห็นดีเห็นงาม" กับการ"ปฏิวัติรัฐประหาร" จะสร้างกระแส จะปั่นหัวคนไทย ก็เป็นสิทธิของท่าน" ในย่อหน้าที่สองของ rep# 72 คุณ B.F.Pinkerton สรุปแบบนั้นและระบุชัดเจนว่าหมายถึงผม จากประโยคนี้ในย้อหน้าที่ 4 ว่า "แต่ผมก็เข้าใจ ว่าคุณก็กำลังทำหน้าที่ของคุณ (ตามย่อหน้าที่สอง)" ---> ตรงนี้ผมขอบอกสั้นๆว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ต้อง อธิบายมากไปกว่านี้ สิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมดตั้งแต่แรก ในทุกๆกระทู้ที่เกี่ยวข้อง ถ้าใครสามารถสรุปได้แบบนั้น ผมคิดว่า *คนๆนั้นมีปัญหาในการใช้เหตุผล *มองโลกได้แค่มิติเดียว* หรือไม่ก็ *มีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น* 3.2 ตรงนี้ผมขอบอกว่า ในกระทู้ต่างๆที่เกี่ยวข้อง ผมไม่เคยอ่านเจอความคิดเห็นไหนไม่ว่าจะบัตรผ่านหรืออมยิ้มที่เข้ามาเขียน แล้วผมสามารถสรุปลงไปว่า เป็นพวกที่"สนับสนุน เห็นดีเห็นงาม กับการปฏิวัติรัฐประหาร" เลย เท่าที่ผมอ่านๆมา หลายคน พูดมากกว่านั้น ปัญหา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันมีตัวแปรและความจำเป็นที่ซับซ้อนกว่า คนที่มองอะไรง่ายๆจะเข้าใจได้ อีกครั้งนะครับ คำว่า "สนับสนุน" "เห็นดีเห็นงาม" คุณ B.F.Pinkerton โปรดไปทำความเข้าใจความหมายของมันใหม่  ก่อนที่คุณจะมาบอกอย่างมักง่ายว่า ใครสนับสนุน เห็นดีเห็นงามกับอะไร (แต่ถ้าทั้งหมดนี้ คุณคิด และเข้าใจไปตามนี้จริงๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็ขอแสดงความเสียใจกับคุณด้วย ที่คิดวิเคราะห์ได้แค่นี้ แต่ผมยืนยันครับ ว่าทั้งตัวผมเองและคนอื่นๆ เท่าที่ผมอ่านเจอมา ยังไม่เคยสามารถสรุปได้ง่ายๆว่า สนับสนุน และเห็นดีเห็นงาม กับการทำรัฐประหาร-ในความหมายที่ คุณเข้าใจ-และ-เขียนให้คนอื่นเข้าใจ-ใน rep # 72 และ for the record ครับ ในขณะที่ผมเขียนนี้ ความคิดเห็นใน rep#72  ยังไม่เคยถูก edit ดังนั้น ทั้งหมดที่ผมเขียนมา คือการ respond กับ rep#72 นี้เท่านั้น) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เดี๋ยวผมจะหาเวลามาเขียนต่อสำหรับประเด็นหลักที่เหลือที่ยังไม่ได้เขียน (ต้องมาชี้แจงเพื่อ SET THE RECORD STRAIGHT ก่อน ไม่เช่นนั้นแนวทางของกระทู้และสิ่งที่ผมและคนอื่นๆพยายามมา อาจถูกบิดเบือน ตีขลุม ป้ายข้อหา กระทั่งลดทอนความหมายลงไปได้) และผมต้องการขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาในกระทู้นี้และทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผมอาจจะไม่ได้ mention ลงไปในชื่อ เพราะคิดว่าไม่จำเป็น แต่อยากให้รู้ว่าคุณทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ขอบคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง rep#18 ที่ยกเอาสิ่งที่ถูกลบไปมาลงใหม่ให้คนเห็นความจริง เวลานี้ที่เมืองไทยคือ คืนหลังวันออกพรรษา วันรุ่งขึ้นคือวันอาทิตย์ผมจะมาต่อที่เหลือ เพื่อให้กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่สามารถใช้เป็น reference ต่อไปในอนาคตอย่างสมบูรณ์ และมันจะถูกเก็บไว้ในรูปแบบของ webpage เฉพาะกิจ ดังนั้นเพื่อนๆคนไหนที่อยาก ออกความเห็นอะไร อย่างไร สามารถทำได้ และโปรดรับรู้ว่า ทุกๆอย่าง ที่คุณเขียนลงไปจะถูกเก็บไว้และสามารถ access ถึงได้  นำมาอ้างอิงถึงได้ตลอดเวลา ขออย่างเดียว อย่าให้มีการลบกระทู้ หรือ เปลี่ยนแปลง ตัดต่อ หรือลบบางความคิดเห็น  จากคุณ : - 072648 - [ 8 ต.ค. 49 02:24:54 A:58.64.44.156 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 91   หากใครจะเข้ามาแสดงความเห็นเพิ่มเติมกรุณาเข้ามาด้วยเหตุผล เพราะเหตุผลเท่านั้นที่จะเอาชนะหัวใจคนได้ ไม่ใช่คำข่มขู่ใดๆทั้งสิ้น หากแน่ใจในเหตุผลของตัวเองพอ คำข่มขู่ต่างๆก็ไม่มีความจำเป็น นอกเสียจากว่าไม่แน่ใจ  จากคุณ : for the record - [ 8 ต.ค. 49 04:46:37 A:70.21.39.221 X: TicketID:124147 ]

ความคิดเห็นที่ 92   นึกว่ารู้สึกอยู่คนเดียว คุณ TicketID:072648 เขียนทํานองข่มขู่จัง ทหารมาเองหรือเปล่าเนี่ย เข้ากับยุคสมัยเลยนะ  จากคุณ : Anti dictatorship - [ 8 ต.ค. 49 15:28:19 A:58.9.124.114 X: TicketID:129142 ]

ความคิดเห็นที่ 93   --------------------------------------- ประเด็นเรื่องการอ้างพระราชดำรัส --------------------------------------- ในกระทู้นี้มีการอ้างถึงพระราชดำรัส ในความคิดเห็นที่ 31 ผมอ่านความคิดเห็นนั้นอย่างถี่ถ้วน แล้วรู้สึกว่าเป็นการกระทำที่มีเจตนาดี แต่ผมแค่เป็นห่วง เพราะว่าพอมีการนำพระราชดำรัสตัดตอนมาแค่นั้น และนำมาอยู่ใน context แบบนั้น  อาจทำให้คนเข้าใจผิดไปได้ว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระดำริอย่างไรกันแน่ นี่คือสิ่งที่ผมเป็นห่วง  ผมมิบังอาจที่จะวิพากษ์หรือวิจารณ์พระราชดำรัส แต่ในระดับที่ผมสามารถทำได้ก็คือการ "รายงานสิ่งที่เกิดขึ้น" ว่าสถานการณ์ ในขณะนั้นมีอะไรที่อยู่ในข่ายที่พระองค์ทรงต้องยกขึ้นมาในคืนวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2548 ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา  ต่อหน้าคณะองคมนตรี นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลทั้งหลาย ในช่วงหลายเดือนก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษา บ้านเมืองอยู่ในภาวะยุ่งเหยิงเพราะว่ารัฐบาลภายใต้การนำของคุณทักษิณ มีเรื่องที่ ไม่สามารถตอบคำถามได้ (หลายต่อหลายเรื่องคือสิ่งที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในขณะนี้ ร่วมกับ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กำลังทำการตรวจสอบอยู่ทั้ง 8 คดี ) และมีอีก หลายเรื่องที่จะต้องจดจำไปตลอดประวัติศาสตร์การเมืองไทย เช่นการพยายามแปลงรูปรัฐวิสาหกิจเช่น กฟฝ ให้เป็นระบบทุน  หรือการโยกย้ายทุนที่เข้าข่ายการปั่นหุ้นอย่างแยบยลในตลาดหลักทรัพย์ โดยที่กลุ่มทุนในเครือของท่านมีพฤติกรรมแบบนั้นได้ แต่ ก.ล.ต. ไม่เคยตรวจสอบ เพิกเฉย  คุณทักษิณได้สร้างค่านิยมใหม่แห่งการเมืองไทยโดยการไม่ตอบคำถามนักข่าว แค่นั้นยังไม่พอ ท่านป้ายความผิดว่า เหตุการณ์ยุ่งเหยิง ในบ้านเมืองเกิดจากการทำข่าว ของสื่อต่างๆรวมไปถึงการวิจารณ์การทำงานของเขาต่างหาก มีเหตุการณ์ที่นักข่าวถูกทำร้ายในหน้าที่ มีรายการโทรทัศน์ที่ถูกปิด คลื่นวิทยุบางคลื่นถูกรบกวน รายการถูกถอด โดยไม่มีเหตุผล และที่สำคัญผู้สื่อข่าวบางคนถูกข่มขู่ ทำร้าย จนกระทั่งต้องหนีไปต่างประเทศ นี่ยังไม่รวมถึงพฤติกรรมที่เข้าข่ายคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งผมไม่ขอลงในรายละเอียด สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถค้นหาได้ เพราะคดีทั้งหมดอยู่ในชั้นศาล มีเอกสารที่สามารถสืบค้นได้ นี่คือเหตุการณ์ในขณะนั้น ซึ่งคนไทยที่อยู่เมืองไทยในช่วงเวลานั้นต่างรู้ดี และสำหรับผู้ที่ไม่ได้รับรู้สถานการณ์ตรงนั้นในเวลานั้น ถ้ามีความสนใจจริงๆ ก็สามารถ "ทำการบ้าน" ได้โดยหาจากข่าวต่างๆในช่วงหลายๆเดือนก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษาในปี 2548 อันดับต่อมา ถ้าเรามาพิจารณากันแล้ว ด้วยพระอัจฉริยภาพ บุคคลระดับประมุขของประเทศ และทรงครองสิริราชสมบัติยาวนานที่สุด ในประวัติศาสตร์โลก พระราชดำรัสเป็นการส่งความหมายในระดับของนักปราชญ์ เป็นสิ่งที่ต้องใช้ "โยนิโสมนสิการ" ในการ ทำความเข้าใจ คือต้องใช้ปัญญาพิจารณาอย่างแยบคาย มิใช่สักแต่ว่าแปลความหมายตามตัวอักษรคำต่อคำ พระราชดำรัสในคืนวันนั้น ถูกเรียกสั้นๆเป็นที่รู้จักกันว่า พระราชดำรัส The King can do no wrong  (Google keyword : พระราชดำรัส The King can do no wrong หรือจะเข้าไปค้นใน http://www.kanchanapisek.or.th ก็ได้) ทุกคนที่สนใจในประเด็นนี้ โปรดอ่าน หลายๆรอบ ซ้ำๆ อย่างพิจารณาด้วย "โยนิโสมนสิการ" ว่าความหมายจริงๆคืออะไรกันแน่ สำหรับในความเข้าใจของผมแล้ว...  พระราชดำรัส The King can do no wrong เป็นการสอนเตือนว่า-ใครก็ตาม-ที่บังอาจคิดจะมาเป็น หรือมาเทียบชั้น The King ควรจะต้องตรวจสอบการทำงานของตัวเองให้ดี และเปิดกว้างต่อการถูกวิพากษ์วิจารณ์ นั่นคือจะต้อง "can do no wrong" ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- The King can do no wrong ประโยคนี้ไม่ใช่ความหมายในเชิง Logical แบบ If A then B (A->B) แต่เป็น If and Only If (A<->B) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- "ทุกคนก็มีฐานะอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าเดอะคิงเก่ง แต่ทุกคนก็มีส่วนเก่ง เพราะมีตำแหน่งรับ รับตำแหน่งสูง ได้รับเหรียญตรา และคนชี้คนๆ นี้สูงมาก มียศศักดิ์ เดอะคิงเป็นยศศักดิ์สูง แต่คนที่อยู่ในที่นี้ ยศศักดิ์ทั้งนั้น ไม่ระวังตัวก็ตายเหมือนกัน ถ้าไม่ระวัง ไม่ใช่คนที่นึกว่า คนนั้นเขาต้องตายแน่ เพราะไม่ระวัง ทุกคนตั้งแต่แถวแรกจนถึงแถวสุดท้าย จนหลังแถว จนถึงข้างนอก ทุกคนถ้าไม่ระวังก็มีอันตราย" "ที่พูดอย่างนี้อาจแปลกๆหน่อย นี่ก็หาว่าแช่ง จริงๆ ไม่แช่ง สงสาร เพราะถ้าไม่ระวัง เมืองไทยตาย เพราะฉะนั้นจึงขอร้อง อย่างเดียวว่า มาวันนี้ให้ระวัง ๆ ระวังที่จะคิด จะพูด ที่ทำ เรื่องที่มี และก็บอกในหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ บอกว่าที่เดอะคิง ทำอะไร ก็ไม่วิจารณ์ และเขาบอกอย่าวิจารณ์ เพราะว่าเราทำอะไรไป ก็ต้องรู้ว่าเขาเห็นดี ไม่ดี ถ้าไม่พูด ก็หาว่าทำดีแล้ว" ผมขอย้ำว่า โปรดอย่าอ่านเฉพาะที่ผมอัญเชิญพระราชดำรัสมาบางส่วนบ้างบนนี้ โปรดอ่านทั้งหมดจาก Link ข้างบน และพิจารณาด้วยความแยบคายอย่างรอบด้านว่า พระดำริของพระองค์คืออะไรกันแน่ โปรดอ่านพระราชดำรัสทั้งหมดแล้วท่านจะรู้ว่า ในส่วนที่พระองค์ตรัสไว้ในประโยคที่ความคิดเห็นที่ 31 ยกมานั้น  ความหมายจริงๆคืออะไร ทรงดำริว่า ให้มาวิจารณ์พระมหากษัตริย์ ??? อันนี้ผมมิบังอาจรู้ได้  ในระดับที่ผมพูดได้คือ เพราะว่า The King can do no wrong ดังนั้น จึงอยู่เหนือพ้นการวิพากษ์ (If and ONLY if )ต่างหาก สำหรับคนอื่นๆไม่ว่าใครฐานะอะไรก็ตาม ถ้ายัง Do Wrong อยู่ คนๆนั้นยัง "subject to criticism" ถ้าไม่เช่นนั้นจะอันตราย "ตั้งแต่แถวแรกจนถึงแถวสุดท้าย จนหลังแถว จนถึงข้างนอก ทุกคนถ้าไม่ระวังก็มีอันตราย" (เดี๋ยวมาต่อครับ ในประเด็นที่เหลือ)  จากคุณ : - 072648 - [ 8 ต.ค. 49 19:07:11 A:58.64.44.24 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 94   กาลามสูตร ศาสดาฝากว่าไว้............ จงจำ สหายเอย เลิกเชื่อเพียงเพราะคำ...... เล่าเลื้อย ประเพณีที่ถือนำ............. อาจผิด เสียงเล่าลือจวบเจื้อย....... เหล่านี้จงตรอง อีกจงพิจที่อ้าง.............. คัมภีร์ ใครแต่งตำรามี.............. จุดจ้อง ตรรกะที่ดูดี................. ตรึกก่อน การกะความเทียบคล้อง..... ยิ่งต้องระวัง อาการออกต่อหน้า.......... กระไร จงอย่าเชื่อตามไป........... จักพลั้ง ลางคราสิ่งขานไข........... ตรงหลัก ตนเฮย จงอย่ารุดรีบรั้ง............... บอกอ้างเป็นจริง เห็นคนมองแค่หน้า.......... ดูดี การแต่งตัวสมศรี............ ผ่องพริ้ง พูดจาแจ่มวลี............... จงตรึก หยุดก่อนปลงจิตทิ้ง........ อย่าได้หลงพราง อาจารย์ครูแห่งเจ้า......... จงตรอง หากเชื่อโดยไม่ลอง........ แบ่งข้าง ปัญญาก่อครรลอง........... สานสืบ หากหยุดการเถียงง้าง....... อาจร้างทางธรรม กาลามสูตรนั้น.............. เพชรงาม เตือนจิตหลงวู่วาม.......... ตรึกซ้ำ สอนใจที่เหยียบหยาม.......โอนอ่อน บอกบ่งทางสู่ถ้ำ............. ซ่อนเนื้อสัจธรรม แต่งไว้นานแล้วครับ แต่ขอยกมาแปะ เผื่อจะทำให้คนคิดตามได้  จากคุณ : piangdin   - [ 8 ต.ค. 49 19:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 95   คุณ 072648 อย่าหยุดเขียนนะคะ มีคนอีกมากตามอ่านความคิดของคุณอยู่ ถ้าจะให้ดีช่วยไปสมัครสมาชิกทีเถอะค่ะ อยากหลังไมค์ไปคุยด้วยมากๆ เพราะชอบที่คุณเขียน  จากคุณ : unwritten  - [ 9 ต.ค. 49 13:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 96   ----------------------------------------  สามัญสำนึกไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาสอน  ----------------------------------------  ปกติเรื่องพวกนี้มันไม่ควรต้องมาพูดกันมาก ถ้านับย้อนไปแค่อาณาจักรสุโขทัย ประเทศไทยมีอายุทางวัฒนธรรมมามากกว่า 700 ปี  (5000 ปี! ถ้านับไปถึงบ้านเชียง) มันไม่ใช่แค่สามัญสำนึก มันเป็นเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นรากที่ฝังมา  และ for the record รู้ไหมว่า เด็กไทยที่มันเกิดและโตที่อเมริกาที่ผมรู้จัก มันยังรู้เลยว่าในหลวงอยู่ในฐานะอะไร เราอยู่ในฐานะอะไร  ฝรั่งที่มาทำงานที่เมืองไทย มาพึ่งพระมหากรุณาธิคุณ เขายังใส่เสื้อเหลืองไปร่วมงานพิธีฉลองสิริราชสมบัติ นั่งพนมมือร่วมกับคนไทย  บางครอบครัวเอาลูกเล็กๆไปด้วย เด็กฝรั่งใส่เสื้อเหลืองตัวเล็กๆ พ่อสอนให้พนมมือ ภาพแบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  ในชีวิตประจำวัน คุณคุยกับคนขายส้มตำด้วยวิธีพูดแบบหนึ่ง คุณคุยกับตำรวจที่พยายามเขียน ticket ให้คุณด้วยภาษาอีกแบบหนึ่ง  คุณคุยกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยด้วยภาษาแบบหนึ่ง คุณคุยกับผู้หญิงที่คุณต้องการขอไป dinner ด้วยภาษาอีกแบบหนึ่ง  ปกติเวลาคุณพูดคุยถึงบุคคลที่สามที่คุณรักและเคารพ บุคคลที่มีพระคุณต่อคุณ คุณจะใช้ภาษาที่สื่อถึงความเคารพรักและยกย่อง  เช่น เวลาคุณพูดถึงพ่อแม่คุณ (ไม่ว่าแง่มุมไหน) คุณใช้ภาษาระดับหนึ่ง ที่ต่างกันกับเวลาคุณคุยกับคนแปลกหน้าข้างถนน  ทั้งหมดนี้เรียกว่า สามัญสำนึก ใช่หรือไม่ ?  ถามว่าทำไมภาษาอย่างที่คุณ B.F.Pinkerton ใช้ในกระทู้ H4755069 หรืออย่างที่คุณ piangdin ใช้ในกระทู้ H4762524 ถึงเกิดขึ้นได้  (ทั้งสองกระทู้ถูกลบไปแล้ว แต่ผมเอ่ยขึ้นเพื่อให้กระทู้นี้เป็นกระทู้อ้างอิงที่สมบูรณ์ และกระทู้ทั้งหมดมันจะถูก link ถึงได้)  ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่จริง คุณควรตระหนักไว้ บางอย่างคุณไม่ควรไปแตะต้อง ที่ๆคุณไม่belong คุณไม่ควรก้าวเข้าไป  ไม่ใช่ว่าห้ามพูดถึงพ่อ พูดได้ แต่คุณจะพูดถึงพ่อ คุณใช้ภาษาที่ระมัดระวัง ภาษาที่สื่อถึงความเคารพรักบูชา นี่คือสามัญสำนึก  การออกความเห็นในเรื่องต่างๆเป็นสิ่งที่ทำได้ คุณจะวิเคราะห์อะไรของคุณ คุณทำได้ แต่คุณควรรู้ระดับของการใช้ภาษา  สามัญสำนึกไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาสอน และที่สำคัญ อย่าลามปามให้มันมากเกินไป คุณคิดว่าคุณอยู่ในระดับไหน  ในชีวิตของคุณ เคยสร้างสมบุญบารมีสร้างคุณความดีกับประเทศมาแค่ไหนเชียว ตอนที่ในหลวงขึ้นครองราชย์ คุณทำอะไรอยู่?  ระดับ ที่ผมหมายถึง ไม่ใช่ระดับในแง่ของสถานะเท่านั้น แต่หมายถึงระดับในแง่ของบารมีบุญคุณต่อประเทศที่สั่งสมเป็นสำคัญ  พิจารณาดูว่า ในหลวงของเรา พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้น 60 ปีแห่งการครองราชย์ พระราชกรณียกิจทั้งหมด  คุณใช้ชีวิตคุณทั้งหมดที่เหลือยังศึกษาไม่หมดเลยด้วยซ้ำ และทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาได้อีกแล้วในโลกนี้ ไม่ว่าจะที่ไหน  สิ่งที่คุณเขียนในความคิดเห็นที่ 75 ของกระทู้ H4755069 คุณเข้าใจผิดแล้ว คนทั่วโลกยกย่องนับถือและอิจฉาที่คนไทยมีในหลวง  พระองค์นี้ต่างหาก ชื่อเสียงไม่เคยเสียหาย และจะไม่มีวัน เพราะ The King can do no wrong ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นไปเพื่อ  ผลที่ดีที่สุดของบ้านเมืองในเวลานั้นๆ และตำแหน่งองคมนตรีไม่ใช่พวกขันธีการเมืองอย่างที่คุณเรียก อ่านความคิดเห็นที่ 39 ดีๆ  มีประโยคหนึ่งในกระทู้ H4755069 ผมหวังว่าคุณควรจะกลับไปทบทวนตัวเองซ้ำๆในสิ่งที่คุณพูดและทำทั้งหมด  "รักชาติจงรักภักดีต่อราชบัลลังค์ แบบโง่ ๆ และไร้วิสัยทรรศน์ ก็ไม่ต่างจากพวกทำลายชาติ ทำลายสถาบัน"  ลำพังแค่ "รักชาติและจงรักภักดี" ส่วนนี้ไม่มีปัญหาหรอก ทุกๆคนต่างก็รักชาติและจงรักภักดีต่อสถาบันฯ ทั้งนั้น  แต่ในส่วนที่ว่า "โง่ และไร้วิสัยทรรศน์" นี่แหละคือตัวปัญหาที่ ไปอยู่ในส่วนประกอบไหนก็มีผลแต่ทำลาย  จากคุณ : - 072648 - [ 10 ต.ค. 49 15:03:16 A:58.64.44.24 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 97   Khun 072648, I appreciate your time and efforts and I have no doubt in your patriotism shared by many of us here. But you're going to lose the argument if you continue on in this direction. Your premise is flawed and arguable.  จากคุณ : back to the drawing board - [ 11 ต.ค. 49 04:11:38 A:12.4.116.34 X: TicketID:129523 ]

ความคิดเห็นที่ 98   What happens here is for us to understand what a burden ignorance and arrogance might be on these institutions and on the people who built them.  For the record, this is not a one time thing, it shoud be clear that no one in particular needs to shoulder that burden alone.  And if that's the case, I ensure you that there must be someone who would still survive it for all of us.  จากคุณ : - 072648 - [ 11 ต.ค. 49 16:21:23 A:58.64.44.40 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 99   อันนี้แต่งไว้นานแล้วล่ะครับ แต่มีบางท่อนที่เข้าประเด็น ณ ที่นี้ ศรัทธา อันศรัทธาว่าไว้อย่าได้ฝืน ถึงเอาปืนกดหัวไม่กลัวหนี อาจบ่งปากบอกไว้ว่าไมตรี ในรากใจหรือมีสิ่งปะปน อ่านสาส์นเขาเจ้าอ่านให้หนักหนัก คำสลักคำไหนใส่ความข้น คำที่เห็นเป็นไปในหลายกล อ่านบรรทัดอ่านกลระหว่างกลาง ท่านสรุปว่าเขาเมาจริต ดังใจปิดเก็บคำกระหน่ำสร้าง ่ท่านรู้หรือกลางใจใดอำพราง ถึงกล้าครางขอดสอนละอ่อนฤา เรื่องยาหวานยาขมดมเพียงผ่าน ใครเขาอ่านอย่างไรใช่เหมือนหรือ ใครอยากอ่านพอใจไปฝึกปรือ ใครถ่มถุดย่อมถือเป็นสิทธิใจ สถาบันขอบอกมิหลอกเจ้า อยู่กลางใจใฝ่เฝ้ามิสงสัย เพลงสังคมสมภาพฉาบความนัย ลองถอดใจจักเห็นเป็นความจริง อย่าเอาใจจับการลืมงานตรึก สัจจ์แท้จริงตกผลึกจึงนอนนิ่ง หากมองเห็นในอดีตประณีตจริง จักไม่อิงทางใดให้ใจตรอม อันความจริงทั้งหลายในพิภพ อาจมีบวกมีลบมีเหม็นหอม เราเลือกรับสิ่งดีที่สมยอม ควรถนอมรักษ์ไว้ให้ไทยดี แต่เชิงปราชญ์มาดไว้บอกให้คิด อย่ายึดติดอารมณ์ผสมสี มองความจริงนอกกล่องลองอีกที คำเลวดีบอกไปใจเที่ยงกลาง  จากคุณ : piangdin   - [ 13 ต.ค. 49 13:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 100   ในความจริงเจ็บปวดยามแปลกลับ  สิ่งดีจับมาแจงตะแคงส่อง  อาจเห็นหนอนในภาพที่ฉาบทอง  หากเราตรองสิ่งบาปมีภาพบุญ  อันสังคมหมมหมักด้วยปลักบาป  เอาดีฉาบเพียงพอรอรับหนุน  จึงคงอยู่เคียงรอดตลอดจุล  การหันหุนหักหาญจะพาลจม  บัวสี่เหล่าเอาคลอจึงก่อโลก  อันสุขโศกมีมาพาสะสม  มองภาพเรียงรายออกบอกธรรมคม  เอาอารมณ์ออกไกลใจเที่ยงธรรม  อันเจ้าข้าหน้าไหนไพร่พญา  หากนำมาพิสูจน์รูดกรรมด่ำ  จักมองเห็นเช่นชาติสัตว์มีกรรม  การกระทำจึงก่อผลต่อไป  ขอเคียงใจร่ายร้อยรอยดีส่ง  เอาดีกลบรอยหลงตรงขอบด้าย  สานภาพสวยด้วยหลักธรรมชักใจ  หวังฟ้ารุ่งวันใหม่ให้ดีพอ  ห่วงใยบ้าน  จาก เพียงดิน  ณ ลานลุงแซม  จากคุณ : piangdin   - [ 20 ต.ค. 49 03:36:51 ]

---

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com




Ad By: .