Saturday, November 19, 2016

อเนก ซานฟราน-เพียงดิน รักไทย 20 พ.ย. 2559 ตอน ล้มเจ้าแล้วได้อะไร? อนาคตรัชกาลที่ 10?

อเนก ซานฟราน-เพียงดิน รักไทย 20 พ.ย. 2559 ตอน ล้มเจ้าแล้วได้อะไร? อนาคตรัชกาลที่ 10? 

---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้ง?¸



ถ่ายทอดสด อเนก ซานฟราน และ ดร. เพียงดิน หัวข้อ: ทำไมต้องล้มเจ้า? และการสร้างประชาธิปไตยช่วงรัชกาลที่ 10?

อย่าพลาด 6:30 น. นาฬิกา เช้าวันอาทิตย์ เวลาเมืองไทย 20 พ.ย. 2559
พบกับ อเนก ซานฟราน และ ดร. เพียงดิน
หัวข้อ: ทำไมต้องล้มเจ้า? และการสร้างประชาธิปไตยช่วงรัชกาลที่ 10?
ทางสถานีมหาวิทยาลัยประชาชน/ เครือข่ายมดแดงล้มช้าง /นปช. ยูเอสเอ และเครือข่ายเปลี่ยนระบอบ





ศรีสุวรรณ โวยถูกคุกคาม-ปองร้าย หลังไล่ตรวจสอบอำนาจรัฐ |

ศรีสุวรรณ โวยถูกคุกคาม-ปองร้าย หลังไล่ตรวจสอบอำนาจรัฐ | 

18 พ.ย. 2559 รายงานข่าวแจ้งว่า ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกแถลงการณ์ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง  เลขาธิการสมาคมฯ ถูกคุกคาม ปองร้ายจากการทำหน้าที่ตรวจสอบอำนาจรัฐ

แถลงการณ์ระบุว่า ตามที่เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่ดีในการติดตาม ตรวจสอบ การใช้อำนาจรัฐ การบริหารราชการแผ่นดินของผู้มีอำนาจที่อาจไม่เป็นไปตามกฎหมายตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทุก ๆ รัฐบาล อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งอาจจะเป็นการขัดขวางอำนาจและผลประโยชน์ของผู้ประสงค์ร้ายต่อบ้านเมืองก็เป็นไปได้นั้น

ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่เลขาธิการสมาคมฯและชาวบ้านได้ยื่นฟ้องหน่วยงานภาครัฐต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเพิกถอนแผน PDP2015 เสร็จแล้ว ได้นั่งรถส่วนตัวเดินทางกลับกันหลายคน แต่สังเกตเห็นว่า พอจะขึ้นรถมีชายนิรนามเดินเข้ามาถ่ายรูปเลขาธิการสมาคมฯ พร้อมกับมีรถยนต์ 2 คันได้ขับติดตามอย่างมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ขับรถจึงแสร้งเปลี่ยนเส้นทางรถ เพื่อสังเกตว่าจะยังคงถูกติดตามจริงหรือไม่ แต่ปรากฏว่ารถยนต์ทั้ง 2 คันดังกล่าวก็วกรถขับเปลี่ยนเส้นทางตาม ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปเส้นทางใด เลขาธิการสมาคมฯจึงตัดสินใจขับรถวกเข้า สน.บางเขน บริเวณอนุสาวรีย์หลักสี่ ซึ่งก็ปรากฏว่ารถยนต์ของผู้ขับตามเข้าไปใน สน.บางเขนเช่นกัน เมื่อทีมงานของสมาคมฯจอดรถและออกมาถ่ายภาพรถคันที่ตามดังกล่าว จึงทำให้ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวรู้ตัว จึงขับรถออกจาก สน.บางเขนหนีไป

กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นภัยคุกคามสิทธิ เสรีภาพ และสวัสดิภาพ และการทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองดีตามนโยบายของ หน.คสช. โดยตรง เลขาธิการสมาคมฯ จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ สน.บางเขน พร้อมหลักฐานภาพถ่ายทะเบียนรถคันที่ติดตามดังกล่าวแล้ว ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่อาจคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคตได้ ต่อการทำหน้าที่พลเมืองดีของเลขาธิการสมาคมฯที่มีต่อสังคมและประเทศชาติ อันมีลักษณะเป็นภัยมาใกล้เช่นนี้ อันสะท้อนให้เห็นถึงการยังคงมีพฤติการณ์ของการใช้อำนาจเถื่อน ข่มขู่ คุกคามประชาชนโยชัดแจ้ง กรณีที่เกิดขึ้นเลขาธิการสมาคมฯ จำต้องนำความรายละเอียดและหลักฐานไปยื่นขอความคุ้มครองจาก หน.คสช. และนายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 21 พ.ย. 2559  เวลา 11.00 น. ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (ศูนย์บริการประชาชน) ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล (ตึก กพ.เดิม) เพื่อขอความคุ้มครองจากหน.คสช. และนายกรัฐมนตรีต่อไป และหากเลขาธิการสมาคมฯถูกปองร้าย/ลักพาตัว/เสียชีวิต ก็เชื่อได้ว่ามีผลมาจากการตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบของผู้มีอำนาจที่เลขาธิการได้ยื่นตรวจสอบไว้ต่อ ป.ป.ช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน และ สตง. ประการเดียวเท่านั้น

ท้ายที่สุดแล้ว กรณี เบส อรพิมพ์ คือภาพสะท้อนของ "สงครามตัวแทน" ที่ชัดเจน

Pairat Makbanbueng #มิตรสหายท่านนั้นกล่าว #มันใช่
:
ท้ายที่สุดแล้ว กรณี เบส อรพิมพ์ คือภาพสะท้อนของ "สงครามตัวแทน" ที่ชัดเจน นี่คือการปะทะกันครั้งแรกหลังการสวรรคต ที่ทุกคนพร้อมใจเข้าสู่โหมดสงบเงียบ และเพียงหลังหมด30วันช่วงไว้ทุกข์ ก็เปิดศักราชระหว่างทหารกับกลุ่มการเมืองทันที

เบสนั้นเป็นตัวแทนของคนที่ทำงานรับใช้ทหาร ที่เชื่อว่าทัศนคติของคนในภูมิภาคที่เป็น "พื้นที่สีแดง"มีความรับรู้ผิดพลาดต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่ต้องเข้าไป "ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง"อย่างเร่งด่วน

จะพูดให้ถูกคือทหารมีความเชื่อแบบนั้นมายาวนานแล้วตั้งแต่ก่อนรัฐประหารด้วยซ้ำ เพราะคลิปที่มหาสารคามที่ถูกขุดมานั้นเกิดเมื่อต้นปี 2559 และเบสบอกว่าถูกว่าจ้างตั้งแต่ปลายปี 2558 ในการ "ปลุกพลังความรักสถาบันหลัก" และยอมรับกลางรายการจอมขวัญว่า "ภาคอีสานคือภาคที่เบสไปบ่อยที่สุด"

ความไม่พอใจของคนภาคอีสานคือแรงสะท้อนความอึดอัดที่มีต่อทหาร ยิ่งพอตอนเบสหลุดมาหมดเลยว่าเป็นโครงการไอโอทหาร ระดับความคลั่งแค้นเพิ่มขึ้นมากขึ้นๆ

ลองไปไล่อ่านคอมเมนต์ข่าวเกี่ยวกับเบส จะเริ่มเห็นคอมเมนต์โยงไปถึงกองทัพในฐานะผู้ว่าจ้างว่า "มีทัศนคติต่อคนอีสานอย่างไรกันแน่?" ล้มเจ้า? รักทักษิณ? ถูกหลอกง่าย? ไม่เข้าใจประชาธิปไตย(แบบคสช.)?

เพราะอีสานเป็นพื้นที่ที่ทหารไม่เคยเจาะได้ แม้แต่การทำประชามติที่เรียกได้ว่าคุมเบ็ดเสร็จ บีบเบ็ดเสร็จก็ยังชนะไม่ได้ แดงเถือกกันเกือบทั้งภาค ทหารจึงคิดว่าควรทำอย่างไรให้ "ปรับทัศนคติ"คนอีสานได้ ใช้ไม้แข็งไม่สำเร็จ ลองใช้ soft power (ที่ไม่ซอฟต์)แบบจ้างนักพูดไปไหม (ไม่ต่างจากบทบาท สมัคร-ดุสิต-ทมยันตีในหกตุลาฯ ที่ต้านคอมฯ)

พ.อ.วินธัยรีบออกมาปฏิเสธความสัมพันธ์ของกองทัพกับเบส แต่มีการขุดภาพขุดคลิปมาเรื่อยๆ เรื่องนี้ต้องจับตา อย่าให้กองทัพเทเบสเขี่ยเบสทิ้งเป็นแค่หมากตัวหนึ่ง แต่มันหมายถึงทัศนคติอันตรายของกองทัพต่อคนส่วนหนึ่งของประเทศที่ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

นี่คือเหตุผลที่ผมสนใจเคสของเบสมากกว่าพวกน็อต กราบรถกู หรือสมเถา แร้งแอร์เพราะพวกนั้นคือแรงปฏิกิริยาฉับพลัน ไม่ได้มีการวางแผนและคาดหวังผลล่วงหน้า.

แต่กรณีเบสนั้น ผ่านการจัดตั้ง การวางแผนมาอย่างดี อย่างที่เธอบอกว่าได้รับบรีฟเสมอก่อนที่จะไปพูดในแต่ละที่ "นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ"

ดร. เพียงดิน รักไทย 19 พ.ย. 2559 ตอน สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ นำการสร้างประชาธิปไตย

ดร. เพียงดิน รักไทย 19 พ.ย. 2559 ตอน สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ นำการสร้างประชาธิปไตย

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก






Friday, November 18, 2016

เปิดแผนลับการปฏิวัติ ของขบวนการอำนาจเก่า 3 ครั้ง ซ้อน ที่ล้มเหลว ! ในฤกษ์การปฏิวัติ ปี 59 !

เปิดแผนลับการปฏิวัติ
ของขบวนการอำนาจเก่า
 3  ครั้ง ซ้อน ที่ล้มเหลว !
 ในฤกษ์การปฏิวัติ ปี 59 !
___________________

ความพยายามอย่างยิ่ง !
ของขบวนการอำนาจเก่า
   ที่ต้องการยึดอำนาจ
เพื่ิอนำพาประเทศกลับไป
สู่การปกครอง ของขบวน
การอำนาจเก่า มีด้วยกัน
ถึง 3 ครั้งซ้อน ในปี 59
 ครั้งที่ 1  วัันที่ 25 ก ย 59
 ครั้งที่ 2  วันที่ 23 ต ค 59
 ครั้งที่ 3  วันที่ 18 พ ย 59
โดยการสร้างสถานการณ์
สำคัญให้เกิดกระแสความ
ชอบธรรมในการยึด อำนาจ โดยวิธีการดังนี้
1.ปล่อยกระแส โจมตี
สร้างข่าวเท็จ ปล่อยข่าว
ลวง ใส่ร้าย ป้ายสี 
2.กดดัน ประชาชน
พรรคการเมือง เครือข่าย
ประชาธิปไตย ต่างๆๆ
ผ่านเครือข่าย
ของขบวนการอำนาจเก่า
ด้วยวิธีการในทาง กฏหมาย สังคม สื่อต่างๆๆ
3.ระดมทุนจากเครือข่าย
อำนาจเก่าจากภาคเอกชน
 เตรียมการด้านกองกำลัง
4.สร้างกระแสมวลชน
ยืมมือ ชี้นำประชาชน
และสร้างกระแสการปฏิวัติ
ให้เป็นเครื่ิงมือในการ เคลื่อนใหว !
เพื่อสร้างปัจจัยในความ ชอบธรรมของการยึดอำ นาจเพื่อรักษาผลประ โยชน์ในเครืิอข่าย
       18 พ ย 59
     ฤกษ์การปฏิวัติ ! ความพยายามครั้งสุดท้าย
ก่อนจบสิ้นขบวนการ  อำนาจเก่าและเครือข่าย
ที่พยายามเชื่อมโยงสร้าง
กระแสความนิยมให้กับ
ผู้นำทางการเมือง โดยการเชื่อมโยงชัยชนะ
ของ ฮิลลารี่ กับผู้นำการ
เมืองไทย ของขบวนการ
อำนาจเก่า
 แต่ผิดพลาด พลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน ทุกอย่าง
ล้มเหลว อย่างสิ้นเชิง
เป็นผลพวงจากการกระทำ
ที่ผิดพลาดจากขบวนการ
         อำนาจเก่า ! ที่ต้องชดใช้กรรมใน ปี 60
กันอย่างถ้วนหน้าทุกคน

        ฐิติ  ชัยนาม
        18/พ ย/59

บิ๊กตู่ (หน้าด้าน) ลั่นเป็นผู้นำเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย ...ถามว่าหลักประชาธิปไตย มีอะไรบ้าง?

บิ๊กตู่ ชี้ไทยประเทศแห่งความสุข ขอแค่ไม่ตีกัน ลั่นเป็นผู้นำเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย

นายกฯลงพื้นที่บริหารน้ำปทุมธานี ยันน้ำไม่ท่วมซ้ำรอยปี 54 เหตุรบ.ไม่ได้ปล่อยปะละเลย ย้ำไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมต้องปลูกข้าว พร้อมระบุไทยเป็นปท.มีความสุข แค่อย่าตีกัน

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารนิเทศน้ำแลการเกษตร(สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิผู้ว่าฯกทม. และนายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่คลองระพีพัฒน์แยกตก บริเวณประตูน้ำที่ 8 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่การเกษตร พร้อมพบปะประชาชนและรับฟังปัญหา โดยมีนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าฯ จ.ปทุมธานี ให้การต้อนรับ

นายกฯได้กล่าวกับประชาชน โดยคำถามชาวบ้านซึ่งถามว่าน้ำจะท่วมเหมือนปี 2554 หรือไม่ โดยนายกฯกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ วันนี้โลกเปลี่ยนแปลง ในหลวงได้สร้างเขื่อนด้านบนไว้แล้ว ฝนตกเหนือเขื่อนจำนวนมาก ทำให้น้ำไหลลงข้างล้าง แต่ตอนบนแล้ง ซึ่งรัฐบาลกำลังจะแก้ปัญหาจะทำอย่างไรให้สามารถเก็บน้ำไว้ตอนกลางของประเทศได้ ขณะนี้แต่ละพื้นที่มีการบริหารจัดการน้ำที่ดี สามารถเชื่อมต่อน้ำจากคลองต่างๆ รวมถึงการใช้น้ำในการปลูกพืช

นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม อย่างไรก็ต้องทำนาปลูกข้าว แต่ต้องทำอย่างไรไม่ให้ปลูกกันตอนน้ำท่วม ซึ่งพื้นที่ตรงไหนที่เป็นแก้มลิง ต้องมีการเสียสละกันได้หรือไม่ รัฐบาลจะชดเชยให้ แต่ถ้าทุกคนต้องการปลูก พอน้ำท่วมรัฐบาลก็ต้อง มันก็จะท่วมอยู่แบบนี้ แต่รัฐบาลเสียเงิน ท่านก็ต้องเสีย แล้วคุ้มกันหรือไม่ ถ้าไม่ปลูกข้าว หรือปลูกพืชอื่น ถ้าน้ำท่วมก็เสียหายน้อยลง รัฐบาลก็ยังดูแลให้ อย่างนี้เรียกว่าช่วยกันทั้งสองฝ่าย เราเข้าใจทุกคนมีปัญหาหมด ทั้งปัญหาหนี้สิน ที่เฉพาะชาวนามีมากกว่างบประมาณแผ่นดินอีก ซึ่งรัฐบาลก็กำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ แล้วมีใครเคยมาทำให้ท่านหรือไม่ ไม่มี เพราะเขาไม่คิดหรอก เขาไม่รบกับใคร แต่ตนรบกับทุกคน รบเพื่อใคร ก็เพื่อคนทุกคน เพื่อเด็กๆที่วันหน้าจะเป็นผู้ใหญ่ จะให้เขาลำบากยากจนอย่างเราหรือ ตนกำลังคิดวิธีทำให้คนรุ่นหลังสบายขึ้น

@ ชี้ 80 ปี ประชาธิปไตย ระบบยังไม่เกิด

"ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก จำไว้ ไม่ต้องตีกันแค่นั้นแหละ มีความสุขแล้ว อย่างมากบอกว่ายากจน เพราะระบบมันไม่เกิด ผ่านมากี่ปีแล้วประชาธิปไตย 80 กว่าปี ระบบมันยังไม่เกิด แต่มันต้องเกิด และมันต้องมีประชาธิปไตย เข้าใจไหม ผมเข้ามาทำการเปลี่ยนผ่านตรงนี้เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นก็ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว ว่าจะเอาอย่างที่ผมพูด หรือจะเอาแบบเดิม ว่ายังไง จะเอาแบบไหน" นายกฯ กล่าว

จากนั้น นายกฯได้ เดินข้ามสะพานไปเพื่อตรวจดูระดับน้ำในคลองรพีพัฒน์ ก่อนที่จะเดินไปทักทาย เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล จากโรงเรียนลำพระยา ที่มารอต้อนรับประมาณ 20 คน โดยนายกฯได้พูดคุยหยอกล้อกันเด็กอย่างเป็นกันเอง ซึ่งนายกฯ แกล้งถามเด็กๆว่า"รู้จักผมมั้ย" ซึ่งเด็กๆได้ตอบกลับมาว่า"รู้จัก นายกรัฐมนตรี " นายกฯจึงสอนเด็กๆว่าต้องพูด"ครับ ค่ะด้วย เป็นคนไทยต้องพูดให้ไพเราะ ครับ ค่ะ ขอโทษ ขอบคุณ และการไหว้ นี่คือความเป็นไทย และขอให้เป็นคนดีด้วย"

Thursday, November 17, 2016

ดร. เพียงดิน รักไทย 18 พย 59 นายกรัฐมนตรีไทย กับ กิจของราชวัง และยุคประชาพาไปมาถึงแล้ว

ดร. เพียงดิน รักไทย 18 พย 59 นายกรัฐมนตรีไทย กับ กิจของราชวัง และยุคประชาพาไปมาถึงแล้ว

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก

๙๙๙๙๙๙๙๙==============๙๙๙๙๙๙๙
คำถามสำหรับคนไทยทุกสีเสื้อ ก่อนชาติจะวายวอดด้วยน้ำมือคนไทยด้วยกันเอง
ดาวน์โหลดไฟล์นี้ได้ที่ 

ด้วยความปรารถนาดีเสมอ
ดร. เพียงดิน รักไทย

คำถามสำหรับคนไทยทุกสีเสื้อ ก่อนชาติจะวายวอดด้วยน้ำมือคนไทยด้วยกันเอง

คำถามสำหรับคนไทยทุกสีเสื้อ ก่อนชาติจะวายวอดด้วยน้ำมือคนไทยด้วยกันเอง
ดาวน์โหลดไฟล์นี้ได้ที่ 

ด้วยความปรารถนาดีเสมอ
ดร. เพียงดิน รักไทย



Wednesday, November 16, 2016

บัณฑิต อาณีญาญ์ ท่านผู้นี้ เป็นใครกันแน่?? อ่านบทความนี้แล้ว ท่านอยากสืบค้นต่อหรือไม่?

ความฝันภายใต้ดวงอาทิตย์ของบัณฑิต อาร์ณีญาญ์

ขอบคุณ เครดิต https://freedom.ilaw.or.th/112theseriesBandit
1.
ฉันรู้จักลุงครั้งแรกผ่านตัวหนังสือ "ความฝันภายใต้ดวงอาทิตย์" หนังสือกึ่งชีวประวัติของลุง ความยาว 562 หน้า ตอนนั้นฉันอยากทำหนังสารคดีที่เกี่ยวกับมาตรา 112 คิดแค่ว่าอยากทำในแบบที่เล่าเรื่องราวชีวิตมนุษย์ ไม่ใช่แค่ให้ข้อเท็จจริงและข้อมูลเชิงวิชาการ พี่ที่ไอลอว์เป็นคนแนะนำให้ฉันรู้จักคดีของลุง แล้วให้หนังสือเล่มนั้นมา ฉันตะลุยอ่านด้วยความรู้สึกผสมปนเปกันไปหมด ตอนนั้นฉันรู้แค่ว่าลุงถูกศาลตัดสินว่ามีอาการทางจิต แต่ในหนังสือหากไม่นับส่วนที่มีข้อความซ้ำหลายตอน บางตอนทำให้ฉันเศร้า บางตอนทำให้ฉันหัวเราะ และตอนจบทำให้ฉันร้องไห้
 
หนังสือเผยให้เห็นชีวิตของลุงที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ถูกกดขี่ ถูกเอารัดเอาเปรียบ แฝงด้วยลีลาการเล่าเรื่องเสียดสีประชดประชันแกมขบขัน และบางตอนก็ทำให้หลุดลอยเข้าไปในจินตนาการเหนือจริงของลุง  ขณะเดียวกันก็เห็นความจริงที่ลุงต่อสู้ดิ้นรน แสวงหาความรู้ ใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์เท่าที่สภาพแวดล้อมจะเอื้ออำนวย แม้บางครั้งต้องทำชั่วเพื่อเอาชีวิตรอดลุงก็ยอมรับและเปิดเผยออกมาอย่างบริสุทธิ์ใจ
 
ที่น่าสนใจคือมุมมองของลุงที่มีต่อโลก ลุงมองลึกลงไปในใจของผู้คน กระชากหน้ากากภายนอกของพวกเขาออก เปลื้องให้เห็นถึงความจริงภายใน ลุงปฏิเสธสิ่งที่คนในสังคมปฏิบัติ นั่นคือการไม่ตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณ์กับหลายๆสิ่ง ลุงตั้งคำถามถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมและการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรม
ฉันรู้ในทันทีว่าอยากทำสารคดีเกี่ยวกับลุง และไม่สำคัญเลยว่าใครจะตัดสินลุงว่าอย่างไร
 
520

บัณฑิตที่เชียงดาว 
2.
ฉันพบลุงครั้งแรกในศาลทหาร ชายชราผมสีดอกเลาตัดสั้นเรียบแปล้ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขากระบอกสีดำ และสะพายย่ามสีขาว ย่ามวิเศษที่ล้วงออกมาเมื่อไหร่มักเจอหนังสือยกชุดสี่เล่มของลุงที่ลดจาก 900 บาทเหลือ 200 บาทก็ยังไม่มีใครซื้อ
 
วันนั้นฉันและเพื่อนได้รับหนังสือมาฟรีคนละชุด เราไปนั่งคุยกันต่อที่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ ลุงตัวจริงก็มีส่วนคล้ายกับหนังสือที่ฉันอ่าน แต่วันนั้นฉันได้เห็นความดื้อดึงบางอย่างในตัวลุง ฉันไม่ได้มองว่าเป็นข้อเสียไปทั้งหมด แต่คิดว่าถ้าลุงไม่ดื้อลุงก็คงไม่เป็นอย่างทุกวันนี้ อาจจะไม่โดนข้อหา 112 อาจจะไม่ต้องแยกทางกับครอบครัว แล้วก็อาจจะไม่ได้เขียนหนังสือ และถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงรู้สึกเสียดาย
 
ครั้งแรกที่ฉันไปบ้านลุงพร้อมแบกกล้องวิดีโอและขาตั้งกล้องไปอย่างพะรุงพะรัง ลุงลุกจากเก้าอี้ไม้ตัวโปรดข้างชั้นวางของ คะยั้นคะยอให้ฉันดื่มกาแฟที่ลุงชงให้
ห้องของลุงเรียบง่าย โล่งตา ดูสะอาด และไม่มีเตียงนอน แต่มีหนังสือกองโตที่ลุงเขียน เอกสารเกี่ยวกับคดีและเรื่องสั้นที่ลุงแปลบ้างแต่งบ้าง วางอยู่ในกล่องอย่างเรียบร้อย แต่ลุงมักบ่นว่าหาอะไรก็ไม่ค่อยเจอ ที่โต๊ะทำงานมีเครื่องพิมพ์ดีดรุ่นเก่าแก่แต่ยังใช้การได้ดีวางอยู่ ข้างๆ เป็นดิกชันนารี่อังกฤษ-ไทยเล่มใหญ่ และปึกกระดาษเรื่อง Father and son ของ Ivan Turgenev นักเขียนชาวรัสเซีย ฉันถามว่าทำไมลุงถึงแปลเล่มนี้
 
"มันก็มีส่วนคล้ายชีวิตผมเหมือนกันมั้ง เรื่องนี้พ่อกับลูกก็ขัดแย้งกัน คล้ายๆ เตี่ยกับผม" ลุงเล่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทั้งที่ในอดีตความขัดแย้งระหว่างลุงกับพ่อของลุงคงไม่อาจใช้คำบรรยายว่าราบเรียบได้
 
"ผมมาเมืองไทยตอน 6 ขวบ มาพร้อมแม่กับย่า มาอยู่โคราช เตี่ยผมมีเมียน้อยอยู่ที่นี่ ตอนเด็กๆ ผมเห็นเตี่ยตีแม่ผมด้วยด้ามไม้กวาดบ้าง ไม้ขัดหม้อบ้าง บางทีก็รองเท้ายางหนาๆ แม่เลี้ยงก็ใช้ให้แม่ผมทำงานหนัก สุดท้ายแม่ผมโดนคนข่มขืนจนท้อง ถูกเตี่ยส่งไปอยู่ที่โรงพยาบาลโรคจิตแล้วก็ตายในฐานะเป็นคนไข้อนาถา"
 
เมื่อได้คลุกคลีกับลุงนานเข้า ฉันจึงเข้าใจถึงความเจ็บปวดคับแค้นแสนสาหัสของลุงในเรื่องนี้ และเข้าใจได้ว่าทำไมงานเขียน ความคิด และการแสดงออกของลุง จึงมักอยู่กับเรื่องความไม่เป็นธรรมในสังคม และการกดขี่จากผู้มีอำนาจสูงกว่า
 
ผลงานการเขียนและการแปลของลุงมีเกือบ 50 เล่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้นของ บี.ทราเวน นักเขียนชาวเยอรมัน หรือนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่น ผลงานขอ
งลุงส่วนใหญ่จัดพิมพ์โดยเพื่อนสนิทที่คบหากันมานานหลายปี บางเล่มก็พิมพ์เอง น่าเสียที่ผลงานของลุงมักขายไม่ออกและต้องเอามาขายเลหลังเล่มละไม่กี่บาท
"หนังสือผมมันไม่มีคนอ่าน พิมพ์ไปก็ขายไม่ออก" ลุงพูดเปรยๆ ขึ้นมาในบางครั้ง นอกจากเรื่องนี้ลุงก็ตัดพ้อด้วยความน้อยใจว่าผลงานของแกถูกคนอื่นขโมยไปใส่ชื่อแล้วตีพิมพ์ 
 
แต่ความท้อใจก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไฟในการผลิตผลงานของลุงได้ พอฉันเจอลุงในวันต่อมา ลุงก็ยื่นเรื่องสั้นเรื่องใหม่ที่เพิ่งแต่งจบให้ฉันอ่าน แล้วถามอย่างกระตือรือร้นว่าเป็นอย่างไรบ้าง บางโอกาสเราถกเถียงกันเรื่องการเมือง สังคม ศาสนา ไปจนถึงชีวิตและวิธีคิดในบางประเด็น ความคิดเห็นของเราขัดแย้งกันบางเรื่อง แม้ลุงจะยึดมั่นในความคิดของตัวเองอย่างแน่วแน่ แต่ลุงก็ฟังความคิดเห็นของฉันเสมอ
 
ตอนนี้ลุงอายุ 75 ปี อาศัยอยู่คนเดียวบนชั้นสามของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในย่านหนองแขม ลุงเคยเป็นโรคต่อมลูกหมากโตและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ต้องตัดไตออกข้างหนึ่งรวมทั้งกระเพาะปัสสาวะด้วย แทนที่ด้วยถุงปัสสาวะที่ต้องใส่ติดตัวตลอดเวลา แต่ภายนอกลุงยังดูแข็งแรงเดินเหินปกติ ทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว เดินทางไปตามงานเสวนาที่ต่างๆ เป็นประจำ สะพายย่ามคู่ใจที่ภายในมีหนังสือ เรื่องสั้น หรือเอกสารเกี่ยวกับคดีของแก บ้างก็แจกจ่าย บางทีโชคดีก็ขายได้
 
3.
"ผมสงสัยมากเลยนะว่าพวกดวงดาว จักรวาลมันเกิดขึ้นมาได้ยังไง"
ลุงตั้งคำถามขึ้นมาอย่างที่ชอบทำ ตอนนั้นเราสี่คนนอนดูดาวกันที่เชียงดาวระหว่างที่ไปถ่ายทำสารคดี คืนนั้นเป็นคืนฟ้าเปิด เห็นดาววาววับมากมาย เราคุยกันไปเรื่อยเปื่อย
"ทฤษฎีบิ๊กแบงไงคะ" ฉันตอบ "ไอ้หนังสือพวกนั้นผมก็อ่านมาบ้าง แต่เข้าใจยากเกินไป  ผมอยากเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้นะ เหมือนที่ผมสงสัยว่าพืชมันเจริญเติบโตขึ้นมาจากใต้ดินได้ยังไง คิดดูสิ ดินมันก็เป็นแค่ดิน แต่ดินเป็นที่มาของพืชทุกชนิด มันเป็นความมหัศจรรย์นะ"
คำถามซื่อๆ กระตุ้นให้ฉันคิดถึงหนังสือเล่มแรกของลุงที่ฉันอ่าน ในตอนจบลุงก็ลงท้ายด้วยคำถามแบบนี้เช่นกัน
 
ความมหัศจรรย์ของลุงนั้นเรียบง่ายเหลือเกิน
 
ลุงดำรงอยู่ด้วยความคิดและความสงสัยต่อชีวิตและจุดกำเนิดของมัน เช่นที่ลุงเฝ้าสงสัยเกี่ยวกับการกำเนิดดวงดาวจักรวาลและพรรณพืช เช่นที่ลุงชอบนั่งดูคลิปเกี่ยวกับดาวอังคารในมือถือ เช่นที่ลุงเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวอาจจะมีจริง เช่นที่ลุงชอบเลี้ยงนกและเฝ้ามองพวกมันหากิน ขณะเดียวกันชีวิตลุงก็มีปมปัญหาที่ไม่อาจสลัดหลุด ลุงยึดติดอยู่กับอดีตบางอย่างอันน่าขมขื่นที่ชั่วชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งคงไม่อาจลืมได้ ลุงทำให้ฉันเข้าใจว่าชีวิตมนุษย์มีความซับซ้อนและลึกลับเกินกว่าที่ใครคนหนึ่งจะไปตัดสินการกระทำของเขาหรือบอกให้เขาปล่อยวางได้
 
ฉันจะไม่ตัดสินและไม่บอกให้ลุงปล่อยวาง ถ้าลุงจะเขียนหนังสือหรือขึ้นไปพูดในวงเสวนาไหนๆ ฉันจะเป็นคนรับฟัง เพราะความฝันอย่างหนึ่งที่ลุงต้องการคงเป็นการได้แสดงความเห็นอย่างซื่อตรงและเปิดเผยโดยไม่ถูกปิดกั้นหรือตัดสินจากใคร

ดร. เพียงดิน รักไทย มดแดงจะล้ม คสช. -เครือข่ายราชาธิปไตยอย่างไร? ตอน 6 แนวรบกองทัพโจรมาเฟีย

ดร. เพียงดิน รักไทย มดแดงจะล้ม คสช. -เครือข่ายราชาธิปไตยอย่างไร? ตอน 6 แนวรบกองทัพโจรมาเฟีย
---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

Sunday, November 13, 2016

ดาวดวงเมือง ของประเทศไทยวันนี้ (ใช้วิจารณญาณประกอบ)

ดาวดวงเมือง
1 มฤตยูทับดวงเมือง ทับอาทิตย์ ทับเจ้าเรือนเมษคืออังคาร
2 ดาวประจำเมืองคืออังคาร ถูกเสาว์เล็งในเรือน มรณะ
3 สูตรพระเคราะห็สนธิ
3+1+7+0=ผ่าตัด อุบัติเหตุ การสังหาร การฆาตกรรม
4 ดาวบาปพระเคราะห์ อีกตัวคือ ราหู อยู่ราศีสิงห์ ตรีโกณฑ์ถึงลัคนา=บีบลัคนา
ส่วนเสาว์ข้อ3 เรียกเทียบเท่าเล็งลัคนาดวเมือง
5 ดาวตัวช่วยคือ พฤหัส คือ ความยุติธรรม ศาล ที่พึ่งทางกฎหมาย ลงราศีกันย์ ซึ่งเป็น อริ กับดวเมือง  =ความยุติธรรมไม่มี
6 พฤหัสราศีกันย์ถือเป็นตำแหน่งไม่ดี เรียกภาษาโหรว่า  ประ = ผิดศีลธรรม พระเป็นอลัชชี  ความเสื่อมของวงการยุติธรรม

   สรุป บ้านเมืองเหมือนถูกตรึงบนไม้กางเขน ้เหมือนรอหลั่งเลือด ประหารกัน
  เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

ยิ่งลักษณ์ ขายข้าว... ควรเดินหน้าต่อหรือไม่ อย่างไร?

ถูกต้องแล้วที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะถอยกลับ "ที่ตั้ง" ยังไม่เดินหน้าปฏิบัติการ "ขายข้าวสารหอมมะลิ" อีกเป็นหนที่ 3

แม้จะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

ไม่ว่าจะนำไปวางขายบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า แฟชั่น ไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา ไม่ว่าจะนำไปวางขายบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง สมุทรปราการ

แห่งแรกใช้เวลา 1 ชั่วโมง แห่งที่ 2 ใช้เวลา 30 นาทีก็หมด

ผลสะเทือนที่สำคัญเป็นอย่างมาก คือ การให้กำลังใจชาวนา เหมือนกับมืออันอ่อนนุ่ม อบอุ่นที่ยื่นจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปช่วยซับน้ำตาให้

เป็นที่ประจักษ์ทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และในขอบเขตทั่วประเทศ

อาการอิจฉา ริษยา กระบอกตาร้อนผ่าวอันมาจากหลายคนในฝ่ายตรงข้าม คือ ประจักษ์พยานและรูปธรรมสามารถยืนยันความสำเร็จได้

แล้วทำไมการหยุดยั้ง ไม่เดินหน้าจึงถือว่า "ถูกต้อง"

 

ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี้ เป็นการจัดฉาก เป็นการสร้างภาพ และเป็นส่วนหนึ่งของ "อีเวนต์" ในทางการเมืองอย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไป อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์

ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาข้าวสารส่วนหนึ่งที่ซื้อมาจากชาวนาออกวางขายบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าทั้งในกทม.และที่สมุทรปราการ

ทั้งหมดนี้เป็นการเคลื่อนไหว 1 ในทางการเมือง

เป็นการเคลื่อนไหวที่เลือกจังหวะเวลาที่สำคัญอย่างน้อย 2 เรื่องมาบรรจบกัน 1 ก็คือ เรื่องคำสั่งทางปกครองที่เรียกค่าชดเชยจากโครงการรับจำนำข้าวจำนวนเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท และ 1 ก็คือ สถานการณ์อันเป็นวิกฤตของชาวนาเนื่องจากราคาข้าวเสื่อมทรุดและตกต่ำ

การออกมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงสอดรับกับ "สถานการณ์"

 

คำถามก็คือ หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยทั้งในต่างจังหวัดและส่วนกลาง แล้วผลตอบรับเป็นอย่างไร

คำตอบจาก "มวลชน" ก็คือ ขานรับกันอย่างคึกคัก

ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ การเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรากฏเป็นข่าวทั้งในสื่อกระดาษ สื่อกระจก

คำตอบจาก "ฝ่ายตรงกันข้าม" ก็สามารถประเมินได้

1 พรรคการเมืองคู่แข่ง หงุดหงิด และจำต้องลงไปเกี่ยวข้าวกับชาวนา และ 1 อำนาจรัฐที่เคยรุกไล่และเล่นงาน ขยับไม่ออก ได้แต่เฝ้ามองและติดตาม ทำอะไรไม่ได้

การหยุดและประเมินผลจึงมีความจำเป็นในทางการเมือง

 

การหยุดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงมิได้เป็นการหยุดแบบ "หยุด" ตรงกันข้าม มีลักษณะ "เคลื่อนไหว"

เพราะว่าสถานการณ์ราคาข้าวเริ่มมีการคลี่คลาย เพราะว่าความเป็นจริงที่ชาวนาประสบในเรื่องราคา กำลังได้รับการตรวจสอบจากมาตรการและปริมาณข้าวที่ออกมา

การหยุดและรอคอยเพื่อหา "เงื่อนไข" ในการเคลื่อนไหวจึงสำคัญ

ดร. เพียงดิน รักไทย 13 พ.ย. 2559 ตอน กลบเกลื่อนความชั่วตน ด้วยการป้ายสีคนอื่นว่าชั่วด้วย

ดร. เพียงดิน รักไทย 13 พ.ย. 2559 ตอน กลบเกลื่อนความชั่วตน ด้วยการป้ายสีคนอื่นว่าชั่วด้วย


---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน