Tuesday, August 25, 2015

ตายห่าแล้ว ทีมเศรษฐกิจใหม่ ออกตัว เทวดาก็ช่วยไม่ได้ บาทจะแตะ 40 ปีหน้านี้

ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย คาดหากสงครามค่าเงินปะทุขึ้นมาอีก   ค่าเงินบาทมีโอกาสแตะ 40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า    ขณะที่อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประเมินเศรษฐกิจไทยเข้าขั้นวิกฤติแล้ว    
 เครดิต http://news.voicetv.co.th/business/250032.html
นาย วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี มองภาวะเศรษฐกิจไทยขณะนี้เข้าขั้นวิกฤตแล้ว หลังการส่งออกหดตัว ธุรกิจขาดทุน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีปิดกิจการ หนี้เอ็นพีแอลภาคสถาบันการเงินสูง โดยเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในลักษณะ U shape ยาวถึงสิ้นปี และจะยังไม่ฟื้นตัวจนถึงปีหน้า(59) เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวดี ราคาพลังงานลดลงมาก           

ดังนั้น ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่   ทำได้เพียงประคองเศรษฐกิจในประเทศไม่ให้ทรุดไปกว่านี้    จึงไม่อยากให้ตั้งความหวังกับการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ   เพราะคงไม่สามารถฝืนภาวะเศรษฐกิจโลกได้   โดยเฉพาะจีนที่กำลังมีปัญหา   

ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย คาดการส่งออกของไทยปีนี้จะติดลบร้อยละ 4 ส่วนทิศทางเงินบาทมีโอกาสแตะ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ปลายปีนี้ และอาจถึง 38 บาทปลายปีหน้า แต่หากสงครามค่าเงินปะทุขึ้นมาแรงอีกครั้งหลังจากจีนลดค่าเงินหยวน เงินบาทอาจทะลุกรอบ 40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ จึงมีโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทย จะใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเป็นตัวแก้ปัญหาเศรษฐกิจแทนนโยบายดอกเบี้ย

ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าจะยังอยู่ที่ร้อยละ 1.50 ตลอดทั้งปี และปรับขึ้นเป็นร้อยละ 1.75 ในปีหน้า 


=====

Credit: http://news.voicetv.co.th/business/249972.html

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เชื่อหากสงครามค่าเงินปะทุ จะส่งผลต่อทิศทางค่าเงินบาทให้อ่อนตัวแตะระดับ 40 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐได้ในปลายปีหน้า

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ระบุว่าการที่จีนลดค่าเงินหยวนนั้น มีเหตุผล 2 ประการ คือเพื่อพยุงเศรษฐกิจ และเตรียมความพร้อมสู่การเป็นเงินตราสกุลหลักของโลก ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เนื่องจากสินค้าจากไทยจะมีราคาแพงขึ้นโดยปริยาย คาดภาพรวมการส่งออกของไทยปีนี้จะติดลบร้อยละ 4 เทียบกับปีก่อนหน้า เชื่อประเทศที่มีสัดส่วนการค้าการลงทุนกับจีนในปริมาณสูง อย่างไต้หวัน สิงคโปร์ และเกาหลีใต้จะปรับลดค่าเงินเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

สงครามค่าเงินที่ขยับเข้ามาใกล้อาเซียน ทำให้ทิศทางค่าเงินบาทมีความผันผวนมากขึ้น คาดมีโอกาสอ่อนค่าแตะ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปลายปีนี้ และอาจจะถึง 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปลายปี 2559 แต่หากสงครามค่าเงินปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เงินบาทอาจจะทะลุระดับ 40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐได้ในปลายปี 2559 เชื่อมีความเป็นไปได้ที่ธนาคาแห่งประเทศไทยจะเลือกใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนแทนนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ

ผู้บริหารสำนักงานวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ยังเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ตลอดทั้งปี คาดจะปรับขึ้นเป็นร้อยละ 1.75 ในปลายปีหน้า เนื่องจากมีความพร้อมรับมือกับดอกเบี้ยขาขึ้น

ส่วนการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้ เกิดจากความกังวลของนักลงทุนต่อภาวะเศรษฐกิจโลก เชื่อเป็นเพียงการปรับฐานเท่านั้น 

No comments:

Post a Comment