Radovan Karadzic คือใคร? วันนี้โลกรู้จักเขาในฐานะใด?
๑. Radovan Karadzic ก็คือ อดีตประธานาธิบดีของรัฐเซริบส์ ที่ก่อตั้งรัฐเซริบส์ ขึ้นใน Bosnia Herzegovina (อ่านว่า บอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า) เป็นการก่อตั้งรัฐซ้อนรัฐ
๒. รัฐบอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า เดิมเป็นส่วนหนึ่งของ ประเทศยูโกสลาเวีย ประกอบไปด้วย ชนชาว Croats และ ชาว ยูโกสลาเวีย หรือ สลาฟ ที่นับถือศาสนาอิสลาม รวมแล้ว อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่นี้ ๒ ใน ๓ ของประชากรของรัฐนี้ มีชาวเซริบส์ อาศัยอยู่ราวจำนวน ๑ใน ๓ ของประชากรของรัฐนี้
๓. เมื่อนายพล ตี โต้ ถึงแก่อนิจกรรมลง พื้นที่ที่เป็นรัฐบอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า ได้ประกาศแยกตัวเองออกมาเป็น รัฐ หรือ ประเทศอิสระในวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ปีค.ศ. 1992 เช่นเดียวกับ โคโซโว่ (Kosovo) ได้รับการรับรอง ให้เป็นรัฐ หรือ ประเทศ จากนานาชาติ และ องค์การสหประชาชาติทันที เมื่อเหตุการณ์ผันแปรไปเช่นนี้
๔. ชาวเซริบส์ ที่เป็นคนเผ่าสลาฟ ซึ่งเป็นประชากรของรัฐ หรือ ประเทศใหม่นี้ เกิดความเดือดร้อน ไม่พอใจ เพราะได้กลายเป็น ชุมชนส่วนน้อยของประเทศ จึงประกาศตั้งรัฐซ้อนรัฐ เป็นประเทศขึ้น โดยใช้ชื่อว่า "Srp ska" แต่ไม่มีใคร ประกาศให้การรับรองแก่ ประเทศเกิดใหม่ประเทศนี้
๕. ประเทศใหม่ ที่ประกาศจัดตั้งขึ้นโดยชาวเซริบส์ ได้ประกาศให้ Radovan Karadzic เป็นประธานาธิบดีคนที่หนึ่งของประเทศ ที่เกิดใหม่นี้ Radovan Karadzic ซึ่งประกาศตนเอง เป็นแพทย์ทางเลือก และประกอบอาชีพอยู่ในเมือง Sarajevo และเมืองเบลเกรด ของประเทศบัลกาเรีย
๖. จึงไปจัดตั้งกองกำลังชาวเซริบส์ ขึ้นในรัฐใหม่ และ รวบรวมกองกำลังชาวเซริบส์ ที่สังกัดอยู่ในกองทัพยูโกสลาเวียเดิม ที่กระจัดกระจายอยู่ในประเทศยูโกสลาเวีย มาเป็นกองทัพชาวเซริบส์ เพื่อหวังจะกำหราบชาว Croats และชาวสลาฟ ที่นับถือศาสนาอิสลาม จึงเกิด การรบราฆ่าฟัน ปล้น ฆ่า ข่มขืนกัน เกิดขึ้นทั่วไปอย่าง เป็นระบบขึ้น ในรัฐ หรือ ประเทศ บอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า (ตรงนี้เห็นควรศึกษาเปรียบเทียบกับ กรณีที่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศจัดตั้ง คณะกปปส. ขึ้น แล้วเกิดผลร้ายต่อประเทศนี้ และส่งผลร้ายมาจนถึงในทุกวันนี้)
๗. ประธานาธิบดี Radovan Karadzic ของรัฐเซริบส์ ที่เกิดใหม่ ได้รับสมญานามจากชาวโลก และ องค์การสหประชาชาติว่า "เป็น Butcher of Balkan" เมื่อเกิดการรบราฆ่าฟัน ปล้น ฆ่า ข่มขืนกัน เกิดขึ้นทั่วไปอย่าง เป็นระบบในรัฐ หรือ ประเทศ บอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า มีคนตายเป็นแสนๆคน จึงเป็นข่าวดังไปทั่วโลก
๘. องค์การสหประชาชาติ ถูกชาวโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชากรของ EU เกือบทุกประเทศ เริ่มออกมากล่าวโจมตี และติฉินนินทา องค์การสหประชาชาติ ไม่อาจยอมรับได้ในสิ่งเหล่านี้ องค์การสหประชาชาติ จึงพยายามเข้าไปไกล่เกลี่ย เพื่อให้เกิดความสงบ และ สันติสุขขึ้นในประเทศ หรือ รัฐที่เกิดใหม่นี้
๙. องค์การสหประชาชาติจึงได้แต่งตั้งให้นาย Cyrus Vance อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ของสหรัฐอเมริกา และ Lord David Owen อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของ ประเทศอังกฤษ เข้าป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ย และประธานาธิบดี Radovan Karadzic ได้ถูกรับเชิญให้เข้ามาร่วมเจรจาสันติภาพด้วย ในทุกครั้งที่มีการเจรจา หรือการประชุมตามคำชี้แนะขององค์การสหประชาชาติ
๑๐. ในคราวใดที่จะต้องมีการเจรจา หรือ การจัดประชุมโดยกลุ่มชนเผ่าพันธุ์ต่างๆ ที่เราเรียกว่า "Fractions" ในสำนักงานใหญ่ของ องค์การสหประชาชาติ ที่มหานคร New York นาย Radovan Karadzic ก็ไปเข้าร่วมประชุมด้วย โดยองค์การสหประชาชาติ เป็นคนขอวีซ่าให้ Radovan Karadzic เดินทางเข้าไปในสหรัฐฯ ตามข้อตกลงพิเศษ (ข้อตกลงระหว่างประเทศ ที่ได้ลงนามไว้ในระหว่าง องค์การสหประชาชาติ กับ ประเทศสหรัฐอเมริกา)
๑๑. ตามข้อตกลงนี้ "ผู้ได้รับเชิญ จะได้รับวีซ่าให้เดินทางเข้าไปในสหรัฐอเมริกาในประเภท C- 2 และเป็นการให้เดินทางเข้าไปในประเทศสหรัฐฯ เพียงเที่ยวเดียว (Single Trip) เมื่อเป็นแขกรับเชิญในประเภทนี้ เมื่อลงจากอากาศยานแล้ว ต้องตรงไปยังสำนักงานใหญ่ของ องค์การสหประชาชาติ ที่เดียว หากการประชุม หรือ การเจรจา ไม่อาจสัมฤทธิ์ผลในเที่ยวนั้นในวันเดียว จะต้องยืดเวลาอยู่ในสหรัฐฯ เพื่อการประชุม หรือเจรจา เพื่อการต่อเนื่องต่อไป ในคราวนั้น ก็จะไปอยู่ในโรงแรม ที่มีระยะห่างเกินกว่า ๒๕ ไมล์ จาก สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติไม่ได้ (ซึ่งหมายความว่า "ถูกจำกัดรัศมีในการเดินทาง" และ การอยู่อาศัย")
๑๒. นาย Radovan Karadzic ไปเข้าร่วมประชุมกับ คณะผู้เจรจาขององค์การสหประชาชาติ ที่ได้ตั้งไว้ดังกล่าวมาแล้ว อยู่ราวปีเศษ ในการเข้าร่วมประชุม ที่กล่าวนี้ ในเที่ยวที่สอง และ เที่ยวที่สาม เขาถูกญาติผู้ตายในรัฐบอสเนีย คือ Kadic ยื่นฟ้องเป็นคดีในทางแพ่งในฐาน ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ในศาล Southern District of New York หรือ S.D.N. Y. ปรากฏตามคดีหมายเลขอ้างอิง 70 F.3d 232 (2nd.Cir.1995) ทั้งนี้เนื่องจากเขาดำรงตำแหน่ง เป็นแม่ทัพใหญ่ในกองกำลังชาวเซริบส์ ในบอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า และ กองกำลังดังกล่าว ได้ปล้น ฆ่า และข่มขืนชาว Croats และชาวลสาฟ ที่นับถือศาสนาอิสลาม เป็นมุสลิมตาย มีจำนวนผู้เสียชีวิตเรือนแสนคน ในบอสเนียฯ
๑๓. ในการนำส่งหมายเรียก และสำเนาคำฟ้อง นาย Radovan Karadzic รับหมายฟ้องคดีที่จัดส่ง โดยเจ้าหน้าที่ศาล และ เข้ามาต่อสู้คดีนี้ในฐานะจำเลย การส่งหมายฟ้องคดี และ สำเนาคำฟ้อง มีการจัดส่งไปให้เขาที่โรงแรมที่องค์การสหประชาชาติ จัดให้พักอาศัยท่ามกลาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขององค์การสหประชาชาติ ที่ถูกจัดมาอารักขา (หมายเหตุ คนที่ถูกรับเชิญให้ไปโชว์ตัวในลักษณะนี้ ไม่ว่า Slobodan Milosevic หรือ นาย Radovan Karadzic มักจะพบจุดจบ หรือ ลงเลยในรูปแบบเดียวกัน คือ ถูกหมายอาญา จับ ตัวไปขึ้นศาลนานาชาติ เพื่อพิจารณาคดีในฐานความผิด เป็นอาชญากรสงคราม [ฆ่า ข่มขืน] และ ความผิดอาญาในฐานที่เป็นปรปักษ์กับมนุษยชาติ) ในเวลาต่อมาเสมอๆ....................... (มีต่อ)
No comments:
Post a Comment