"จากเด็กค่อนข้างร่าเริง ยายบอกว่า ทั้งสองสาวกลายเป็นคนเงียบๆ ซึมๆ ไปมากขึ้น นับแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่แม่ไม่ได้อยู่บ้านอีกต่อไป"
คำบอกเล่าของผู้เป็นยายถึงความรู้สึกหลานสาวหลังลูกสาวเธอ ศศิวิมล ผู้เป็น "แม่" ของเด็ก ต้องถูกคุมขังในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ในโทษสูงถึง 28 ปี
--------------
ตั้งแต่รัฐประหาร มา 24 เดือนมีผู้คนจำนวนมาก 'ไม่ได้รับความสุข' จากคสช. หนำซ้ำกลับได้รับผลกระทบจากการใช้อำนาจทหารเหนือกระบวนการยุติธรรม จำนวนมากถูกดำเนินคดี จำนวนมากถูกจำคุก และอีกหลายจำนวนต้องตัดสินใจลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ อ่านรายงานเต็ม http://goo.gl/mHUOZ3 >> เมื่อทหารไม่ได้คืนแต่ "ความสุข"
จากการบันทึกข้อมูลของไอลอว์ ในยุคคสช.มีอย่างน้อย 93 คนที่ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำ เพราะการแสดงความคิดเห็น และอย่างน้อย 303 คนผ่านการถูกคุมขังในค่ายทหาร ปัจจุบันบุคคลที่ยังถูกคุมขังอยู่เพราะการแสดงออกอย่างสงบมีอย่างน้อย 44 คน ซึ่งเป็นการคุมขังตามคำพิพากษา 26 คน และเป็นการคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี 18 คน
สำหรับจำนวนคนถูกประกาศเรียกรายงานตัวตามคำสั่งคสช.เท่าที่บันทึกได้จากการรายงานของสื่อมวลชน และคำบอกเล่าที่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้มี 480 คน จากจำนวนนี้ จนถึงปัจจุบันมีคนเข้ารายงานตัวแล้ว 349 คน ส่วนอีก 131 คน ยังไม่ทราบชะตากรรม จากการเก็บข้อมูลพบว่า ปัจจุบันมีคนไทยที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน เพราะหนีภัยทางการเมืองมากกว่า 200 คน
พูดก็พูดเถอะ !
หลากหลายเรื่องราวการพลัดพรากที่เกิดขึ้น เป็นผลจากการใช้อำนาจของรัฐที่ใช้อารมณ์ในกระบวนการยุติธรรมมากกว่าเหตุผล ผู้คนจำนวนมากเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบเพียงเพราะการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ตลอดสองปีของคสช.ได้บีบให้คนจำนวนมากไม่มีทางเลือก ผู้ได้รับผลกระทบต้องบ้านแตกสาแหรกขาด ธุรกิจล้มละลายหาย บางคนไม่ได้กลับประเทศ เพียงเพราะความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง ...
อ่านรายงานตอนอื่นๆ ที่
http://goo.gl/30Wn1e >> เมื่อทหารทำตัวเป็นศาลและอัยการ
http://goo.gl/NLoFsj >> เมื่อทหารทำตัวเป็นตำรวจ
http://goo.gl/L7Uz4m >> เมื่อทหารทำตัวเป็น "กองเซ็นเซอร์"
http://goo.gl/pkA73C >> เมื่อทหารทำตัวเป็นผู้คุมฯ
No comments:
Post a Comment