รวมคดีฟ้อง "สนธิ ลิ้มทองกุล"
ไม่เพียงแต่คดีที่ศาลฎีกาจำคุก 20 ปีในคดีที่นายสนธิ ทำรายงานเท็จกู้กรุงไทยกว่าพันล้านเท่านั้น แต่มีคดีอีกเพียบที่เขาถูกฟ้อง.
เครดิต คมชัดลึกออนไลน์...
คดีในศาลอาญา
1.คดีหมายเลขดำที่ อ.1747/2549ที่พรรคไทยรักไทย และนายทักษิณ ชินวัตรอดีตหัวหน้าพรรค และอดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุลอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ,นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทองอดีต ส.ว.กทม.,นายชัยอนันต์ สมุทรวณิช,นายปราโมทย์ นาครทรรพนักวิชาการอิสระและคอลัมนิสต์,บริษัทไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด ผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบดาวเทียมASTV ,นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล,นายพชร สมุทวณิช,นายขุนทอ ง ลอเสรีวานิช กรรมการ บ.ไทยเดย์ ฯ,บริษัท แมเนจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด ( มหาชน),น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรงค์ผู้บริหารแผนฟื้นฟู บมจ.แมเนเจอร์ ( ศาลยกฟ้องในชั้นไต่สวน ) และนายปัญจภัทร อังคสุวรรณผู้ดูแลเว็บไซด์ แมเนเจอร์ เป็นจำเลยที่1-11ในความผิดฐานหมิ่นประมาทและดูหมิ่นด้วยการโฆษณา สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่24 - 25พ.ค.49พวกจำเลยจัดเสวนาเรื่อง"ปฏิญญาฟินแลนด์ยุทธศาสตร์ครองเมืองของไทยรักไทย"ซึ่งถ่ายทอดสดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ASTVและเว็บไซด์ผู้จัดการ หมิ่นประมาทโจทก์ว่าต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปสู่การปกครองในระบอบทักษิณโดยมุ่งหมายเข้าบริหารประเทศตามข้อตกลงปฏิญญาฟินแลนด์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ พิพากษา เมื่อวันที่ 12 มี.ค.56 ยืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง
2.คดีหมายเลขดำ อ.550/2549ที่ พล.ร.ท.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพเรือ เครือญาติคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชรเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ,น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์อดีตผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร,บริษัท แมเนเจอร์ มีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการายวัน,น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบ.แมเนเจอร์ฯ,นายขุนทอง ลอเสรีวานิชผู้จัดทำเว็บไซต์ผู้จัดการ,บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ผู้ผลิตรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร,นายศุภชัย วงศ์วรเศรษฐ์(โจทก์ได้ถอนฟ้องแล้ว ),นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล,นายพชร สมุทรวณิชซึ่งเป็นกรรมการบริหาร บ.ไทยเดย์ฯ และนายปัญจภัทร์ อังคสุวรรณผู้ควบคุมดูแลเว็บไซต์ผู้จัดการ เป็นจำเลยที่1-10ในความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่น และหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา326, 328, 332, 393กรณีเมื่อวันที่24ม.ค.-4ก.พ.49จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า กล่าววิจารณ์ การขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ด้วยถ้อยคำลักษณะ ใส่ร้ายบุคคลในตระกูลดามาพงศ์ ให้ได้รับความเสียหายโดยคดีถึงที่สุดชั้นศาลฎีกา มีคำพิพากษาวันที่ 24 ก.ย.58 ให้รอลงอาญานายสนธิ มีกำหนด3ปี
3.คดีหมายเลขดำ อ.1062/2549 ที่นายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ นายชาตรี ถริปภัสสโรเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนายขุนทอง ลอเสรีวณิชบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.ผู้จัดการ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.328 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และส.ว. พ.ศ. 2541 กรณีเมื่อวันที่ 6 - 24 มี.ค.49 นายสนธิ จำเลยที่1 ได้กล่าวปราศรัยทำนองว่า โจทก์ใช้เงินซื้อประชาชนให้รักตนเอง และสร้างภาพให้ลูกน้องไปเผาเวทีของพันธมิตรกู้ชาติที่ จ.ภูเก็ต และกล่าวหาว่าโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีบ้า ต้องไล่ให้ไปประเทศสิงคโปร์โดยคดีถึงที่สุดชั้นศาลฎีกา มีคำพิพากษาวันที่ 21 ต.ค.58 ให้ยกฟ้อง
4.คดีหมายเลขดำ อ.3323/2550 ที่นายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ นายสมบูรณ์ คุปติมนัสเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ,นางสโรชา พรอุดมศักดิ์ผู้ดำเนินรายการทางสถานีโทรทัศน์ASTVและ บริษัทแมเนเจอร์ มีเดียร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ( ศาลยกฟ้องและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความไปแล้ว ) เป็นจำเลยที่ 1- 3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีวันที่ 24 ส.ค.50 นางสโรชา จำเลยที่2 นำเทปการกล่าวปราศรัยของ นายสนธิจำเลยที่ 1 ที่ประเทศสหรัฐฯ มาออกอากาศในรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" มาเผยแพร่อีกทำนองว่า นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทยอดีตรองนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลของนายทักษิณ บอกกับนายสนธิ ถึงสาเหตุที่ต้องออกจากรัฐบาล เนื่องจากตลอด 8 ชั่วโมง หลังการยึดอำนาจรัฐประหารของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดจาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง โดยคดีถึงที่สุดชั้นศาลฎีกา มีพิพากษาวันที่ 25 ส.ค.59 ให้ยกฟ้อง
5.คดีหมายเลขดำ อ.1352/2550ที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.คลัง เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องบริษัทไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด,นายสนธิลิ้มทองกุล,บริษัท แมเน เจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และนายขุนทอง ลอเสรีวานิชอดีตบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เป็นจำเลยที่1-4ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328กรณีเมื่อวันที่12ม.ค.50นายสนธิกล่าวผ่านรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ทางช่องNews 1เอเอสทีวี ทำนองว่าโจทก์ล้างมลทินให้กลุ่มอำนาจเก่าปล่อยให้มีการออกสลากบนดิน2ตัวขัดต่อกฎหมาย และโจทก์ช่วยเหลือ นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ที่ไม่ตรวจสอบการขายหุ้นแอมเพิลริชให้กลุ่มทุนเทมาเส็ก โดยคดีถึงที่สุดชั้นศาลฎีกา มีคำพิพากษาวันที่ 2 ธ.ค.58ให้รอลงอาญา 2 ปี
6.คดีหมายเลขดำ อ.1488/2550ที่นายนพดล ปัทมะอดีต รมว.ต่างประเทศ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ,นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล,นายพชร สมุทวณิช,นายขุนทอง ลอเสรีวานิชทั้งสามซึ่งเป็นกรรมการบริษัท,บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้จัดทำเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์,นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์,นายวิรัตน์ แสงทองคำกรรมการบริษัท เป็นจำเลยที่1-8ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา83, 326, 328, 332กรณีเมื่อวันที่19ม.ค.50นายสนธิ จัดรายการ"เมืองไทยรายสัปดาห์"ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี กล่าวทำนองว่านายนพดล โจทก์เป็นคนทรยศต่อทุนหลวง โดยคดีที่ถึงสุดชั้นฎีกา ซึ่งนายนพดล โจทก์ยื่นถอนฟ้องระหว่างฎีกา
7.คดีหมายเลขดำ อ.2066/2553 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา10เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112กรณีเมื่อวันที่20ก.ค.51จำเลยได้ขึ้นเวทีปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุม พธม.บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์โดยนำคำปราศรัยของ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปะกุลหรือ ดา ตอร์ปิโด แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) จำเลย คดีดูหมิ่นสถาบัน ที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุก15ปีน.ส. ดารณี ในกรณีที่ได้พูดหมิ่นสถาบันบนเวทีปราศรัย สนามหลวง เมื่อวันที่18ก.ค.51มาเผยแพร่ซ้ำที่ปราศรัยบนเวทีของกลุ่ม พธม. โดยศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาวันที่ 1 ต.ค.56 ให้จำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
8.คดีหมายเลขดำ อ.4924/2555ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา10เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุลแกนนำ พธม.กับพวก ซึ่งเป็นแกนนำและแนวร่วม พธม.รวม20คน ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนอันมิใช่การกระทำตามรัฐธรรมนูญเพื่อติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน หรือข่มขืนใจใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล และเป็นหัวหน้ามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปโดยมีอาวุธร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91,116,215,216,309 และ 310กรณีนำผู้ชุมนุม ปิดอาคารรัฐสภา ในวันที่5-7ต.ค.51
9.คดีหมายเลขดำ อ.4925/2555ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา10เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง,นายสนธิ ลิ้มทองกุล ,นายพิภพ ธงไชย,นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสมศักดิ์ โกศัยสุขแกนนำ พธม.และ นายสุริยะใส กตะศิลาอดีตผู้ประสานงาน พธม. เป็นจำเลยที่1-6ในความผิดฐาน ร่วมกันบุกรุกโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา358 , 362และ365กรณีปี 2551 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล โดยศาลอาญา พิพากษาวันที่ 28 พ.ค.58 ให้จำคุกจำเลยไว้ คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
10.คดีหมายเลขดำ อ.973/2556ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา9เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง,นายสนธิลิ้มทองกุล ,นายพิภพธงไชย,นายสมเกียรติพงษ์ไพบูลย์แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ( พธม.),นายสมศักดิ์โกศัยสุข อดีตแกนนำ พธม.,นายสุริยะใสกตะศิลา อดีตผู้ประสานงาน พธม.,นายประพันธ์คูณมี แนวร่วมพธม.,นายศิริชัย ไม้งาม,พ.ต.ท.สันธนะประยูรรัตน์,นายเทิดภูมิ ใจดี,นายไทกรพลสุวรรณ,พล.ต.อ.ประทินสันติประภพ อดีต ส.ว. และบริษัท เอเอสทีวี ประเทศไทย จำกัด กับพวกรวม 96 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้ายกรณีพวกจำเลยบุกเข้าไปในท่าอากาศยานดอนเมืองและ สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อปี2551ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างสืบพยานโจทก์
11.คดีหมายเลขดำ อ.1251/2556ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล และบริษัทไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัดโดยนายพชร สมุทวณิชและนายขุนทอง ลอเสรีวานิชกรรมการผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน ร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร การกระจายเสียงหรือภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา326และ328เมื่อวันที่20ก.ค.51เวลากลางคืน นายสนธิ แกนนำพันธมิตรฯ จำเลยที่1ขึ้นปราศรัยบนเวที บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราชดำเนินนอก พาดพิงนายเนวิน ชิดชอบอยู่เบื้องหลัง แนวร่วมต่อต้านเผด็จการ (นปก.) และเบื้องหลังศรีสะเกษที่ ตีพันธมิตรฯ
12.คดีหมายเลขดำ อ.1252/2556ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 10 ได้ยื่นฟ้องบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด โดยนายพชร สมุทวณิชและนายขุนทอง ลอเสรีวานิชกรรมการผู้มีอำนาจ,บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายปัญจภัทร อังคสุวรรณและนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์กรรมการผู้มีอำนาจ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นจำเลย ที่ 1- 3ในความผิดฐาน ร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร การกระจายเสียงหรือภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา326และ328กรณีเมื่อวันที่14ต.ค.51เวลากลางคืน นายสนธิ แกนนำพันธมิตรฯ จำเลยที่3ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ บริเวณทำเนียบรัฐบาลหมิ่นนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี จาบจ้วงสถาบัน และพยายามซื้อรากหญ้า ยึดตำรวจ และเอาเงินไปจ่ายให้ทหารบางคนเพื่อให้สถาบันกษัตริย์อ่อนแอ ทำลายรากฐานของกษัตริย์โดยศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาวันที่ 2 มิ.ย.59 ยืนให้ยกฟ้อง
13.คดีหมายเลขดำ อ.3973/2558ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา5เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต. จำลอง ศรีเมือง,นายสนธิ ลิ้มทองกุล ,นายพิภพ ธงไชย,นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์,นายสมศักดิ์ โกศัยสุข,นายสุริยะใส กตะศิลา,นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์,นายอมร อมรรัตนานนท์หรือรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี และนายเทิดภูมิใจดี อายุ แกนนำ พธม.เป็นจำเลยที่1-9กรณีเมื่อเดือน พ.ค.-ต.ค.51 แกนนำ พธม. ได้จัด ชุมนุมปิดถนนสาธารณะ และเคลื่อนกำลังไปในลักษณะ"ดาวกระจาย"ใช้รถยนต์บรรทุกเป็นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ไปกดดันบริเวณสถานที่ราชการหลายแห่งขับไล่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวชโดยคดีอยู่ระหว่างรอสืบพยานในศาลอาญา
14.คดีหมายเลขแดง อ.1241/2550 ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรมช.คมนาคม และอดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัทไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด,นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล,นายพชร สมุทวณิช,นายขุนทอง ลอเสรีวณิช,นายสนธิ ลิ้มทองกุล ,บริษัทแมแนเจอร์ มีเดียร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน),นายสุวัฒน์ ทองธนากุล,นายมรุชัช รัตนปรารมย์,นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์,นายวิรัตน์ แสงทองคำ เป็นจำเลยที่1-10ในความผิดฐานหมิ่นประ มาทโดยการโฆษณา
กรณีเมื่อที่25พ.ย.48นายสนธิ และน.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ร่วมจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่10ที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี มีเนื้อหาหมิ่นประมาทโจทก์ทำนองว่าเป็นอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ไม่เคารพสถาบันกษัตริย์และระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งเกี่ยวข้องกับการจัดทำเว็บไซด์ที่มีเนื้อหาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง โดยศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาวันที่ 11 ก.ย.52ให้จำคุกนายสนธิ เป็นเวลา 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา และให้ปรับบริษัท ไทยเดย์ฯ จำเลยที่1จำนวน200,000บาท ส่วนจำเลยอื่นให้ยกฟ้องซึ่งคดีอยู่ระหว่างฎีกาโดยศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาวันที่ 29 ก.ย.59
คดีในศาลแพ่ง
คดีที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง,นายสนธิ ลิ้มทองกุล , นายพิภพ ธงไชย,นายสุริยะใส กตะศิลา,นายสมศักดิ์ โกศัยสุข,นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์,นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์,นายอมร อมรรัตนานนท์,นายนรัญยู หรือศรัณยู วงษ์กระจ่าง,นายสำราญ รอดเพชร,นายศิริชัย ไม้งาม,นายมาลีรัตน์ แก้วก่าและนายเทิดภูมิ ใจดีแกนนำ พธม. เป็นจำเลยที่ 1-13คน ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย522,160,947.31บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ7.5ต่อปี นับแต่วันที่3ธ.ค.51เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จากกรณีร่วมกันปิดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อปี2551โดยคดีศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้จำเลยทั้ง 13 ราย ชำระค่าเสียหายตามฟ้อง
คดีในศาลอาญากรุงเทพใต้
1.คดีหมายเลขดำ อ.1469/2547ที่ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์อดีต ผบ.ตร. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์อดีตผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เป็นจำเลยที่1 - 2ในความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ และหมิ่นประมาทใส่ความโดยการแพร่ภาพ และการกระจายเสียงหรือป่าวประกาศ กรณีเมื่อวันที่19มี.ค.47จัดรายการ"เมืองไทยรายสัปดาห์"ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง9อ.ส.ม.ท. กล่าวหาว่า ยุคที่โจทก์เป็น ผบ.ตร. เป็นยุคที่ตำรวจละเมิดสิทธิมนุษยชนมากที่สุด และโจทก์ไร้ประสิทธิภาพโดยคดีถึงที่สุดเมื่อศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้อง
คดีในศาลแขวงดุสิต
1.วันที่10มี.ค.58 อัยการฝ่ายคดีศาลแขวง3 (ดุสิต ) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง,นายสนธิ ลิ้มทองกุล ,นายประพันธ์คูณมี,นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์,สมณะโพธิรักษ์,นายสุริยะใส กตะศิลา,นายเทิดภูมิ ใจดี,นายพิภพ ธงไชย,นายรัชต์ยุตม์ หรืออมร ศิรโยธินภักดี,นายทศพล แก้วทิมาแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)และกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ เป็นจำเลยที่ 1- 10 ในความผิดฐาน ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศ และข้อกำหนดห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเข้า หรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ หรือสถานที่ที่กำหนด ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551กรณีเมื่อวันที่8ก.พ.54ครม. สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ประกาศให้พื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตปทุมวัน เขตดุสิต และเขตวังทองหลาง เขตวัฒนาและเขตราชเทวี เป็นพื้นที่มีเหตุการณ์กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งจำเลยทั้ง 10 คน ร่วมกันตั้งเวทีชุมนุม และปิดการจราจร บน ถ.ราชดำเนินนอก บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ โดยใช้ชื่อ"กลุ่มเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ"โดยคดียังไม่มีคำตัดสิน
คดีในศาลล้มละลายกลาง
1.ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นบุคคลล้มละลาย โดยมีการประกาศคำสั่งของศาลลงในราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.43 ซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 3 ปี 2.ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งวันที่ 18พ.ย.51 ให้บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป เจ้าของหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการรายวัน ล้มละลาย เนื่องจากหนี้ท่วมกว่า4,700ล้านบาท
No comments:
Post a Comment