อดีตเลขาธิการวุฒิสภา ยกกรณีวัดธรรมกาย เทียบนาลันทา : หากชาวพุทธไทยยังประมาท.
.........
เกริ่นเรื่อง
- กรณี ท่านธัมมชโย แห่ง สำนักวัดพระธรรมกาย ที่ขณะนี้ ได้เกิดข้อขัดแย้งทางสังคม ที่อาจเรียกได้ว่า ฝังลึกลงไปในหัวใจชาวพุทธทั้งโลก และจะถูกจดบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ทางศาสนาโลกไปแล้ว.
- ถึงปัจจุบัน ก็ได้ถูกลากยาวไปสู่การแก้ไขปัญหาด้วยการ เน้นแต่กฎหมายเพียงด้านเดียว ...
"โดยมีความพยายามที่จะแก้ปัญหา
ด้วยการตัดออกจากหลักธรรมาภิบาล
ที่รัฐชูเป็นนโยบาย แบบงู ๆ ปลา ๆ ออกไป".
- เป็นการดำเนินการ ของ รัฐบาลทหารที่มาจากการปฎิวัติ ของ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ. ประยุทธ จันทร์โอชา.
- นึ้คือ สภาพการณ์ที่ผู้คนทั่วไปได้ทราบได้เห็น.
- ข้อว่า ระหว่างผิดไม่ผิด ของ ท่านธัมมชโย แห่ง วัดพระธรรมกายในประเทศไทย ที่เกิดขึ้นในขณะที่บ้านเมือง "อยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ" นั้น.
- เหตุการณ์ข้อขัดแย้งดังกล่าวนี้ ถึงวันนี้ ทำท่าจะไม่ใช่มีวงจำกัดอยู่แค่ วัดพระธรรมกายเฉพาะในประเทศไทยเสียแล้วละครับ.
- แต่ทำท่าจะขยายไปสู่ วงการพระพุทธศาสนาทั่วโลก ไม่เว้นแม้กระทั้งเกี่ยวข้องไปยังศาสนาอื่นๆ ในโลกอีกด้วย.
- เนื่องเพราะแค่เหตุผลในข้อเท็จจริงที่ว่า วัดพระธรรมกาย ที่สังกัดคณะสงฆ์ไทย ฝ่ายเถรวาทในไทยนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงแค่วัดธรรมดา ๆ เล็ก ๆ ดังเช่นทั่ว ๆ ไป แต่...
1. เป็นวัดที่ได้ชื่อว่า มีขนาดใหญ่โต และมีพระสงฆ์ และบุคคลากรทางศาสนาที่มากที่สุดในโลกในปัจจุบัน.
2. เป็นวัดที่มีระดับเทียบเท่าสถาบันที่มีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก โดยเทียบได้ทั้งด้านนโยบาย ถาวรวัตถุ ที่ตั้ง การบริหารจัดการ ที่เป็นถือว่า เป็นวัดนำร่อง ที่นำเอาระบบการบริหารจัดการแบบสากล สมัยใหม่ และนำด้านเท็คโนโลยี่ เข้ามาใช้เกื้อหนุนกิจการพระศาสนาอย่างเต็มรูปแบบ.
- ที่หากเอามาตรฐานสากลมาจัดอันดับ ก็น่าจะระดับเดียวกับ องค์กรหรือมหาวิทยาลัย อันดับต้น ๆ ของโลกในยุคปัจจุบัน.
3. เป็นวัด ที่หากนำเอาผลงาน ที่เป็นรูปธรรมที่ปรากฎชัดเจน มาจัดอันดับ เช่น จำนวนผู้คนที่ศรัทธา ทั้งฝ่ายบรรพชิต และคฤหัสถ์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทั่วโลก ที่น่าจะราว 5-10 ล้านคน รวมทั้งมีจำนวนวัด ที่เป็นสาขา อีกมีจำนวนกว่า 1000 แห่ง เฉพาะสาขาในต่างประเทศมีกว่า 200 แห่ง คุมไปเกือบทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งแน่นอน ศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ ก็ย่อมมีหลากหลายเชื้อชาติ และภาษา.
- ผมยกเพียงแค่ทั้ง 3 ข้อนี้ และใช้ตรรกะง่าย ๆ เท่านี้ ของ วัดพระธรรมกายมากล่าวถึง ก็ย่อมแจ้งชัดว่า ...
"นี่เป็นสมบัติทางจิตใจร่วม
ของ มวลมนุษยชาติทั้งโลก
ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น".
- ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลย หากจะมีคนที่ผ่านร้อนหนาวมามาก ที่เรียกว่า ระดับนักปราชญ์ ราชบัณฑิต ของ แผ่นดินทั้งหลาย ต่างออกมาทักท้วง ให้สติแก่สังคม.
- ที่ในช่วงเวลาเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเท่านั้น.
- ในสังคมชาวพุทธไทย ก็ได้เห็นการปรากฎตัวตน และเสนอแนวคิด ที่อยู่ในระดับรู้สึกที่อดจะ ..
"เป็นห่วง กังวล และสำนึกในพระคุณของพระศาสนา".
- เป็นกุศลเจตนา ของ บุคคลในแวดวงศาสนา จำนวนมาก ทั้งฝ่ายบรรพชิต และคฤหัสถ์.
- ซึ่งที่ได้รับยกย่องให้เป็นปูชนียบุคคลด้านศาสนาในแผ่นดิน อันดับต้น ๆ ของไทยร่วมสมัย อยู่ด้วย อีกถึง 2 ท่านด้วยกัน.
- โดยที่ท่านได้ออกมาพูดพร้อม ๆ กัน โดยไม่ได้นัดหมายใด ๆ เลย นั้นก็คือ..
- ศาสตราจารย์ พิเศษ จำนงค์ ทองประเสริฐ ป.ธ.9, MA. มหาวิทยาลัยเยล USA. , ราชบัณฑิต และอดีตเลขาธิการ ราชบัณฑิตยสถาน.
- อาจาร์ ดร. จำนงค์ สวมประคำ ป.ธ.4 อดีตเลขาธิการรัฐสภา แห่งรัฐสภาไทย.
- ซึ่งทั้งสองท่านี้ล้วนเป็นศิษย์แห่งสำนักภูเขาทอง.
----
- อย่าลืมนะครับ การที่คนระดับนี้ ถึงกับต้องแสดงตัวอย่างเปิดเผย พากันออกมาชี้ถูกผิดให้แก่สังคม โดยไม่ได้มีผลประโยขน์ใด ๆ ด้วยกุศลเจตนา และด้วยความหวังดีต่อชาติบ้านเมืองจริง ๆ นั้น.
- ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่เรื่องทำนองนี้จะเกิดขึ้นได้ นาน ๆ จึงจะเกิดขึ้นสักที.
- ดังนั้น ผู้แสวงหาสัจจธรรม และมงคลในขีวิต และผู้เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาข้อขัดแย้งทุกระดับ จึงไม่ควรที่จะมองข้ามไปได้.
-ซึ่งแน่นอน ย่อมแตกต่างกับพวกบรรดานักปราชญ์จอมลวงโลก ที่เห่าหอนแต่เรื่องไร้สาระไปวัน ๆ ชนิดฟ้ากับเหวอย่างแน่นอน.
- ผมจึงอยากจะนำมา เพื่อกระตุกสติให้แก่สังคมไทย อยากแนะนำผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา แบบสั้น ๆ ว่า..
"ผู้เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาสงฆ์
แก้ปัญหาวัดพระธรรมกายทุกระดับ
ขอทุกท่าน จงโปรดตรึกตรองให้ละเอียดด้วยเถิด
อย่าถือว่ามีอำนาจมีกฎหมาย
มีหมายศาลในมืออย่างเดียว
แล้วจะจัดการได้เรียบร้อยได้
เหมือนคดีทางโลกทั่ว ๆ ไป
เรื่องนี้ มันไม่ใช่ใช้ตรรกะคิดเพียงแค่ว่า
ผิดกฎหมายหรือถูกกฎหมายเท่านั้น
แต่มันเป็นเรื่องของความเชื่อ
เรื่องของจิตใจมนุษย์
มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนลึกซึ้งนัก"
ขอพวกท่าน จงยับยั้งช่างใจดี ๆ
และจงคิดให้รอบคอบ
จงคิดให้หนักนะครับ
เพราะเรื่องแบบนี้
"มันใหญ่เกินกว่าใคร ๆ
ทุกคนที่ยังล้วนเป็นแค่
ปุถุชนคนธรรมดาเท่านั้น
จะรับผิดชอบได้"
ซึ่งนอกจากเป็นเรื่อง ของ กรรมวิบากแล้ว
ประวัติศาสตร์วงการศาสนาโลก
ก็จะจดจารึกเหตุการณ์เหล่านี้ ไว้อีกด้วย".
- ผมก็คงพูดเตือนได้ เพียงแค่นี้แหละครับ.
- ขอให้ใช้ "กุศลจิต" คิดนะครับ จงอย่าใช้ "อกุศลจิต" คิด.
------
เข้าเรื่อง
- ในโพสต์ครั้งล่าสุดนั้น ผมได้เสนอเกี่ยวกับ ศาสตราจารย์ พิเศษ จำนงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต อดีตเลขาธิการ ราชบัณฑิตยสถานไปแล้ว.
- ในครั้งนี้ จึงขอเสนอ ปูชนียบุคคลของสังคมอีกท่านหนึ่ง คือ ท่าน อ. ดร. จำนงค์ สวมประคำ อดีตเลขาธิการรัฐสภา.
------
นาลันทา 2 กำลังจะเกิดขึ้นที่ประเทศไทย : หากชาวพุทธยังตั้งอยู่ในความประมาท.
.........
- เมื่อเช้านี้ ผมได้รับข้อมูลที่ถูกส่งมาไทย เป็นบทความ เรื่องราวที่ อ. ดร. จำนงค์ สวมประคำ อดีตเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งท่านเป็นอดีตมหาคนวัดแท้ ๆ รุ่นพ่อเก่า ท่านพูดไว้.
- บทความนี้ เป็นส่วนหนึ่ง ที่ท่านได้ไปบรรยายเรื่อง เกี่ยวกับภัยพระพุทธศาสนา ให้แก่ พระสังฆาธิการในภาคอีสานฟัง เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยในบางช่วงของการบรรยายนั้น.
- ท่านก็ได้ยก กรณีวัดพระธรรมกาย ขึ้นมาเปรียบเทียบกับการล่มสลาย ของ มหาวิทยาลัย นาลันทา ในประเทศอินเดีย เพื่อเตือนสติแก่ชาวพุทธไทยทั่วไปด้วย.
- สำหรับ อาจารย์ ดร. จำนงค์ สวมประคำ นั้น ด้วยวุฒิ ด้วยวัยวุฒิ ด้วยการผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน ท่านจึงรู้เห็นความเป็นเปลี่ยนแปลงทั้งทางโลก และทางธรรมมามาก.
- โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงของพระพุทธศาสนาที่ท่านได้สะสม ชนิดที่เรียกว่า "ตกผลึก" แบบคนรู้แจ้งนั้น.
- ผู้แสวงหาความจริง และสาระแก่นสาร ของ พระพุทธศาสนา และแสวงหาแนวทางอุดมมงคลชีวิตของตน ย่อมไม่สมควรมองผ่านไปเฉยๆ โดยประการทั้งปวง มิเช่นนั้น ท่านจะพลาดโอกาสครับ.
- เมื่อเป็นเช่นนี้ ผม และทีมงาน ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า การบรรยายในครั้งนี้ มีสาระประโยชน์ต่อสังคมชาวพุทธ และน่าจะเหมาะสมกับเหตุการณ์ปัญหาความขัดแย้งในปัจจุบัน.
- จึงขอนำมาเผยแพร่ต่อ และเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา จึงขออนุญาตเจ้าของบทความ ที่จะขอยกบทความทั้งหมด นำมาเผยแพร่ตรงนี้ไปเลย ดังนี้ครับ...
-----
บทความที่ยกมา.....
ท่านจะทนได้หรือ...?
หากพระพุทธศาสนาล่มสลายในยุคที่เรายังมีชีวิตอยู่
โดย อาจารย์ ดร. จำนงค์ สวมประคำ
ความคิดเห็นบางส่วนโดย"ท่านจำนงค์ สรวมประคำ" ได้บรรยายในที่ประชุมของพระสังฆาธิการ ภาค 10 ที่ จ.อุบลราชธานี เกี่ยวกับสถานการณ์พระพุทธศาสนา ท่านได้กล่าวไว้ว่า....
"ขณะนี้เป็นสถานการณ์สงครามทำลายล้างพุทธศาสนาในประเทศไทย จึงต้องทำลายล้างวัดพระธรรมกายให้ได้เพราะเป็นปราการณ์ที่เข้มแข็งที่สุดของพระพุทธศาสนา" ท่านยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า "มันเป็นสงคราม เขาจะไม่ปรานีใดๆ กับหลวงพ่อทั้งสิ้น ให้สู้ด้วยวิธีมาร่วมกันนั่งสมาธิที่วัดพร้อมกันจำนวนมากๆ อย่างนี้ดีที่สุดแล้ว"
**********************************
เรามาดูตัวอย่าง ในอดีตที่ผ่านมากันนะครับ นาลันทาเป็นสิ่งที่แสดงความเจริญรุ่งเรื่องของพระพุทธศาสนาในสมัยก่อน มหาวิทยาลัยนาลันทา มีพระภิกษุมาศึกษาเล่าเรียนมากกว่า 10,000 รูป มีพระอาจารย์ 1,500 รูป พระมหากษัตริย์ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีในทุกๆด้าน พระไม่ต้องกังวลเรื่องปัจจัย ๔ ประชาชนเข้าวัดทำบุญเป็นจำนวนมาก ต่อมาภายหลัง กองทัพมุสลิมจำนวน200คนได้ยกทัพมาบุกรุกราน ขี่ม้าถือดาบไล่ฟันพระอย่างโหดเหี้ยม กองทัพมุสลิมใช้เวลาถึง 7วัน 7 คืน จนม้ากลายเป็นสีเลือดเหมือนเลือดท่วมตัวม้า ไล่เผาคัมภีร์ ใช้เวลาเผาถึง 3 เดือนกว่าจะหมด ในขณะที่พระก็ไม่ได้ต่อสู้อะไรเลย
นับจากนั้น เมื่อนาลันทาถูกเผาทำลายย่อยยับ ศาสนาพุทธก็ได้มลายหายไปจากผืนแผ่นดินอินเดีย ที่ซึ่งให้กำเนิดศาสนานี้แก่ชาวโลก และไม่เคยกลับมารุ่งเรืองได้อีกตราบจนปัจจุบัน....
ถ้าหากเราชาวพุทธฯ ยังคงนิ่งดูดาย ปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เมืองไทยเมืองพุทธก็คงจะได้ใช้คำว่า เมืองไทยอดีตเมืองพุทธฯแน่นอนครับ.... แล้วพวกเราชาวพุทธฯ ท่านจะทนได้หรือ...? หากพระพุทธศาสนาล่มสลายในยุคที่เรายังมีชีวิตอยู่
---------------------------------------
นายจำนงค์ สวมประคำ
อดีตเลขาธิการวุฒิสภา
คุณวุฒิ
เศรษฐศาสตรบัณฑิต สาขาประยุกต์ (ม.ธรรมศาสตร์)
พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพระพุทธศาสนา (ม.มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย)
ปริญญาบัตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 37
หลักสูตรการบริหารพัสดุ รุ่นที่ 37 (กระทรวงการคลัง)
ประสบการณ์
อาจารย์พิเศษ คณะสังคมศาสตร์ ม.จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
---------
- จบบทความที่ยกมาเพียงเท่านี้ครับ.
-----------
สรุป
- ก็คงไม่ต้องสรุปอะไรแล้วครับ เพราะชัดเจนอยู่ในเนื้อหาข้างต้นอยู่แล้ว.
- เพียงแต่อยากจะเตือนสติ ชาวพุทธทุกท่าน ต่ออีกสักนิดว่า ..
1. ผู้ที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาสงฆ์ และปัญหาวัดพระธรรมกาย ทุกเรื่อง ทุกภาคส่วน ทั้งการพยายามแก้ กม. สงฆ์ ม. 7 ของ กฤษฎึกาด้วย ว่า..
"หากท่านหวังดีต่อพระศาสนา และบ้านเมืองจริง
พวกท่านจะต้องฟังคำนักปราชญ์
ผู้เป็นปูชนียบุคคลของแผ่นดิน
ที่ท่านออกมาพูดด้วยหวังดีถึง 2 ท่านเหล่านี้ด้วย
แล้วจงนำไปใช้สติปัญญา พิจารณาให้รอบด้าน
เพื่อแก้ไขปัญหาให้ถูกต้อง ตรงจุด ไม่บานปลาย
ที่อาจจะส่งความเสียหายตามมา อย่างมหาศาล
ทั้งต่อสังคม และชาติบ้านเมือง อย่างเกินคาดได้.
2. สำหรับ ผู้ที่หวงแหนพระพุทธศาสนา ที่รู้คุณค่าของพระศาสนา ที่ถือว่าเป็นมรดกอันล้ำค่าที่สุด ที่บรรพบุรุษไทย ได้เลือกสรร และรักษาไว้ แล้วส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นถึงปัจจุบันนี้แล้ว.
- เมื่อท่านได้มาฟังตรงนี้แล้ว
จงร่วมกันนำไปเผยแพร่ต่อไปให้มากที่สุด และ...
"จงตื่นตัว ฉุกคิดได้แล้วว่า
ภัยพระศาสนามาถึงแล้ว
ให้อยู่กับความเป็นจริง
อย่าประมาท
อย่ามัวโลกสวย ที่คิดแค่ว่า ..
"เดี๋ยวผลกรรมมันก็สนองคนชั่วเอง" นั้น.
- ซึ่งหากพากันคิดเช่นนี้แล้ว ระวังเหตุการณ์ "นาลันทา 2" ก็คงเห็นในไม่ช้านี้ เกิดขึ้นในประเทศไทยเราอย่างแน่นอน.
3. ส่วนพวกแก๊งค์เด็ก ๆ เมื่อวานซืน ที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม รู้เรื่องพุทธศาสนาแบบผิวเผิน หรือพวกบวชๆ สึก ๆ ที่ขอบอวดอ้างตนว่า รอบรู้พระธรรมวินัย พูด และแสดงออกมาเหมือนคนบ้าคนเพี้ยน ทำพองตัวอวดภูมิความรู้ แล้วออกมาโต้แย้งคนระดับราชบัณฑิต ชนิดแบบข้าง ๆ คู ๆ อยู่นั้น.
- คนพวกมืดบอดเหล่านี้ ผมคิดว่า ก็คงจะต้องปล่อยให้พวกมัน ..
"จงไปนอนกอดมิจฉาทิฎฐิ กอดอวิชขา
ตกตายตามกันไปเถอะครับ".
- ให้มันตายไปพร้อม ๆ กับพวกลูกศิษย์โง่ๆ ที่ไม่ยอมเปิดปัญญารับฟังใครใดๆ เลยนั้น ก็ให้มันตายรวมไปเป็นผีเป็นวิญญาญเร่ร่อน สิงสถิตย์อยู่ในสำนักเน่า ๆ ตรงนั้น ต่อไปเถอะครับ.
- เพราะดูแล้ว คงโปรดอะไรไม่ขึ้นแล้วละ คนจำพวกนี้.
------
- สุดท้าย ผมขอจบโพสต์นี้ ด้วยขอฝากคติข้อคิดสไตล์เจ้าคุณเบอร์ลิน แบบง่าย ๆ ที่จะขอมอบให้แก่ผู้นำที่ยังเขลา หลงในอำนาจตน และผู้ที่คิดจะเป็นยอดผู้นำคน ที่จะให้ผู้คนทั่วแผ่นได้สรรเสริญว่า...
"อันการเป็นผู้นำ
ผู้ปกครองคนที่ดีนั้น
จะต้องมีครบทั้ง
พระเดช และพระคุณ
ส่วนการจะเลื่อนชั้น
เป็นผู้นำเหนือผู้นำนั้น
พระคุณจะต้องนำหน้า
ใช้พระเดช (อำนาจ) ตามหลัง
หากผิดตรงข้ามจากนี้แล้วไซร้
ก็คงเป็นได้ก็แค่หัวหน้าซ่องโจรชั้นต่ำเท่านั้น
แล้วจงนับเวลาถอยหลัง สู่ความฉิบหายได้เลย".
- ด้วยกุศลเจตนา หากท่านนายกบิ๊กตู่ หรือผู้ที่กำลังเสวยอำนาจ ที่คิดแต่จะใช้อำนาจที่สมมติ ที่มีอยู่ในแผ่นกระดาษ กับพระ กับเจ้า ตะพึดตะพืออยู่ในตอนนี้นั้น.
- หากหวังความเจริญ เลี่ยงความเสื่อม จะมาอ่าน แล้วนำไปพิจารณาปฎิบัติ ก็ไม่ห้าม ไม่สงวนลิขสิทธิ์ใด ๆ นะครับ.
โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
Berlin,den 05.07.2016
แนบภาพประกอบ.
ซาก มหาวิทยาลัย นาลันทา อินเดีย ในปัจจุบัน.
No comments:
Post a Comment